โลกทัศน์แห่งความสุข(๕)บทเรียนจากโลก
โลกทัศน์แห่งความสุข(๕)บทเรียนจากโลก : คันฉ่องและโคมฉาย โดยว.วชิรเมธี
การเป็นบุคคลที่ใฝ่เรียนรู้ตลอดเวลา นับเป็นอีกโลกทัศน์หนึ่งที่จะทำให้เราทุกคนอยู่ในทุกสถานการณ์ได้อย่างมี ความสุข กล่าวคือไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในชีวิต เรามองทุกอย่างเป็นบทเรียนได้ทั้งหมด
ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งล่วงลับดับขันธ์ไป เราแต่ละคนจะได้รับบทเรียนจากโลกนี้ทุกๆ คน เพราะโลกจะทยอยส่งบทเรียนต่างๆ มาให้เรียนรู้ทีละเรื่องๆ คนที่ตั้งใจเรียนจะเติบโต คนที่หลับหูหลับตาไม่เปิดหูเปิดตาต่อบทเรียนที่อยู่ตรงหน้า พอผ่านพบบทเรียนแล้วจะต่ำต้อย
ดังนั้นถ้าเรามองว่าทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งเกิดขึ้นในชีวิตเราไม่ว่าจะเป็นความ สุขความทุกข์ ความสำเร็จหรือความล้มเหลว คำชมหรือคำด่า สิ่งเหล่านี้ถ้าเรามองว่ามันเป็นบทเรียน มันจะกลายเป็นดังหนึ่งนายช่างที่เจียระไนชีวิตของเราให้เป็นเพชรที่ทอประกาย แวววาวเจิดจรัส
ต่อจากนี้ไป ถ้าเราป่วย ลองสังเกตตัวเองดูว่า อาการเริ่มอย่างไร ผิดปกติตรงไหน หรือเมื่อเผชิญกับโลกธรรม ถูกเขาชมก็สังเกตดูใจของตัวเองว่า มันฟู มันฟูอย่างไร ถูกเขาด่าสังเกตดูใจของตัวเองมันทุกข์ มันทุกข์อย่างไร ดูไปเรื่อยๆ
ในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานสิ่งนี้มีความสำคัญมาก การตามดูตามรู้ตามศึกษาปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเรา ถ้าเราหมั่นสังเกต เราจะได้ปัญญา
ครั้งหนึ่ง ในขณะที่อาตมภาพไปบรรยายธรรมที่ต่างประเทศ ไปเจออาหารเป็นพิษท้องเสีย แต่วันนั้นอาตมาต้องบรรยายธรรม เดินขึ้นบันไดก็หน้ามืด แต่เนื่องจากเคยฝึกวิปัสสนากรรมฐานมาก่อน พอเริ่มมืดอาตมาเริ่มเห็น เมื่ออาการเริ่มก่อ ตัวอาตมานั่งอยู่กับที่แล้วกำหนดดูว่าเมฆหมอกก่อตัวตรงไหน โลกหมุนติ้วๆ หมุนอย่างไร หลับตาลงแล้วก็นั่งดูก่อนที่พายุไซโคลนมันจะเข้มข้นรุนแรงถึงที่สุด เราเห็นกระบวนการทั้งหมด แล้วพอสังเกตดู มันก็เริ่มเบาลงแล้วเข้าสู่สภาวะนิ่ง อาตมาเดินออกจากห้องน้ำมานั่งที่ห้องรับรองและบอกลูกศิษย์ว่าขอเลื่อนการ บรรยายไปหนึ่งชั่วโมง ขอดูมันก่อน
คนจำนวนมากที่อยู่ๆ ก็ล้มคว่ำลงในห้องทำงาน ห้องน้ำ หรือในห้องประชุม แท้ที่จริงคนเหล่านี้ ถ้าเขาผ่านการเจริญสติหมั่นตามดูตามรู้ปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในจิต เขาจะเห็นสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดล่วงหน้า ทำไมคนเหล่านี้ไม่เห็นและป้องกันไม่ทัน เพราะไม่ได้ผ่านการฝึก ถ้าเราผ่านการฝึกอย่างดีจิตของเราจะทำงานอัตโนมัติเวลาเกิดสถานการณ์วิกฤติ อย่างนี้
นี่แหละคือการมองสิ่งต่างๆ ว่าเป็นบทเรียนแม้กระทั่งความเจ็บไข้ได้ป่วย ท่านอาจารย์พุทธทาสได้พลิกความเจ็บไข้ให้เป็นบทเรียนและเขียนบันทึก พอหายป่วยก็ได้หนังสือหนึ่งเล่ม
(ติดตามตอนต่อไปวันพระหน้า)
ที่มา: http://www.komchadluek.net/detail/20130608/160477/โลกทัศน์แห่งความสุข(๕)บทเรียนจากโลก.html#.UcPEx9hHWzs (ขนาดไฟล์: 167)
วันที่โพสต์: 5/07/2556 เวลา 06:36:18
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ชายวัยกลางคนพายเรื่องอยู่ในคลอง โลกทัศน์แห่งความสุข(๕)บทเรียนจากโลก : คันฉ่องและโคมฉาย โดยว.วชิรเมธี การเป็นบุคคลที่ใฝ่เรียนรู้ตลอดเวลา นับเป็นอีกโลกทัศน์หนึ่งที่จะทำให้เราทุกคนอยู่ในทุกสถานการณ์ได้อย่างมี ความสุข กล่าวคือไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในชีวิต เรามองทุกอย่างเป็นบทเรียนได้ทั้งหมด ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งล่วงลับดับขันธ์ไป เราแต่ละคนจะได้รับบทเรียนจากโลกนี้ทุกๆ คน เพราะโลกจะทยอยส่งบทเรียนต่างๆ มาให้เรียนรู้ทีละเรื่องๆ คนที่ตั้งใจเรียนจะเติบโต คนที่หลับหูหลับตาไม่เปิดหูเปิดตาต่อบทเรียนที่อยู่ตรงหน้า พอผ่านพบบทเรียนแล้วจะต่ำต้อย ดังนั้นถ้าเรามองว่าทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งเกิดขึ้นในชีวิตเราไม่ว่าจะเป็นความ สุขความทุกข์ ความสำเร็จหรือความล้มเหลว คำชมหรือคำด่า สิ่งเหล่านี้ถ้าเรามองว่ามันเป็นบทเรียน มันจะกลายเป็นดังหนึ่งนายช่างที่เจียระไนชีวิตของเราให้เป็นเพชรที่ทอประกาย แวววาวเจิดจรัส ต่อจากนี้ไป ถ้าเราป่วย ลองสังเกตตัวเองดูว่า อาการเริ่มอย่างไร ผิดปกติตรงไหน หรือเมื่อเผชิญกับโลกธรรม ถูกเขาชมก็สังเกตดูใจของตัวเองว่า มันฟู มันฟูอย่างไร ถูกเขาด่าสังเกตดูใจของตัวเองมันทุกข์ มันทุกข์อย่างไร ดูไปเรื่อยๆ ในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานสิ่งนี้มีความสำคัญมาก การตามดูตามรู้ตามศึกษาปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเรา ถ้าเราหมั่นสังเกต เราจะได้ปัญญา ครั้งหนึ่ง ในขณะที่อาตมภาพไปบรรยายธรรมที่ต่างประเทศ ไปเจออาหารเป็นพิษท้องเสีย แต่วันนั้นอาตมาต้องบรรยายธรรม เดินขึ้นบันไดก็หน้ามืด แต่เนื่องจากเคยฝึกวิปัสสนากรรมฐานมาก่อน พอเริ่มมืดอาตมาเริ่มเห็น เมื่ออาการเริ่มก่อ ตัวอาตมานั่งอยู่กับที่แล้วกำหนดดูว่าเมฆหมอกก่อตัวตรงไหน โลกหมุนติ้วๆ หมุนอย่างไร หลับตาลงแล้วก็นั่งดูก่อนที่พายุไซโคลนมันจะเข้มข้นรุนแรงถึงที่สุด เราเห็นกระบวนการทั้งหมด แล้วพอสังเกตดู มันก็เริ่มเบาลงแล้วเข้าสู่สภาวะนิ่ง อาตมาเดินออกจากห้องน้ำมานั่งที่ห้องรับรองและบอกลูกศิษย์ว่าขอเลื่อนการ บรรยายไปหนึ่งชั่วโมง ขอดูมันก่อน คนจำนวนมากที่อยู่ๆ ก็ล้มคว่ำลงในห้องทำงาน ห้องน้ำ หรือในห้องประชุม แท้ที่จริงคนเหล่านี้ ถ้าเขาผ่านการเจริญสติหมั่นตามดูตามรู้ปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในจิต เขาจะเห็นสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดล่วงหน้า ทำไมคนเหล่านี้ไม่เห็นและป้องกันไม่ทัน เพราะไม่ได้ผ่านการฝึก ถ้าเราผ่านการฝึกอย่างดีจิตของเราจะทำงานอัตโนมัติเวลาเกิดสถานการณ์วิกฤติ อย่างนี้ นี่แหละคือการมองสิ่งต่างๆ ว่าเป็นบทเรียนแม้กระทั่งความเจ็บไข้ได้ป่วย ท่านอาจารย์พุทธทาสได้พลิกความเจ็บไข้ให้เป็นบทเรียนและเขียนบันทึก พอหายป่วยก็ได้หนังสือหนึ่งเล่ม (ติดตามตอนต่อไปวันพระหน้า) ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20130608/160477/โลกทัศน์แห่งความสุข(๕)บทเรียนจากโลก.html#.UcPEx9hHWzs
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)