นายกฯระบุทำงานการเมืองเพราะคนไทยเอ็นดู"ชินวัตร"
เวลา 23.20 น.นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเพชรรามา สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 กรณีการเข้าทำงานการเมืองว่า การเป็นนายกฯหญิงคนแรก มีสองความรู้สึกคือ1. ภูมิใจเพราะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนที่มาสู่ตำแหน่งนี้และ2.มีความคาด หวังว่าตนทำได้ดีหรือไม่.
นายกฯกล่าวว่า ชีวิตของตนเปลี่ยนไปเยอะแต่ต้องเป็นตัวของตัวเอง เพราะมีบทบาทนายกฯที่รับใช้ประเทศก็ต้องปรับตัว ทำงานเต็มที่ แต่ก็ใช้ชีวิตปกติด้วยในการดูแลครอบครัวและคุยกับลูก(ดช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร)ว่าตนมาทำงานนี้อาจมีคนชอบและไม่ชอบตนบ้าง เพราะตนทำประโยชน์ให้สังคม. ลูกของตนก็ให้กำลังใจตนเสมอ แม้เพื่อนๆจะหายไปบ้างช่วงนี้
นายกฯกล่าวกรณียามมีทุกข์ว่า ยามทุกข์ตนจะมุ่งมั่นทำงาน. ความทุกข์คือโอกาสและต้องคิดทางบวก ตนมีโอกาสแก้ปัญหาให้ประชาชน ยามท้อก็ไปพบประชาชนที่ทุกข์กว่าตน ตนก็มีกำลังใจ
นายกฯกล่าวว่า ตนเป็นลูกคนเล็กในครอลครัวใหญ่และไม่โดนตามใจ แต่ครอบครัวเลี้ยงแบบไทยๆทางภาคเหนือแต่พ่อและแม่ชองตนติดตามข่าว จึงทันสมัยทางความคิด และให้อิสระในการเลือกเรียน ตนเรียนคณะรัฐศาสตร์เพราะอยากเป็นทูตเพราะชอบการบริหารแบบกลางๆในการบริหาร องค์กรเเละชอบคอมพิวเตอร์ อีกทั้งที่บ้านก็ทำธุรกิจด้วยตนจึงเรียนตรงนี้. เรียนคณะนี้ตนไม่เคยคิดว่าวันนี้ต้องเข้าทำเนียบฯ
นายกฯกล่าวกรณีเข้า สู่ถนนการเมืองว่ามาจากประชาชนที่ตนได้พบในหลายปีที่ผ่านมา เพราะวันนี้ประชาชนลำบาก และประชาชนเอ็นดูครอบครัวชินวัตรมาตลอด หากตนทำธุรกิจต่อก็เหมือนค้างหนี้ประชาชน. ตนจึงมาทำงานนี้ คนไทยวันนี้มีความเหลื่อมล้ำในสังคมสูงมากคือเศรษฐกิจ สังคม การเมือง หากตนช่วยคนรายได้น้อยก็จะส่งผลกับคนรายได้มากด้วย ตนแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ พระราชดำรัสของในหลวงและราชินีสองพระองค์นั้น ตนได้น้อมนำมาใช้ทำงานในการลดความเหลื่อมล้ำของสังคมด้วย
นายกฯกล่าวว่า ปรัชญาการใช้ชีวืตวันนี้คือกำลังใจที่มุ่งมั่นให้ประเทศเดินหน้าและคนไทย สามัคคีให้พระบรมวงศานุวงศ์สบายพระทัยว่าคนไทยสามัคคี
ขอบคุณ http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=676197&lang=T&cat=
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เวลา 23.20 น.นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเพชรรามา สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 กรณีการเข้าทำงานการเมืองว่า การเป็นนายกฯหญิงคนแรก มีสองความรู้สึกคือ1. ภูมิใจเพราะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนที่มาสู่ตำแหน่งนี้และ2.มีความคาด หวังว่าตนทำได้ดีหรือไม่. นายกฯกล่าวว่า ชีวิตของตนเปลี่ยนไปเยอะแต่ต้องเป็นตัวของตัวเอง เพราะมีบทบาทนายกฯที่รับใช้ประเทศก็ต้องปรับตัว ทำงานเต็มที่ แต่ก็ใช้ชีวิตปกติด้วยในการดูแลครอบครัวและคุยกับลูก(ดช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร)ว่าตนมาทำงานนี้อาจมีคนชอบและไม่ชอบตนบ้าง เพราะตนทำประโยชน์ให้สังคม. ลูกของตนก็ให้กำลังใจตนเสมอ แม้เพื่อนๆจะหายไปบ้างช่วงนี้ นายกฯกล่าวกรณียามมีทุกข์ว่า ยามทุกข์ตนจะมุ่งมั่นทำงาน. ความทุกข์คือโอกาสและต้องคิดทางบวก ตนมีโอกาสแก้ปัญหาให้ประชาชน ยามท้อก็ไปพบประชาชนที่ทุกข์กว่าตน ตนก็มีกำลังใจ นายกฯกล่าวว่า ตนเป็นลูกคนเล็กในครอลครัวใหญ่และไม่โดนตามใจ แต่ครอบครัวเลี้ยงแบบไทยๆทางภาคเหนือแต่พ่อและแม่ชองตนติดตามข่าว จึงทันสมัยทางความคิด และให้อิสระในการเลือกเรียน ตนเรียนคณะรัฐศาสตร์เพราะอยากเป็นทูตเพราะชอบการบริหารแบบกลางๆในการบริหาร องค์กรเเละชอบคอมพิวเตอร์ อีกทั้งที่บ้านก็ทำธุรกิจด้วยตนจึงเรียนตรงนี้. เรียนคณะนี้ตนไม่เคยคิดว่าวันนี้ต้องเข้าทำเนียบฯ นายกฯกล่าวกรณีเข้า สู่ถนนการเมืองว่ามาจากประชาชนที่ตนได้พบในหลายปีที่ผ่านมา เพราะวันนี้ประชาชนลำบาก และประชาชนเอ็นดูครอบครัวชินวัตรมาตลอด หากตนทำธุรกิจต่อก็เหมือนค้างหนี้ประชาชน. ตนจึงมาทำงานนี้ คนไทยวันนี้มีความเหลื่อมล้ำในสังคมสูงมากคือเศรษฐกิจ สังคม การเมือง หากตนช่วยคนรายได้น้อยก็จะส่งผลกับคนรายได้มากด้วย ตนแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ พระราชดำรัสของในหลวงและราชินีสองพระองค์นั้น ตนได้น้อมนำมาใช้ทำงานในการลดความเหลื่อมล้ำของสังคมด้วย นายกฯกล่าวว่า ปรัชญาการใช้ชีวืตวันนี้คือกำลังใจที่มุ่งมั่นให้ประเทศเดินหน้าและคนไทย สามัคคีให้พระบรมวงศานุวงศ์สบายพระทัยว่าคนไทยสามัคคี ขอบคุณ http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=676197&lang=T&cat=
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)