ตั้งตนอยู่ในศีล ใช้ชีวิตอย่างมีสุข

แสดงความคิดเห็น

ผู้เข้าร่วมกิจกรรม "ชีวิตมีศีล สังคมมีสุข"

การดำรงตนตั้งอยู่ในศีลในธรรม จะทำให้เราประกอบด้วยสติและปัญญาในการดำเนินชีวิต ชาวพุทธส่วนใหญ่จึงสมาทานศีล 5 เพื่อที่ระลึกถึงคำสอนของพระพุทธองค์ และตั้งตนอย่างมีสติในการกระทำความดี

ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่ชวนให้ชาวพุทธระลึกถึงการมีศีลธรรม นำมาปรับใช้ในชีวิตได้จัดกิจกรรม "ชีวิตมีศีล สังคมมีสุข" ในวันเสาร์ปลายเดือนที่ผ่านมา แสดงธรรมโดย พระอาจารย์ภาณุ จิตตทันโต วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก และเบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา นักแสดงมากความสามารถที่เลือกนำหลักธรรมมาใช้ในการดำเนินชีวิต และปฏิบัติวิปัสสนา

พระอาจารย์ภาณุ จิตตทันโต วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก

พระอาจารย์ภาณุ จิตตทันโต วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก ได้นำผู้เข้าร่วมกิจกรรมสมาทานศีล 5 บูชาพระรัตนตรัย โดยสวดภาษาบาลี พร้อมแปลเป็นภาษาไทย ให้ผู้เข้าร่วมได้ใช้สติปัญญาในการพิจารณาความหมายของบทสวดมนต์ พระอาจารย์ ได้กล่าวถึงการมีศีล 4 หรือ ปาริสุทธิศีล 4 ประกอบด้วย 1) ปาฏิโมกขสังวรศีล ความสำรวมศีลหลักของผู้ปฏิบัตินั้น ๆ ข้อ 2) อินทรียสังวรศีล สำรวมอินทรีย์ ทั้ง 6 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ 3) อาชีวปาริสุทธิศีล ความบริสุทธิ์แห่งอาชีวะ ประกอบอาชีพโดยสุจริต 4) ปัจจัยสันนิสิตศีล เกี่ยวกับปัจจัย 4 คือ พิจารณาใช้สอยปัจจัยสี่ ให้เป็นไปตามความหมายและประโยชน์ของสิ่งนั้น ไม่บริโภคด้วยตัณหา

นอกจากนี้ท่านยังกล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสมาทานศีล 5 ว่า ส่วนหลักของการสมาทานศีล 5 คือ เพื่อให้ตัวเองไม่

ก่อปัญหากับผู้อื่น ผู้ที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่นก็จะอยู่อย่างเป็นสุข คนที่มีความสุขก็จะไร้กังวลมีสติ คนที่กังวลเมื่อคิดทำอะไรแล้วใจไม่โล่ง ไม่โปร่ง ไม่เบา

"ถ้าเราสมาทานศีล 5 ทุกวัน ก็ได้ฝึกเรื่องการมีสัจจะ เพราะชีวิตทุกวันนี้อาจถูกยั่วยวนจากสิ่งภายนอก มีโอกาสที่จะทำไม่ดีเยอะ แต่เราตั้งสัจจะด้วยศีลไว้ว่าจะไม่ทำ เราก็จะรอดพ้นจากสิ่งยั่วยวนนั้น การรักษาสัจจะต้องใช้ความอดทน พยายาม มีสติปัญญาในการไตร่ตรองในการทำความดี" พระอาจารย์ภาณุ กล่าว

ขณะที่ ดาราสาว เบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา เล่าประสบการณ์ที่ได้จากการปฏิบัติธรรมว่า ทำให้ใจเย็นขึ้น ลดอัตตา และ ทิฐิลงทั้งในการทำงาน และการใช้ชีวิตครอบครัว เมื่อมีอารมณ์โกรธก็รู้จักการระงับอารมณ์ ยอมรับและให้อภัยกัน รวมถึงใช้ชีวิตกับคนรอบข้างได้อย่างมีความสุข

"ในการดำเนินชีวิต เรื่องการมีสติ และไม่ประมาทเป็นเรื่องสำคัญที่เราพึงมีไม่ใช่เตือนตัวเองแค่เรื่องขับรถเพียงอย่างเดียว แต่ครอบคลุมในทุกเรื่อง เช่น เรื่องการพูด ทำให้เราคิดดี คิดให้รอบคอบก่อนที่ จะพูด หรือจะทำ ซึ่งทำให้ทุกอย่างราบรื่น" เบนซ์ กล่าว

ด้าน ผู้เข้าร่วมงานอย่าง นางมณี เลาหรนานาเกียรติ์ อายุ 55 ปี เล่าถึงสิ่งที่ได้รับในการฟังธรรมในครั้งนี้ว่า การมีศีลต้องเริ่มจากตัวเราเอง ถ้าทุกคนมีศีลเป็นข้อปฏิบัติ การสร้างปัญหาให้สังคมก็จะลดลง เช่น ศีล 5 นั้นเป็นศีลขั้นพื้นฐานของทุกคน และไม่ยากที่เราจะกระทำ และทำให้เราตั้งตนอยู่ในความดี

สำหรับ น.ส.ภิญญดา โกกะพันธ์ อายุ 15 ปี วิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการเจ้าพระยา เล่าให้ ฟังว่า ตนสวดมนต์ไหว้พระ พร้อมกับการสมาทานศีล 5 ทุกวัน หลักปฏิบัติที่ตนยึดถือคือ การคิดดี ทำดี และหมั่นช่วยเหลือสังคม

"ถ้าเราทุกคนมีศีลธรรม ย่อมทำให้สังคมสงบสุข เนื่องจากทุกวันนี้สังคมมี แต่ความวุ่นวาย หลักธรรมที่เราควรยึดถือเป็นพื้นฐานคือศีล 5 โดยเฉพาะศีลข้อ 5 ห้ามดื่มสุรา ถ้าเราดื่มของมึนเมาทำให้เราเกิดความประมาท และเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา อาจทำให้สังคมวุ่นวายมากกว่าเดิมด้วย" น.ส.ประกายมาศ ภาคโพธิ์ อายุ 15 ปี วิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการเจ้าพระยากล่าวถึงการนำหลักของศีลธรรมมาปรับใช้ในชีวิต

การหมั่นสวดมนต์สมาทานศีลทุกวันนอกจากจะเป็นการบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ยังเป็นการย้ำเตือนให้เรามีสติ ในการกระทำแต่ความดี ตั้งตนอยู่ในทางที่ถูกต้องดีงาม

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ขอบคุณ... http://goo.gl/lL2Xgy (ขนาดไฟล์: 0 )

ที่มา: thaihealth.or.thออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 16 ก.ค.58
วันที่โพสต์: 16/07/2558 เวลา 11:17:04 ดูภาพสไลด์โชว์ ตั้งตนอยู่ในศีล ใช้ชีวิตอย่างมีสุข

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ผู้เข้าร่วมกิจกรรม "ชีวิตมีศีล สังคมมีสุข" การดำรงตนตั้งอยู่ในศีลในธรรม จะทำให้เราประกอบด้วยสติและปัญญาในการดำเนินชีวิต ชาวพุทธส่วนใหญ่จึงสมาทานศีล 5 เพื่อที่ระลึกถึงคำสอนของพระพุทธองค์ และตั้งตนอย่างมีสติในการกระทำความดี ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่ชวนให้ชาวพุทธระลึกถึงการมีศีลธรรม นำมาปรับใช้ในชีวิตได้จัดกิจกรรม "ชีวิตมีศีล สังคมมีสุข" ในวันเสาร์ปลายเดือนที่ผ่านมา แสดงธรรมโดย พระอาจารย์ภาณุ จิตตทันโต วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก และเบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา นักแสดงมากความสามารถที่เลือกนำหลักธรรมมาใช้ในการดำเนินชีวิต และปฏิบัติวิปัสสนา พระอาจารย์ภาณุ จิตตทันโต วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก พระอาจารย์ภาณุ จิตตทันโต วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก ได้นำผู้เข้าร่วมกิจกรรมสมาทานศีล 5 บูชาพระรัตนตรัย โดยสวดภาษาบาลี พร้อมแปลเป็นภาษาไทย ให้ผู้เข้าร่วมได้ใช้สติปัญญาในการพิจารณาความหมายของบทสวดมนต์ พระอาจารย์ ได้กล่าวถึงการมีศีล 4 หรือ ปาริสุทธิศีล 4 ประกอบด้วย 1) ปาฏิโมกขสังวรศีล ความสำรวมศีลหลักของผู้ปฏิบัตินั้น ๆ ข้อ 2) อินทรียสังวรศีล สำรวมอินทรีย์ ทั้ง 6 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ 3) อาชีวปาริสุทธิศีล ความบริสุทธิ์แห่งอาชีวะ ประกอบอาชีพโดยสุจริต 4) ปัจจัยสันนิสิตศีล เกี่ยวกับปัจจัย 4 คือ พิจารณาใช้สอยปัจจัยสี่ ให้เป็นไปตามความหมายและประโยชน์ของสิ่งนั้น ไม่บริโภคด้วยตัณหา นอกจากนี้ท่านยังกล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสมาทานศีล 5 ว่า ส่วนหลักของการสมาทานศีล 5 คือ เพื่อให้ตัวเองไม่ ก่อปัญหากับผู้อื่น ผู้ที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่นก็จะอยู่อย่างเป็นสุข คนที่มีความสุขก็จะไร้กังวลมีสติ คนที่กังวลเมื่อคิดทำอะไรแล้วใจไม่โล่ง ไม่โปร่ง ไม่เบา "ถ้าเราสมาทานศีล 5 ทุกวัน ก็ได้ฝึกเรื่องการมีสัจจะ เพราะชีวิตทุกวันนี้อาจถูกยั่วยวนจากสิ่งภายนอก มีโอกาสที่จะทำไม่ดีเยอะ แต่เราตั้งสัจจะด้วยศีลไว้ว่าจะไม่ทำ เราก็จะรอดพ้นจากสิ่งยั่วยวนนั้น การรักษาสัจจะต้องใช้ความอดทน พยายาม มีสติปัญญาในการไตร่ตรองในการทำความดี" พระอาจารย์ภาณุ กล่าว ขณะที่ ดาราสาว เบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา เล่าประสบการณ์ที่ได้จากการปฏิบัติธรรมว่า ทำให้ใจเย็นขึ้น ลดอัตตา และ ทิฐิลงทั้งในการทำงาน และการใช้ชีวิตครอบครัว เมื่อมีอารมณ์โกรธก็รู้จักการระงับอารมณ์ ยอมรับและให้อภัยกัน รวมถึงใช้ชีวิตกับคนรอบข้างได้อย่างมีความสุข "ในการดำเนินชีวิต เรื่องการมีสติ และไม่ประมาทเป็นเรื่องสำคัญที่เราพึงมีไม่ใช่เตือนตัวเองแค่เรื่องขับรถเพียงอย่างเดียว แต่ครอบคลุมในทุกเรื่อง เช่น เรื่องการพูด ทำให้เราคิดดี คิดให้รอบคอบก่อนที่ จะพูด หรือจะทำ ซึ่งทำให้ทุกอย่างราบรื่น" เบนซ์ กล่าว ด้าน ผู้เข้าร่วมงานอย่าง นางมณี เลาหรนานาเกียรติ์ อายุ 55 ปี เล่าถึงสิ่งที่ได้รับในการฟังธรรมในครั้งนี้ว่า การมีศีลต้องเริ่มจากตัวเราเอง ถ้าทุกคนมีศีลเป็นข้อปฏิบัติ การสร้างปัญหาให้สังคมก็จะลดลง เช่น ศีล 5 นั้นเป็นศีลขั้นพื้นฐานของทุกคน และไม่ยากที่เราจะกระทำ และทำให้เราตั้งตนอยู่ในความดี สำหรับ น.ส.ภิญญดา โกกะพันธ์ อายุ 15 ปี วิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการเจ้าพระยา เล่าให้ ฟังว่า ตนสวดมนต์ไหว้พระ พร้อมกับการสมาทานศีล 5 ทุกวัน หลักปฏิบัติที่ตนยึดถือคือ การคิดดี ทำดี และหมั่นช่วยเหลือสังคม "ถ้าเราทุกคนมีศีลธรรม ย่อมทำให้สังคมสงบสุข เนื่องจากทุกวันนี้สังคมมี แต่ความวุ่นวาย หลักธรรมที่เราควรยึดถือเป็นพื้นฐานคือศีล 5 โดยเฉพาะศีลข้อ 5 ห้ามดื่มสุรา ถ้าเราดื่มของมึนเมาทำให้เราเกิดความประมาท และเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา อาจทำให้สังคมวุ่นวายมากกว่าเดิมด้วย" น.ส.ประกายมาศ ภาคโพธิ์ อายุ 15 ปี วิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการเจ้าพระยากล่าวถึงการนำหลักของศีลธรรมมาปรับใช้ในชีวิต การหมั่นสวดมนต์สมาทานศีลทุกวันนอกจากจะเป็นการบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ยังเป็นการย้ำเตือนให้เรามีสติ ในการกระทำแต่ความดี ตั้งตนอยู่ในทางที่ถูกต้องดีงาม ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ขอบคุณ... http://goo.gl/lL2Xgy

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...