รังเกียจเสรีภาพการเมือง
ชกไม่มีมุม วงค์ ตาวัน
แม้ จะรู้อยู่ลึกๆ ว่าจุดยืนของพรรคการเมืองแต่ละพรรคเป็นเช่นไร แต่เมื่อถึงเวลาอภิปรายอย่างเปิดเผยกลางสภา ก็อดประหลาดใจไม่ได้ ว่าเหตุใดพรรคการเมืองบางพรรค จึงหวั่นเกรงเสียเหลือเกินว่า สถาบันพรรคการเมืองจะมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น
อดสงสัยไม่ได้ว่า นี่เขาเป็นส.ส. สังกัดพรรค การเมืองจริงหรือ!?
ที่ได้ยิน มาจากการอภิปรายวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา
ฝ่ายหนึ่งผลักดันการแก้ไข เพื่อสร้างความอิสระให้กับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และสร้างความมั่นคงให้พรรคการเมือง แต่อีกฝ่ายหนึ่งคัดค้านอย่างแข็งกร้าว ในทุกมาตราทุกประเด็น
พร้อมทั้งอภิปรายกันอย่างเปิดเผยว่า ไม่ต้องการให้รัฐบาล ไม่ต้องการให้พรรคการเมือง มีอิสระมีอำนาจมากเกินไป
พูดด้วยว่า ถ้าปล่อยไปเช่นนั้น เดี๋ยวก็โกงกิน เดี๋ยวก็ลุแก่อำนาจ
เสรีภาพและการเลือกตั้ง นี้มันเลวจริงๆ!
ทั้งที่ผู้อภิปรายเนื้อหาเช่นนี้ ก็เป็นส.ส. สังกัดพรรคใหญ่โต แต่กลับหวาดผวาว่านักการเมืองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยจะมีอิสรเสรีภาพ
ด้านหนึ่ง คงเพราะต้องการสกัดพรรคคู่แข่ง แต่ต้องการสกัด โดยทำลายเสรีภาพและพลังของสถาบันพรรคการเมืองกันขนาดนี้เลยหรือ
รู้ตัวหรือไม่ว่า ตนเองก็เป็นผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้ง สังกัดพรรคการเมือง
ถึงขั้นสนับสนุนรัฐธรรมนูญปี 50 ว่า ที่มีกลไกองค์กรต่างๆ เอาไว้ควบคุมรัฐบาล พรรคการเมือง และมีอำนาจเหนือฝ่ายการเมืองอีกด้วย
นั้นดีแล้ว!!
แถมพูดเลยเถิดไปอีกว่า ไม่ใช่เพราะรัฐธรรมนูญปี 40 หรือ ที่ทำให้ฝ่ายการเมืองลุแก่อำนาจ จนเป็นเหตุให้ทหารต้องมายึดอำนาจ โดยไม่ลืมพูดป้องตัวเองไว้นิดว่า แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารนะ
บอกไม่เห็นด้วย แต่กลับไม่ต่อต้านการรัฐประหาร
แต่ต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับพรรคการเมือง อย่างแข็ง กร้าว!
แล้วเวลาพูดถึงการรัฐประหารปี 2549 ยังด่านักการเมืองกันเองว่า ทำตัวเหลวไหลจนเป็นต้นเหตุให้ทหารเขาต้องออกมา เอาเข้าไป ยอมรับว่ามีเหตุผลให้รัฐประหารได้นั่นเอง
นี่ไงพรรคการเมืองฝ่ายอนุรักษนิยมล้าหลัง
เป็นเด็กดีของโครงสร้างอำนาจเดิม ที่มีอำนาจนอกระบบ อยู่เหนือฝ่ายการเมือง
เพราะเป็นระบบที่ตนเองเป็นฝ่ายได้เปรียบ!
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ชกไม่มีมุม วงค์ ตาวัน แม้ จะรู้อยู่ลึกๆ ว่าจุดยืนของพรรคการเมืองแต่ละพรรคเป็นเช่นไร แต่เมื่อถึงเวลาอภิปรายอย่างเปิดเผยกลางสภา ก็อดประหลาดใจไม่ได้ ว่าเหตุใดพรรคการเมืองบางพรรค จึงหวั่นเกรงเสียเหลือเกินว่า สถาบันพรรคการเมืองจะมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น อดสงสัยไม่ได้ว่า นี่เขาเป็นส.ส. สังกัดพรรค การเมืองจริงหรือ!? ที่ได้ยิน มาจากการอภิปรายวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ฝ่ายหนึ่งผลักดันการแก้ไข เพื่อสร้างความอิสระให้กับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และสร้างความมั่นคงให้พรรคการเมือง แต่อีกฝ่ายหนึ่งคัดค้านอย่างแข็งกร้าว ในทุกมาตราทุกประเด็น พร้อมทั้งอภิปรายกันอย่างเปิดเผยว่า ไม่ต้องการให้รัฐบาล ไม่ต้องการให้พรรคการเมือง มีอิสระมีอำนาจมากเกินไป พูดด้วยว่า ถ้าปล่อยไปเช่นนั้น เดี๋ยวก็โกงกิน เดี๋ยวก็ลุแก่อำนาจ เสรีภาพและการเลือกตั้ง นี้มันเลวจริงๆ! ทั้งที่ผู้อภิปรายเนื้อหาเช่นนี้ ก็เป็นส.ส. สังกัดพรรคใหญ่โต แต่กลับหวาดผวาว่านักการเมืองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยจะมีอิสรเสรีภาพ ด้านหนึ่ง คงเพราะต้องการสกัดพรรคคู่แข่ง แต่ต้องการสกัด โดยทำลายเสรีภาพและพลังของสถาบันพรรคการเมืองกันขนาดนี้เลยหรือ รู้ตัวหรือไม่ว่า ตนเองก็เป็นผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้ง สังกัดพรรคการเมือง ถึงขั้นสนับสนุนรัฐธรรมนูญปี 50 ว่า ที่มีกลไกองค์กรต่างๆ เอาไว้ควบคุมรัฐบาล พรรคการเมือง และมีอำนาจเหนือฝ่ายการเมืองอีกด้วย นั้นดีแล้ว!! แถมพูดเลยเถิดไปอีกว่า ไม่ใช่เพราะรัฐธรรมนูญปี 40 หรือ ที่ทำให้ฝ่ายการเมืองลุแก่อำนาจ จนเป็นเหตุให้ทหารต้องมายึดอำนาจ โดยไม่ลืมพูดป้องตัวเองไว้นิดว่า แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารนะ บอกไม่เห็นด้วย แต่กลับไม่ต่อต้านการรัฐประหาร แต่ต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับพรรคการเมือง อย่างแข็ง กร้าว! แล้วเวลาพูดถึงการรัฐประหารปี 2549 ยังด่านักการเมืองกันเองว่า ทำตัวเหลวไหลจนเป็นต้นเหตุให้ทหารเขาต้องออกมา เอาเข้าไป ยอมรับว่ามีเหตุผลให้รัฐประหารได้นั่นเอง นี่ไงพรรคการเมืองฝ่ายอนุรักษนิยมล้าหลัง เป็นเด็กดีของโครงสร้างอำนาจเดิม ที่มีอำนาจนอกระบบ อยู่เหนือฝ่ายการเมือง เพราะเป็นระบบที่ตนเองเป็นฝ่ายได้เปรียบ! ขอบคุณ http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dPVEEwTURRMU5nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE15MHdOQzB3TkE9PQ==
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)