นพดล แถลง 10ข้อโต้ ปชป. ยันทักษิณรวยก่อนเข้าสู่การเมือง น่าละอายปกป้องรัฐประหารปี49ที่คนไทยปฏิเสธ ชี้ปชช.ส่วนใหญ่สนับสนุนพท.

แสดงความคิดเห็น

นพดล ปัทมะ

หลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือตอบโต้ปาฐกถาของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บนเวทีระชาธิไตยโลกที่มองโกเลีย เพื่อให้นานาชาติรับทราบข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองของ ไทยนั้น

วันที่ 10 พ.ค. 56 นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คส่วนตัวตอบโต้แถลงการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2556 โดยระบุว่า

พรรคประชาธิปัตย์ได้ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2556 ที่มีข้อกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐานสนับสนุน และข้อกล่าวหาเท็จมากมาย จึงเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องชี้แจงหักล้างข้อกล่าวหา และนำเสนอลำดับเหตุการณ์การเมืองของไทยที่ชาวโลกสมควรจะได้รับทราบความจริง

ปัญหาพื้นฐานของประเทศไทย คือ ประเทศต้องการมีประชาธิปไตย แต่กลุ่มต่อต้านประชาธิปไตยไม่เต็มใจที่จะยอมรับความต้องการของประชาชนผู้มี สิทธิ์ออกเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ได้แสดงผ่านการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

1. พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีรวยก่อนเข้าสู่การเมือง

พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวร่ำรวยมานานก่อนเข้าสู่การเมือง ในปี 2537 ความร่ำรวยของครอบครัวได้ถูกประเมินไว้ไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นล้านบาท

พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ เข้ารับตำแหน่งนักการเมืองครั้งแรกในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่าง ประเทศในปี 2537 ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนแรกและคนเดียวที่ชนะการเลือกตั้งทั่วไป 2 ครั้งติดต่อกัน ในปี 2544 และ 2548

ธุรกิจโทรคมนาคมที่ครอบครัวเป็นเจ้าของ ไม่ได้เป็นกิจการผูกขาด เพราะมีผู้แข่งขันรายอื่น และสัมปทานได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย จากรัฐบาลพลเรือนในปี 2532 ไม่ใช่จากรัฐบาลทหาร ตามคำกล่าวหาเท็จโดยพรรคประชาธิปัตย์

2. ข้อกล่าวอ้างว่ามีการวิสามัญฯ หลายพันรายในสมัย พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร ดำเนินนโยบายสงครามต่อต้านยาเสพติด เป็นเรื่องจินตนาการและเป็นเท็จ

ข้อกล่าวอ้างว่ามีการวิสามัญฆาตกรรมหลายพันรายในสมัย พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร ดำเนินนโยบายสงครามต่อต้านยาเสพติด เป็นเท็จอย่างสิ้นเชิง จากรายงานที่เป็นทางการของ ป.ป.ส. มีการเสียชีวิตเพียง 50 รายเท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

ตัวเลขการตาย 2,500 ศพ เป็นตัวเลขการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ และจากทุกอาชญากรรมในช่วงเวลาหนึ่ง พันตำรวจโท ดร.ทักษิณไม่เคยมีนโยบายยิงเพื่อสังหารผู้ค้ายา และไม่เคยสั่งให้เจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายไปฆ่าใคร

3. การให้เหตุผลปกป้องการรัฐประหารที่น่าละอาย

ในเดือนกันยายน 2549 มีการรัฐประหารเพื่อล้ม พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยออกจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นการลบล้างคะแนนเสียงของประชาชนชาวไทยกว่า 14 ล้านคน

คณะรัฐประหารได้ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ที่ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด จนถูกเรียกว่ารัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และคณะรัฐประหาร ได้ร่วมมือกับพันธมิตรกลุ่มอื่นๆ ในกลุ่มชนชั้นอำมาตย์ เพื่อที่จะประกาศใช้รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ฉบับปี 2550 ซึ่งประเทศไทย ยังอยู่ใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้จนปัจจุบัน

เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อและน่าละอาย ที่พรรคประชาธิปัตย์จะพูดถึงการรัฐประหารในเดือน กันยายน 2549 ว่าเป็นเพียงการแทรกแซงโดยทหาร เพราะมันคือการทำลายประชาธิปไตยอย่างชัดแจ้ง

พรรคประชาธิปัตย์ควรจะตระหนักว่า การออกเสียงลงประชามติเพื่อเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญในปี 2550 ได้กระทำขึ้นภายใต้บรรยากาศของการข่มขู่และความหวาดกลัวว่ารัฐบาลทหารอาจ เลือกรัฐธรรมนูญฉบับใดมาประกาศใช้ ถ้าการออกเสียงลงประชามติล้มเหลว

4. คนไทยปฏิเสธการรัฐประหารเมื่อปี 2549 แต่ฝ่ายปฏิกิริยาและฝ่ายต่อต้านประชาธิปไตยยังคงทำงานอยู่

ชัยชนะของพรรคพลังประชาชนในปี 2550 ทั้งๆ ที่การเลือกตั้งเกิดขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย และทั้งๆ ที่มีการพยายามโดยคณะรัฐประหารที่จะป้องกันไม่ให้คนไทยใช้สิทธิ์เลือกตั้ง พรรคฝ่าย พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ได้แสดงให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ปฏิเสธและไม่ยอมรับการรัฐประหารในปี 2549

ในปี 2551 รัฐบาลพรรคพลังประชาชนที่นำโดยนายสมัคร สุนทรเวช ได้เผชิญกับแรงกดดันให้ลงจากอำนาจ ท่ามกลางการประท้วงและการก่อความวุ่นวายโดยกลุ่ม พธม. พรรคพลังประชาชนสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ในขณะที่กลุ่ม พธม. กล่าวหาว่าเป็นความพยายามที่จะนิรโทษกรรมทางการเมืองให้แก่ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ

กลุ่ม พธม. ได้ยึดทำเนียบรัฐบาลและสนามบินสุวรรณภูมิในเดือนพฤษภาคม 2551 เพื่อล้มรัฐบาลให้ได้ ส.ส. หลายคนจากพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมการประท้วง รวมทั้งนายกษิต ภิรมย์ ซึ่งต่อมาได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และถูกตั้งข้อกล่าวหาก่อการร้าย

ท้ายที่สุดนายสมัคร สุนทรเวช ถูกตัดสินโดยศาลรัฐธรรมนูญว่าขาดคุณสมบัติที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากการออกรายการทีวีทำกับข้าว ซึ่งก่อให้เกิดความประหลาดใจเป็นอย่างมากในหมู่ผู้สนับสนุน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้เข้าตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

5. การยุบพรรคพลังประชาชน

ในเดือนธันวาคม 2551 ศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งยุบพรรคพลังประชาชนและพรรคเล็กอื่นๆ และได้ตัดสิทธิ์เลือกตั้งนักการเมือง 109 คน เป็นเวลา 5 ปี และทำให้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

จากข้อหาที่ว่ากรรมการบริหารพรรค 1 คนได้จ่ายเงินประมาณ 20,000 บาท แก่ผู้นำท้องถิ่นก่อนวันเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่กรรมการบริหารเพียงคนเดียวถูกตัดสินว่ากระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง แต่กรรมการบริหารที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ก็ต้องถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้งไปด้วย

6. นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไม่เคยพยายามที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อช่วยเหลือ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตรตามที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา

ข้อกล่าวหาของพรรคประชาธิปัตย์ที่ว่า นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พยายามที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อนำ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ กลับบ้านโดยไม่มีความผิด จนก่อให้เกิดการประท้วงบนท้องถนนนั้น เป็นความเท็จ เพราะทั้งสองท่านไม่เคยดำเนินการดังกล่าว

7. ส.ส. จำนวนมากถูกบังคับให้ออกจากพรรคการเมืองฝ่าย พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อไปสนับสนุนการตั้งรัฐบาลใหม่

ในเดือนธันวาคม 2551 หลังจากการยุบพรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทยถูกตั้งขึ้นแทนพรรคพลังประชาชน และเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยขณะนั้น แต่พวกเราถูกบังคับและเสียสิทธิ์ในการตั้งรัฐบาล เพราะได้มีการรัฐประหารเงียบเกิดขึ้น

และพรรคเล็กพรรคน้อยได้ถูกบังคับให้ไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้ เป็นแกนนำในการตั้งรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยชนะการเลือกตั้งในระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา และขาดอาณัติจากประชาชนที่จะทำเช่นนั้น พรรคเพื่อไทย พี่น้องคนเสื้อแดง และคนไทยนับล้าน ไม่ยอบรับความชอบธรรมของรัฐบาลนี้

8. ประชาชนชาวไทยเพียงแค่ต้องการประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม

คนเสื้อแดงประกอบไปด้วยประชาชนจากทุกภาคส่วน ซึ่งคัดค้านการรัฐประหารเพื่อล้มล้าง พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร ให้ออกจากตำแหน่งในปี 2549 และบุคคลเหล่านี้ไม่อาจทนต่อ ระบบสองมาตรฐาน และความอยุติธรรม กลุ่มคนดังกล่าวเหล่านี้เชื่อว่าสิทธิทางการเมืองถูกพรากไปโดยรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน ที่ร่างโดยผู้ที่หัวหน้าคณะรัฐประหารแต่งตั้งขึ้น

ยิ่งกว่านั้น พวกเขามีความเห็นว่ารัฐบาลนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ ไม่มีความชอบธรรม เพราะเข้าสู่อำนาจโดยผลของการกดดันทางการเมืองและการเจรจาลับหลังจากที่มี การตัดสินของศาล ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก

ซึ่งเป็นผลให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนสองรัฐบาล ที่นำโดย นายสมัคร สุนทรเวช และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องพ้นจากตำแหน่ง พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคพลังประชาชนไม่สามารถครอบงำคนเสื้อแดง พวกเขาได้ชุมนุมประท้วงเป็นเวลา 2-3 เดือน

จนรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ได้สั่งให้ทหารพร้อมอาวุธสงครามสลายการชุมนุมในวัน ที่ 19 พฤษภาคม 2553 และก่อให้เกิดการเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก การใช้กระสุนจริงเพื่อสลายผู้ชุมนุมที่ใช้สิทธิ์ชุมนุมภายใต้รัฐธรรมนูญ

และข้อเท็จจริงที่ว่าการปฏิบัติการได้เกิดขึ้นในเวลากลางคืน ไม่เป็นไปตามขั้นตอนและมาตรฐานสากล ยังผลให้มีผู้ประท้วงและทหารเสียชีวิตราว 91 ศพ และบาดเจ็บนับพันราย ศาลอาญาได้ตัดสินในหลายคดีว่าการเสียชีวิตเกิดจากกระสุนจริงที่ใช้โดยเจ้า หน้าที่ของรัฐ

9. การตั้งข้อกล่าวหาคดีอาญาและคดีการก่อการร้ายต่อ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร

ข้อกล่าวหาทั้งหมดที่มีต่อ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ได้เกิดขึ้นหลังการรัฐประหาร และถูกสอบสวนโดย คตส.. ที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารและสมาชิกประกอบไปด้วยบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ทาง การเมืองเป็นอย่างมากต่อ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ดังนั้นจึงขัดกับหลักนิติธรรม คดีที่ดินรัชดา ที่เป็นคดีเดียวที่ตัดสินว่า พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ มีความผิด ก็อยู่ในคดีดังกล่าวเหล่านี้ด้วย

การถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ชักใยการประท้วง ทั้งๆ ที่ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณได้ปฏิเสธมาอย่างต่อเนื่องว่าท่านเพียงให้กำลังใจ และเห็นด้วยกับสิ่งที่ผู้ชุมนุมเรียกร้อง นั่นก็คือประชาธิปไตยและความยุติธรรมสำหรับคนไทยทุกคน พยานที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ใช้เพื่อสนับสนุนข้อหาก่อการร้ายต่อ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ

เป็นเพียงวิดีโอที่ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณพูดกับคนเสื้อแดงว่า ถ้าทหารใช้ความรุนแรงต่อคนเสื้อแดง ให้พี่น้องคนเสื้อแดงไปรวมตัวที่ศาลากลางจังหวัด พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ไม่เคยสั่งหรือขอให้ใครกระทำการที่ผิดกฎหมาย และได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาก่อการร้ายที่ถูกตั้งขึ้นเพราะมีเหตุจูงใจทางการ เมือง

10. ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้นำพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 พรรคเพื่อไทยชนะ 265 ที่นั่งจากจำนวน 500 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยได้รณรงค์อย่างชัดเจนว่านโยบายที่นำเสนอนั้น พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ เป็นคนคิด และพรรคเพื่อไทยเป็นคนทำ

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย และผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้ในสิ่งที่ตนเองเลือก นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ ของประเทศไทย ทั้งในทางข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง และท่านก็เป็นผู้ตัดสินใจในฐานะนายกรัฐมนตรี นายกฯ ยิ่งลักษณ์ เข้าประชุมสภาฯ ตามที่เห็นว่าจำเป็น และไม่เคยมีเจตนาที่จะละเลยหน้าที่นี้

เหมือนพี่ชายของท่าน นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ไม่เคยมีความปรารถนาที่จะครอบงำ 3 อำนาจ ตามที่กล่าวหาเท็จโดยประชาธิปัตย์ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ มีความเห็นว่าฝ่ายตุลาการ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ ควรถ่วงดุลและตรวจสอบซึ่งกันและกันแทนที่จะครอบงำอำนาจอื่น

คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อเร็วๆ นี้ ที่รับคำร้องที่ยื่นโดยสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการสรรหา ที่กล่าวหาว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดย ส.ส. และ ส.ว. ที่ค้างอยู่ในรัฐสภาในขณะนี้ เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ

ได้ก่อให้เกิดความกังวลใจในหมู่ประชาชนเป็นอย่างมาก คำสั่งนี้ถูกมองโดยนักกฎหมายชั้นนำในประเทศ และคนไทยจำนวนหลายล้านคน ว่าเป็นการใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่เกินเลยไป และอาจจะเป็นการละเมิดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจ

ปัญหาการเมืองในประเทศไทยจะยังคงมีอยู่ต่อไป ตราบใดที่เจตจำนงและการตัดสินใจของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไม่ได้รับการ เคารพ ไม่ควรมีพรรคการเมืองใดได้ประโยชน์จากการรัฐประหาร

หรือจากรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เฉพาะ ประชาธิปไตย หลักนิติธรรม และความยุติธรรม เท่านั้น ที่จะสามารถประกันให้มี สันติภาพ และความมั่งคั่งของประเทศไทย และของโลกได้

ขอบคุณ http://news.mthai.com/headline-news/237727.html

ที่มา: MThai News ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 10 พ.ค.56
วันที่โพสต์: 11/05/2556 เวลา 02:55:50 ดูภาพสไลด์โชว์ นพดล แถลง 10ข้อโต้ ปชป. ยันทักษิณรวยก่อนเข้าสู่การเมือง น่าละอายปกป้องรัฐประหารปี49ที่คนไทยปฏิเสธ ชี้ปชช.ส่วนใหญ่สนับสนุนพท.

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

นพดล ปัทมะ หลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือตอบโต้ปาฐกถาของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บนเวทีระชาธิไตยโลกที่มองโกเลีย เพื่อให้นานาชาติรับทราบข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองของ ไทยนั้น วันที่ 10 พ.ค. 56 นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คส่วนตัวตอบโต้แถลงการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2556 โดยระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2556 ที่มีข้อกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐานสนับสนุน และข้อกล่าวหาเท็จมากมาย จึงเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องชี้แจงหักล้างข้อกล่าวหา และนำเสนอลำดับเหตุการณ์การเมืองของไทยที่ชาวโลกสมควรจะได้รับทราบความจริง ปัญหาพื้นฐานของประเทศไทย คือ ประเทศต้องการมีประชาธิปไตย แต่กลุ่มต่อต้านประชาธิปไตยไม่เต็มใจที่จะยอมรับความต้องการของประชาชนผู้มี สิทธิ์ออกเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ได้แสดงผ่านการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา 1. พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีรวยก่อนเข้าสู่การเมือง พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวร่ำรวยมานานก่อนเข้าสู่การเมือง ในปี 2537 ความร่ำรวยของครอบครัวได้ถูกประเมินไว้ไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นล้านบาท พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ เข้ารับตำแหน่งนักการเมืองครั้งแรกในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่าง ประเทศในปี 2537 ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนแรกและคนเดียวที่ชนะการเลือกตั้งทั่วไป 2 ครั้งติดต่อกัน ในปี 2544 และ 2548 ธุรกิจโทรคมนาคมที่ครอบครัวเป็นเจ้าของ ไม่ได้เป็นกิจการผูกขาด เพราะมีผู้แข่งขันรายอื่น และสัมปทานได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย จากรัฐบาลพลเรือนในปี 2532 ไม่ใช่จากรัฐบาลทหาร ตามคำกล่าวหาเท็จโดยพรรคประชาธิปัตย์ 2. ข้อกล่าวอ้างว่ามีการวิสามัญฯ หลายพันรายในสมัย พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร ดำเนินนโยบายสงครามต่อต้านยาเสพติด เป็นเรื่องจินตนาการและเป็นเท็จ ข้อกล่าวอ้างว่ามีการวิสามัญฆาตกรรมหลายพันรายในสมัย พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร ดำเนินนโยบายสงครามต่อต้านยาเสพติด เป็นเท็จอย่างสิ้นเชิง จากรายงานที่เป็นทางการของ ป.ป.ส. มีการเสียชีวิตเพียง 50 รายเท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตัวเลขการตาย 2,500 ศพ เป็นตัวเลขการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ และจากทุกอาชญากรรมในช่วงเวลาหนึ่ง พันตำรวจโท ดร.ทักษิณไม่เคยมีนโยบายยิงเพื่อสังหารผู้ค้ายา และไม่เคยสั่งให้เจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายไปฆ่าใคร 3. การให้เหตุผลปกป้องการรัฐประหารที่น่าละอาย ในเดือนกันยายน 2549 มีการรัฐประหารเพื่อล้ม พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยออกจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นการลบล้างคะแนนเสียงของประชาชนชาวไทยกว่า 14 ล้านคน คณะรัฐประหารได้ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ที่ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด จนถูกเรียกว่ารัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และคณะรัฐประหาร ได้ร่วมมือกับพันธมิตรกลุ่มอื่นๆ ในกลุ่มชนชั้นอำมาตย์ เพื่อที่จะประกาศใช้รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ฉบับปี 2550 ซึ่งประเทศไทย ยังอยู่ใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้จนปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อและน่าละอาย ที่พรรคประชาธิปัตย์จะพูดถึงการรัฐประหารในเดือน กันยายน 2549 ว่าเป็นเพียงการแทรกแซงโดยทหาร เพราะมันคือการทำลายประชาธิปไตยอย่างชัดแจ้ง พรรคประชาธิปัตย์ควรจะตระหนักว่า การออกเสียงลงประชามติเพื่อเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญในปี 2550 ได้กระทำขึ้นภายใต้บรรยากาศของการข่มขู่และความหวาดกลัวว่ารัฐบาลทหารอาจ เลือกรัฐธรรมนูญฉบับใดมาประกาศใช้ ถ้าการออกเสียงลงประชามติล้มเหลว 4. คนไทยปฏิเสธการรัฐประหารเมื่อปี 2549 แต่ฝ่ายปฏิกิริยาและฝ่ายต่อต้านประชาธิปไตยยังคงทำงานอยู่ ชัยชนะของพรรคพลังประชาชนในปี 2550 ทั้งๆ ที่การเลือกตั้งเกิดขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย และทั้งๆ ที่มีการพยายามโดยคณะรัฐประหารที่จะป้องกันไม่ให้คนไทยใช้สิทธิ์เลือกตั้ง พรรคฝ่าย พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ได้แสดงให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ปฏิเสธและไม่ยอมรับการรัฐประหารในปี 2549 ในปี 2551 รัฐบาลพรรคพลังประชาชนที่นำโดยนายสมัคร สุนทรเวช ได้เผชิญกับแรงกดดันให้ลงจากอำนาจ ท่ามกลางการประท้วงและการก่อความวุ่นวายโดยกลุ่ม พธม. พรรคพลังประชาชนสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ในขณะที่กลุ่ม พธม. กล่าวหาว่าเป็นความพยายามที่จะนิรโทษกรรมทางการเมืองให้แก่ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ กลุ่ม พธม. ได้ยึดทำเนียบรัฐบาลและสนามบินสุวรรณภูมิในเดือนพฤษภาคม 2551 เพื่อล้มรัฐบาลให้ได้ ส.ส. หลายคนจากพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมการประท้วง รวมทั้งนายกษิต ภิรมย์ ซึ่งต่อมาได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และถูกตั้งข้อกล่าวหาก่อการร้าย ท้ายที่สุดนายสมัคร สุนทรเวช ถูกตัดสินโดยศาลรัฐธรรมนูญว่าขาดคุณสมบัติที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากการออกรายการทีวีทำกับข้าว ซึ่งก่อให้เกิดความประหลาดใจเป็นอย่างมากในหมู่ผู้สนับสนุน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้เข้าตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป 5. การยุบพรรคพลังประชาชน ในเดือนธันวาคม 2551 ศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งยุบพรรคพลังประชาชนและพรรคเล็กอื่นๆ และได้ตัดสิทธิ์เลือกตั้งนักการเมือง 109 คน เป็นเวลา 5 ปี และทำให้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากข้อหาที่ว่ากรรมการบริหารพรรค 1 คนได้จ่ายเงินประมาณ 20,000 บาท แก่ผู้นำท้องถิ่นก่อนวันเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่กรรมการบริหารเพียงคนเดียวถูกตัดสินว่ากระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง แต่กรรมการบริหารที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ก็ต้องถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้งไปด้วย 6. นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไม่เคยพยายามที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อช่วยเหลือ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตรตามที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา ข้อกล่าวหาของพรรคประชาธิปัตย์ที่ว่า นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พยายามที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อนำ พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ กลับบ้านโดยไม่มีความผิด จนก่อให้เกิดการประท้วงบนท้องถนนนั้น เป็นความเท็จ เพราะทั้งสองท่านไม่เคยดำเนินการดังกล่าว 7. ส.ส. จำนวนมากถูกบังคับให้ออกจากพรรคการเมืองฝ่าย พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อไปสนับสนุนการตั้งรัฐบาลใหม่ ในเดือนธันวาคม 2551 หลังจากการยุบพรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทยถูกตั้งขึ้นแทนพรรคพลังประชาชน และเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยขณะนั้น แต่พวกเราถูกบังคับและเสียสิทธิ์ในการตั้งรัฐบาล เพราะได้มีการรัฐประหารเงียบเกิดขึ้น และพรรคเล็กพรรคน้อยได้ถูกบังคับให้ไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้ เป็นแกนนำในการตั้งรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยชนะการเลือกตั้งในระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา และขาดอาณัติจากประชาชนที่จะทำเช่นนั้น พรรคเพื่อไทย พี่น้องคนเสื้อแดง และคนไทยนับล้าน ไม่ยอบรับความชอบธรรมของรัฐบาลนี้ 8. ประชาชนชาวไทยเพียงแค่ต้องการประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม คนเสื้อแดงประกอบไปด้วยประชาชนจากทุกภาคส่วน ซึ่งคัดค้านการรัฐประหารเพื่อล้มล้าง พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร ให้ออกจากตำแหน่งในปี 2549 และบุคคลเหล่านี้ไม่อาจทนต่อ ระบบสองมาตรฐาน และความอยุติธรรม กลุ่มคนดังกล่าวเหล่านี้เชื่อว่าสิทธิทางการเมืองถูกพรากไปโดยรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน ที่ร่างโดยผู้ที่หัวหน้าคณะรัฐประหารแต่งตั้งขึ้น ยิ่งกว่านั้น พวกเขามีความเห็นว่ารัฐบาลนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ ไม่มีความชอบธรรม เพราะเข้าสู่อำนาจโดยผลของการกดดันทางการเมืองและการเจรจาลับหลังจากที่มี การตัดสินของศาล ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นผลให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนสองรัฐบาล ที่นำโดย นายสมัคร สุนทรเวช และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องพ้นจากตำแหน่ง พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคพลังประชาชนไม่สามารถครอบงำคนเสื้อแดง พวกเขาได้ชุมนุมประท้วงเป็นเวลา 2-3 เดือน จนรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ได้สั่งให้ทหารพร้อมอาวุธสงครามสลายการชุมนุมในวัน ที่ 19 พฤษภาคม 2553 และก่อให้เกิดการเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก การใช้กระสุนจริงเพื่อสลายผู้ชุมนุมที่ใช้สิทธิ์ชุมนุมภายใต้รัฐธรรมนูญ และข้อเท็จจริงที่ว่าการปฏิบัติการได้เกิดขึ้นในเวลากลางคืน ไม่เป็นไปตามขั้นตอนและมาตรฐานสากล ยังผลให้มีผู้ประท้วงและทหารเสียชีวิตราว 91 ศพ และบาดเจ็บนับพันราย ศาลอาญาได้ตัดสินในหลายคดีว่าการเสียชีวิตเกิดจากกระสุนจริงที่ใช้โดยเจ้า หน้าที่ของรัฐ 9.

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...

ห้องการเมือง