การเมือง มวลชน มอง ′การเคลื่อนไหว′ มองอย่าง จำแนก

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

อย่างน้อยในพื้นที่ กทม.ขณะนี้มีการชุมนุมมวลชน "ขนาดย่อย" ปรากฏขึ้น 3 กลุ่มที่แทบมิได้เกี่ยวข้องและสัมพันธ์กัน

1 การชุมนุมของ "กปว." บริเวณใกล้กับศาลรัฐธรรมนูญ

1 การชุมนุมของแนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดินที่เคลื่อนจากลำตะคองมาปักหลักอยู่บริเวณสนามไชย ข้างกระทรวงกลาโหม

1 การชุมนุมของ "พีมูฟ" ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า

ที่เรียกว่าเป็นการชุมนุมมวลชน "ขนาดย่อย" เพราะเริ่มต้นจาก "เรือนร้อย" และยืนระยะอยู่ "เรือนพัน"

ยังไม่ถึง "เรือนหมื่น"

ที่ ระบุว่ามิได้เกี่ยวข้องและสัมพันธ์กันเพราะที่อยู่บริเวณใกล้กับศาลรัฐ ธรรมนูญเป็นมวลชนจากวิทยุชุมชน ขณะที่ "พีมูฟ" สัมพันธ์กับเรื่องของที่ดิน

ส่วนที่บริเวณสนามไชยเป็นของ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เจ้าเก่า

ทั้ง 3 ส่วนนี้ไม่เพียงมีรากที่มาแตกต่างกัน หากเป้าหมายของการชุมนุมและเรียกร้องก็แตกต่างกันไปคนละแนว เรียกตามสำนวนไทอีสานก็ต้อง

ไปคนละ "ทีป"

มีความพยายามจะโยงและดึงเอามวลชนของ "พีมูฟ" ไปผนวกส่วนเข้ากับ "แนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน" แต่ไม่สำเร็จ

ไม่เพียงเพราะ "เป้าหมาย" ในการเคลื่อนไหว "ต่าง" กัน

หากที่สำคัญเป็นอย่างมากเพราะว่ายุทธศาสตร์ ยุทธวิธี ก็มีความแตกต่างกันตั้งแต่เริ่มต้นและดำเนินการ

"พีมูฟ" มีชื่อไทยว่า "ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม" (ขปส.)

ประกอบ ส่วนขึ้นจาก เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.) กลุ่มสมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูล (สคจ.) เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง (ศปสม.) เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด (คปบ.) สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) เครือข่ายเกษตรพันธสัญญา,กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าชีวมวล จ.อุบลราชธานี, เครือข่ายสลัม 4 ภาค, สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.)

แตก ต่างอย่างสิ้นเชิงที่แนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดินที่พุ่งเป้าไปยัง ปราสาทพระวิหาร, ศาลโลกและที่สุดต้องการล้มรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

เพราะเป้าหมายคือ "สังคมที่เป็นธรรม"

ขณะเดียวกัน ก็แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับ "กปว." ของเสื้อแดงอิสระที่พิทักษ์รัฐบาล พิทักษ์พรรคเพื่อไทย

นี่ย่อมเป็นคนละเรื่องเดียวกัน

แม้ว่า "พีมูฟ" จะมีมวลชนยืนระยะอยู่ระดับพัน ระดับหมื่น แต่ก็ยืนหยัดในหลักการและเป้าหมายของตนอย่างมั่นแน่ว

เป้าหมายมิได้อยู่ที่ "อำนาจรัฐ"

นี่ย่อมเป็นการเคลื่อนไหวในภาคประชาชนอย่างแท้จริง เป็นการเคลื่อนไหวในระดับเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่

ไม่เกินไปจากนี้

แม้ แนวร่วมคนไทยรักชาติ รักษาแผ่นดิน จะต้องการดึงให้มวลชนจาก "พีมูฟ" เข้าร่วม บางคนอาจเข้าร่วม แต่ที่ผ่านมองอย่างเป็นองค์การยังไม่เคยมีคำประกาศเข้าร่วมอย่างเป็นทางการ

กระทั่งต่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย-ก็ยังมีระยะห่าง

รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย จึงต้องมองการเคลื่อนไหวแต่ละการเคลื่อนไหวอย่างจำแนกแยกแยะ จะกวาดรวมว่าหากเป็นเรื่องของมวลชนที่เรียกร้องรัฐบาลแล้วจะต้องเป็นฝ่ายตรง กันข้าม

ก็ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น

นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ซึ่งสะสมความจัดเจนจากการเคลื่อนไหวเรื่องมันสำปะหลัง เรื่องอ้อยมาก่อนย่อมสัมผัสและรับรู้กระบวนการของพีมูฟเป็นอย่างดี

นี่ย่อมต่างจากพวก "สนามไชย"

กระบวนการเคลื่อนไหวมวลชนในประวัติศาสตร์มักดำเนินและยกระดับอย่างมีจังหวะก้าวเสมอ

จังหวะ ก้าว 1 คือการต่อสู้ทางเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ เมื่อสู้แล้วไม่ประสบความสำเร็จจึงจะยกระดับไปอีกจังหวะก้าว 1 คือการต่อสู้ทางการเมือง และที่สุดคือการต่อสู้ด้วยอาวุธ

ไผเป็นไผจึงมิยากจะแยกแยะ

ขอบคุณ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1367907764&grpid=&catid=12&subcatid=1200 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: มติชนออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 7 พ.ค.56
วันที่โพสต์: 8/05/2556 เวลา 02:47:19 ดูภาพสไลด์โชว์ การเมือง มวลชน มอง ′การเคลื่อนไหว′ มองอย่าง จำแนก

ห้องการเมือง