ชี้คนกรุงโยงเลือกผู้ว่าฯผูกการเมืองระดับชาติ ดันผู้ใช้สิทธิ์พุ่ง
ขอบคุณ http://www.thairath.co.th/content/pol/330306
ไทยรัฐออนไลน์ 5 มี.ค.56
ผอ.นิด้าโพล ชี้เหตุโพลคลาดเคลื่อน จากความระแวงของกลุ่มตัวอย่าง หวั่นเป็นฝ่ายการเมือง ระบุเห็นใจเอ็กซิทโพลเพราะทำแค่ช่วงเช้าอาจมีความเบี่ยงเบนสูง วิเคราะห์ผลเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เกิดจากคนกรุงนำการเมืองระดับชาติผูกแน่นกับท้องถิ่นจนแยกไม่ออกระหว่าง 2 พรรค ส่งผลให้คนแห่ใช้สิทธิ์พุ่ง ดันคะแนน 2 ผู้สมัครขึ้นหลักล้าน...
เมื่อ วันที่ 4 มี.ค.2556 ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวกับ "ไทยรัฐออนไลน์" ถึงผลโพลที่คลาดเคลื่อนในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ของสำนักโพลส่วนใหญ่ ว่า เกิดจากความผิดพลาดทางเทคนิคในการเก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลหรือกลุ่ม ตัวอย่าง ซึ่งอาจไม่มั่นใจต่อวิธีการถามอย่างละเอียดของผู้มาสำรวจ จนเกิดความระแวงว่าเป็นทีมงานของฝ่ายการเมืองใด หรือมาจากฝ่ายใดหรือไม่
อย่าง ไรก็ตาม ต้องเห็นใจในการทำเอ็กซิทโพลเพราะมีการเก็บข้อมูลได้แค่ช่วงเช้าจากคน อีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งโอกาสเบี่ยงเบนมีสูงมาก โดยช่วงบ่ายอาจมีคนอีกกลุ่มซึ่งไม่ได้ดำเนินการสำรวจจึงเกิดการผิดพลาดได้ หรือกลุ่มที่คิดแล้วว่าจะเลือกใครตั้งแต่แรกแต่ไม่บอกโดยเฉพาะกลุ่มที่เลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ บริพัตร ทั้งนี้เหตุที่นิด้าโพล มีผลสำรวจออกมาใกล้เคียงมากสุด มีการระบุว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ คะแนนนำ แต่นำแค่ 1 กว่า% เพราะเป็นการโทรสอบถามกลุ่มตัวอย่างที่ส่วนใหญ่เป็นอาสาสมัครที่ไว้ใจกัน จึงกล้าบอกข้อมูลที่แท้จริง
ส่วนผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ที่ออกมา แสดงให้เห็นว่า คนกรุงนำการเมืองระดับชาติมาผูกแน่นกับการเมืองท้องถิ่น จนมองเป็นการเมืองระดับชาติทั้งหมด มีการแบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และฝ่ายที่ไม่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีทั้งเลือกพรรคเพื่อไทย และไม่เลือกเพื่อไทย มีส่วนหนึ่งโหวตโน ซึ่งเมื่อดูจากคะแนนเลือกตั้ง 3 ครั้งหลังที่ผ่านมา คนเลือกพรรคประชาธิปัตย์จะอยู่ที่ 40 กว่า % พรรคเพื่อไทยอยู่ที่ 26 กว่า% และผู้สมัครอื่นๆ รวม 29 กว่า % ซึ่งเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยต้องทำให้ถึง 40 กว่า% จึงจะชนะ แต่ผลเลือกตั้งกลับเป็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นไปที่ 46% ของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง
ขณะที่พรรคเพื่อไทยขึ้นมาจากเดิมอยู่ที่ 39% พุ่งขึ้นมากถึง 13% แต่ต้องดูว่าฐานเสียงขยายจริง หรือเป็นการระดมพลมาลงคะแนน ส่วนหนึ่งมาจากมีผู้ใช้สิทธิ์มากขึ้น จากกลุ่มคนกรุงที่เคยเลือกผู้สมัครอิสระ กลับเทคะแนนให้พล.ต.อ.พงศพัศ พงษเจริญ และส่วนหนึ่งก็เทคะแนนมาให้ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ บริพัตร เช่นกัน ทำให้ผลการเลือกตั้งได้คะแนนหลักล้านทั้งลำดับ 1 และ 2 ส่วนผลโพลที่ออกมาก่อนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.อาจมีส่วนให้คนมาใช้สิทธิ์เลือก ตั้งครั้งนี้เพิ่มขึ้น จากผู้สนับสนุนทั้ง 2 ฝ่ายที่เคยนอนหลับทับสิทธิ์ เมื่อรู้ผลโพล กลัวว่าฝ่ายของตนจะแพ้ จึงออกมาใช้สิทธิ์มากที่สุด ทั้งนี้ จากฝนตกช่วงเลือกตั้งวานนี้ยอมรับว่า มีผลต่อคะแนนบ้างจากกลุ่มรากหญ้าและชนชั้นกลาง แต่ไม่มีผลต่อคะแนนผู้สมัครคนใดคนหนึ่ง
ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์
วันที่โพสต์: 5/03/2556 เวลา 05:01:11 
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ขอบคุณ http://www.thairath.co.th/content/pol/330306 ไทยรัฐออนไลน์ 5 มี.ค.56 ผอ.นิด้าโพล ชี้เหตุโพลคลาดเคลื่อน จากความระแวงของกลุ่มตัวอย่าง หวั่นเป็นฝ่ายการเมือง ระบุเห็นใจเอ็กซิทโพลเพราะทำแค่ช่วงเช้าอาจมีความเบี่ยงเบนสูง วิเคราะห์ผลเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เกิดจากคนกรุงนำการเมืองระดับชาติผูกแน่นกับท้องถิ่นจนแยกไม่ออกระหว่าง 2 พรรค ส่งผลให้คนแห่ใช้สิทธิ์พุ่ง ดันคะแนน 2 ผู้สมัครขึ้นหลักล้าน... เมื่อ วันที่ 4 มี.ค.2556 ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวกับ "ไทยรัฐออนไลน์" ถึงผลโพลที่คลาดเคลื่อนในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ของสำนักโพลส่วนใหญ่ ว่า เกิดจากความผิดพลาดทางเทคนิคในการเก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลหรือกลุ่ม ตัวอย่าง ซึ่งอาจไม่มั่นใจต่อวิธีการถามอย่างละเอียดของผู้มาสำรวจ จนเกิดความระแวงว่าเป็นทีมงานของฝ่ายการเมืองใด หรือมาจากฝ่ายใดหรือไม่ อย่าง ไรก็ตาม ต้องเห็นใจในการทำเอ็กซิทโพลเพราะมีการเก็บข้อมูลได้แค่ช่วงเช้าจากคน อีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งโอกาสเบี่ยงเบนมีสูงมาก โดยช่วงบ่ายอาจมีคนอีกกลุ่มซึ่งไม่ได้ดำเนินการสำรวจจึงเกิดการผิดพลาดได้ หรือกลุ่มที่คิดแล้วว่าจะเลือกใครตั้งแต่แรกแต่ไม่บอกโดยเฉพาะกลุ่มที่เลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ บริพัตร ทั้งนี้เหตุที่นิด้าโพล มีผลสำรวจออกมาใกล้เคียงมากสุด มีการระบุว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ คะแนนนำ แต่นำแค่ 1 กว่า% เพราะเป็นการโทรสอบถามกลุ่มตัวอย่างที่ส่วนใหญ่เป็นอาสาสมัครที่ไว้ใจกัน จึงกล้าบอกข้อมูลที่แท้จริง ส่วนผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ที่ออกมา แสดงให้เห็นว่า คนกรุงนำการเมืองระดับชาติมาผูกแน่นกับการเมืองท้องถิ่น จนมองเป็นการเมืองระดับชาติทั้งหมด มีการแบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และฝ่ายที่ไม่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีทั้งเลือกพรรคเพื่อไทย และไม่เลือกเพื่อไทย มีส่วนหนึ่งโหวตโน ซึ่งเมื่อดูจากคะแนนเลือกตั้ง 3 ครั้งหลังที่ผ่านมา คนเลือกพรรคประชาธิปัตย์จะอยู่ที่ 40 กว่า % พรรคเพื่อไทยอยู่ที่ 26 กว่า% และผู้สมัครอื่นๆ รวม 29 กว่า % ซึ่งเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยต้องทำให้ถึง 40 กว่า% จึงจะชนะ แต่ผลเลือกตั้งกลับเป็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นไปที่ 46% ของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ขณะที่พรรคเพื่อไทยขึ้นมาจากเดิมอยู่ที่ 39% พุ่งขึ้นมากถึง 13% แต่ต้องดูว่าฐานเสียงขยายจริง หรือเป็นการระดมพลมาลงคะแนน ส่วนหนึ่งมาจากมีผู้ใช้สิทธิ์มากขึ้น จากกลุ่มคนกรุงที่เคยเลือกผู้สมัครอิสระ กลับเทคะแนนให้พล.ต.อ.พงศพัศ พงษเจริญ และส่วนหนึ่งก็เทคะแนนมาให้ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ บริพัตร เช่นกัน ทำให้ผลการเลือกตั้งได้คะแนนหลักล้านทั้งลำดับ 1 และ 2 ส่วนผลโพลที่ออกมาก่อนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.อาจมีส่วนให้คนมาใช้สิทธิ์เลือก ตั้งครั้งนี้เพิ่มขึ้น จากผู้สนับสนุนทั้ง 2 ฝ่ายที่เคยนอนหลับทับสิทธิ์ เมื่อรู้ผลโพล กลัวว่าฝ่ายของตนจะแพ้ จึงออกมาใช้สิทธิ์มากที่สุด ทั้งนี้ จากฝนตกช่วงเลือกตั้งวานนี้ยอมรับว่า มีผลต่อคะแนนบ้างจากกลุ่มรากหญ้าและชนชั้นกลาง แต่ไม่มีผลต่อคะแนนผู้สมัครคนใดคนหนึ่ง
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)
