โลกทัศน์แห่งความสุข(๑๑)กระเป๋าที่หายไป

แสดงความคิดเห็น

โลกทัศน์แห่งความสุข(๑๑)กระเป๋าที่หายไป

โลกทัศน์แห่งความสุข(๑๑)กระเป๋าที่หายไป : คันฉ่องและโคมฉาย โดยว.วชิรเมธี

มหาเศรษฐีท่านนี้มีความสุขพอสมควรแต่ก็ยังไม่สุขถึงที่สุด เพราะเงินที่เขาเอาฝากธนาคารใหม่ไว้ก็ยังมีอยู่มากมายมหาศาลเหลือเกิน ใจหนึ่งก็สุขที่ไม่ต้องมานั่งดูแลกิจการ แต่ใจหนึ่งก็ยังทุกข์เพราะมรดกของตัวเองยังมีอีกมหาศาลที่ยังไม่ได้แบ่งใคร แต่เอาเถอะ อย่างน้อยจิตใจก็รู้สึกดีขึ้นที่ได้ปลดพันธนาการออกไปบ้าง

เมื่อขายกิจการแล้ว เขาตัดสินใจเดินทางไปพักผ่อนยังต่างจังหวัด ยังรีสอร์ทชายป่าแห่งหนึ่ง เมื่อเก็บข้าวเก็บของเช็กอินเข้าที่พักแล้ว เขาก็หยิบเฉพาะข้าวของที่จำเป็นใส่ในเป้หลังหนึ่งใบ ได้แก่ น้ำเปล่าหนึ่งขวด อาหารกระป๋องอีกสองสามอย่าง เสื้อผ้า และเสื่ออีกหนึ่งผืน ตั้งใจว่าจะเข้าไปในป่าเงียบๆ ปูเสื่อแล้วนอนอ่านหนังสือสบายๆ

เมื่อเก็บข้าวของสี่ห้าอย่างใส่กระเป๋าแล้วเขาก็เดินลัดตัดตรงเข้าชายป่า เดินเข้าป่าไปด้วยความสำราญบานใจที่ไม่ต้องเจอผู้คนคอยห้อมล้อมเพื่อขอเงิน เขา สักพักหนึ่งก็ไปถึงบึงใหญ่ เจอชาวบ้านคนหนึ่งกำลังนั่งตกปลา

เขาถามว่า “ลุง ลุงทำอะไร”

ชาวบ้านบอกว่า "มาตกปลาสิ แล้วคุณมาทำอะไร”

เขาตอบ “อ๋อ ว่าจะหาที่นอนเล่นแถวนี้แหละ”

ชาวบ้าน “แล้วคุณไปทำอะไรมา ก่อนจะมานอนเล่นแถวนี้”

“โหย ผมทำธุรกิจสิ” เขาตอบด้วยความภูมิใจ

คุยมาคุยไป คุยไปคุยมา เศรษฐีก็เล่าให้ฟังว่า เขาไม่มีความสุขทั้งๆ ที่มีเงินมหาศาล ชาวบ้านซึ่งเป็นนักตกปลาก็ดูออก เพราะดูหน้าก็รู้ หน้าดำคล้ำเครียด อาการเหมือนกับคนดวงตก ชาวบ้านซึ่งเป็นนักตกปลาอยากจะช่วย จึงถามขึ้นว่า “เมื่อกี้คุณบอกว่าคุณไม่มีความสุขใช่ไหม”

“ใช่สิ”

“คุณอยากมีความสุขไหม”

“ทำไมจะไม่อยากล่ะ มาที่นี่ก็อยากมีความสุขนั่นแหละถึงได้ปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่าง”

“ผมจะสอนคุณเรื่อง วิชาว่าด้วยความสุขเอาไหม”

“คุณจะสอนได้อย่างไร”

“เอาเถอะน่า ผมจะสอนเอง คุณตามผมมา”

ชาวบ้านเดินนำเข้าป่าลึกไปนิดหน่อย มหาเศรษฐีเดินตาม คุยไป คุยมาสักพักหนึ่ง มหาเศรษฐีร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย กระหายน้ำก็กระหาย พอมหาเศรษฐีเผลอแผล็บเดียวเท่านั้น ชาวบ้านคนนั้นก็ฉกกระเป๋าของเขาหลุดจากมือไป แล้วก็วิ่งตื๋อเข้าป่าไปเลย

เศรษฐีตกใจ ในกระเป๋ามีน้ำ มีอาหารว่าง มีของจำเป็นของเขา โทรศัพท์อีกหนึ่งเครื่อง พอกระเป๋าหลุดมือ ตกใจมาก รีบวิ่งตามชาวบ้านคนนั้นเข้าป่าไป จะต้องเอากระเป๋าคืนมาให้ได้ วิ่งไล่ล่ากันอยู่ครึ่งชั่วโมง แต่ก็ตามไม่ทัน เพราะชาวป่านั้นเชี่ยวชาญในป่าแห่งนั้นอยู่แล้ว เพียงหลับตาก็เห็นภาพทั้งหมด ในที่สุดมหาเศรษฐีเหนื่อยมาก ตามไม่ทัน ทรุดตัวลงนอนใต้ต้นไม้แห่งหนึ่ง เหนื่อยสุดใจขาดดิ้น คิดถึงกระเป๋าก็คิดถึง กลัวจะหลงป่าก็กลัว น้ำก็หิว ข้าวก็หิว ร้อนก็ร้อน และนี่ยังไม่รู้ว่าจะออกจากป่าได้อย่างไร ทุกข์แทบล้มประดาตาย ล้มตัวลงนอนผึ่งลงไป

(ติดตามตอนต่อไปวันพระหน้า)

ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20130722/164002/โลกทัศน์แห่งความสุข(๑๑)กระเป๋าที่หายไป.html (ขนาดไฟล์: 167)

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

โลกทัศน์แห่งความสุข(๑๑)กระเป๋าที่หายไป โลกทัศน์แห่งความสุข(๑๑)กระเป๋าที่หายไป : คันฉ่องและโคมฉาย โดยว.วชิรเมธี มหาเศรษฐีท่านนี้มีความสุขพอสมควรแต่ก็ยังไม่สุขถึงที่สุด เพราะเงินที่เขาเอาฝากธนาคารใหม่ไว้ก็ยังมีอยู่มากมายมหาศาลเหลือเกิน ใจหนึ่งก็สุขที่ไม่ต้องมานั่งดูแลกิจการ แต่ใจหนึ่งก็ยังทุกข์เพราะมรดกของตัวเองยังมีอีกมหาศาลที่ยังไม่ได้แบ่งใคร แต่เอาเถอะ อย่างน้อยจิตใจก็รู้สึกดีขึ้นที่ได้ปลดพันธนาการออกไปบ้าง เมื่อขายกิจการแล้ว เขาตัดสินใจเดินทางไปพักผ่อนยังต่างจังหวัด ยังรีสอร์ทชายป่าแห่งหนึ่ง เมื่อเก็บข้าวเก็บของเช็กอินเข้าที่พักแล้ว เขาก็หยิบเฉพาะข้าวของที่จำเป็นใส่ในเป้หลังหนึ่งใบ ได้แก่ น้ำเปล่าหนึ่งขวด อาหารกระป๋องอีกสองสามอย่าง เสื้อผ้า และเสื่ออีกหนึ่งผืน ตั้งใจว่าจะเข้าไปในป่าเงียบๆ ปูเสื่อแล้วนอนอ่านหนังสือสบายๆ เมื่อเก็บข้าวของสี่ห้าอย่างใส่กระเป๋าแล้วเขาก็เดินลัดตัดตรงเข้าชายป่า เดินเข้าป่าไปด้วยความสำราญบานใจที่ไม่ต้องเจอผู้คนคอยห้อมล้อมเพื่อขอเงิน เขา สักพักหนึ่งก็ไปถึงบึงใหญ่ เจอชาวบ้านคนหนึ่งกำลังนั่งตกปลา เขาถามว่า “ลุง ลุงทำอะไร” ชาวบ้านบอกว่า "มาตกปลาสิ แล้วคุณมาทำอะไร” เขาตอบ “อ๋อ ว่าจะหาที่นอนเล่นแถวนี้แหละ” ชาวบ้าน “แล้วคุณไปทำอะไรมา ก่อนจะมานอนเล่นแถวนี้” “โหย ผมทำธุรกิจสิ” เขาตอบด้วยความภูมิใจ คุยมาคุยไป คุยไปคุยมา เศรษฐีก็เล่าให้ฟังว่า เขาไม่มีความสุขทั้งๆ ที่มีเงินมหาศาล ชาวบ้านซึ่งเป็นนักตกปลาก็ดูออก เพราะดูหน้าก็รู้ หน้าดำคล้ำเครียด อาการเหมือนกับคนดวงตก ชาวบ้านซึ่งเป็นนักตกปลาอยากจะช่วย จึงถามขึ้นว่า “เมื่อกี้คุณบอกว่าคุณไม่มีความสุขใช่ไหม” “ใช่สิ” “คุณอยากมีความสุขไหม” “ทำไมจะไม่อยากล่ะ มาที่นี่ก็อยากมีความสุขนั่นแหละถึงได้ปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่าง” “ผมจะสอนคุณเรื่อง วิชาว่าด้วยความสุขเอาไหม” “คุณจะสอนได้อย่างไร” “เอาเถอะน่า ผมจะสอนเอง คุณตามผมมา” ชาวบ้านเดินนำเข้าป่าลึกไปนิดหน่อย มหาเศรษฐีเดินตาม คุยไป คุยมาสักพักหนึ่ง มหาเศรษฐีร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย กระหายน้ำก็กระหาย พอมหาเศรษฐีเผลอแผล็บเดียวเท่านั้น ชาวบ้านคนนั้นก็ฉกกระเป๋าของเขาหลุดจากมือไป แล้วก็วิ่งตื๋อเข้าป่าไปเลย เศรษฐีตกใจ ในกระเป๋ามีน้ำ มีอาหารว่าง มีของจำเป็นของเขา โทรศัพท์อีกหนึ่งเครื่อง พอกระเป๋าหลุดมือ ตกใจมาก รีบวิ่งตามชาวบ้านคนนั้นเข้าป่าไป จะต้องเอากระเป๋าคืนมาให้ได้ วิ่งไล่ล่ากันอยู่ครึ่งชั่วโมง แต่ก็ตามไม่ทัน เพราะชาวป่านั้นเชี่ยวชาญในป่าแห่งนั้นอยู่แล้ว เพียงหลับตาก็เห็นภาพทั้งหมด ในที่สุดมหาเศรษฐีเหนื่อยมาก ตามไม่ทัน ทรุดตัวลงนอนใต้ต้นไม้แห่งหนึ่ง เหนื่อยสุดใจขาดดิ้น คิดถึงกระเป๋าก็คิดถึง กลัวจะหลงป่าก็กลัว น้ำก็หิว ข้าวก็หิว ร้อนก็ร้อน และนี่ยังไม่รู้ว่าจะออกจากป่าได้อย่างไร ทุกข์แทบล้มประดาตาย ล้มตัวลงนอนผึ่งลงไป (ติดตามตอนต่อไปวันพระหน้า) ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20130722/164002/โลกทัศน์แห่งความสุข(๑๑)กระเป๋าที่หายไป.html

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...