ความทุกข์มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อมนุษย์

แสดงความคิดเห็น

หลวงปู่ติช นัท ฮันห์

ความทุกข์มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อมนุษย์ : วิปัสสนาบนหน้าข่าว โดยพระพิทยา ฐานิสฺสโร

ในคืนวันที่ฝนตก ฟ้ากระหน่ำ นักบวชหญิง นักบวชชายจำนวนนับร้อยได้แบ่งกันเป็นกลุ่มเล็กๆ เพื่อเดินทางด้วยเท้าไปหาที่พักพิง เนื่องจากถูกขับไล่จากสถานปฏิบัติที่พำนักอยู่ แม้ก่อนหน้านั้นตำรวจจะพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้นักบวชวัยรุ่นจำนวนมาก เหล่านี้มิสามารถอยู่ได้ ด้วยการนำกลุ่มคนมาก่อกวน ขว้างปาสิ่งของ ตัดน้ำตัดไฟ พาผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อยไปยังวัดนักบวชชายและพยายามลงข่าวถ่ายรูป เพื่อให้ผู้คนเห็นว่าไม่ควรมีสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ เพราะการปฏิบัติที่ไม่งดงามเหมาะสมของนักบวช

การเติบโตอย่างรวดเร็วของจำนวนนักบวชวัยรุ่นชาย หญิง ตั้งแต่หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ ได้รับโอกาสกลับประเทศอีกครั้งจากการอนุญาตของรัฐบาลเวียดนาม และเป็นเหตุแห่งความกลัวว่ายากแก่การควบคุมถ้าประชากรนักบวชเพิ่มขึ้นๆ อย่างมากและรวดเร็ว รวมทั้งเหตุผลบางอย่างทางการเมืองมาเกี่ยวข้อง จึงเป็นที่มาแห่งการยุติวัดปัญญา (บั๊ค หยา) ที่มีผู้บริจาคที่ดินถวายหลวงปู่และคณะสงฆ์หมู่บ้านพลัมได้ร่วมก่อตั้งขึ้น เมื่อประมาณ ๗-๘ ปีก่อน

ถึงแม้ได้รับความยากลำบากแค่ไหน นักบวชชาย รวมถึงนักบวชหญิงที่พำนักอยู่ไกลกันพอสมควรแต่ในวัดเดียวที่มีอาณาเขตแบ่ง กั้นชัดเจน ต่างก็ยังคงหล่อเลี้ยงการปฏิบัติด้วยการนั่งสมาธิ สวดมนต์ แผ่เมตตา อโหสิกรรมให้กลุ่มที่มาทำร้ายเพราะต้องทำตามหน้าที่ที่ได้ถูกสมมุติขึ้น

สังเกตเห็นได้ว่าถึงแม้หลายๆ คนไม่อยากทำเช่นนั้น แต่เพื่อความอยู่รอดในการดำรงชีพ ด้วยเหตุปัจจัยหลายๆ อย่างที่ทำให้ต้องฝืนใจตัวเอง กระทำตามคำสั่งที่ได้รับคำบัญชา ผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อย ๓ คนถูกสั่งให้ขึ้นไปยังหอสมาธิชั้นบนสุดของตึกฝั่งนักบวชชาย เมื่อไปถึงยังชั้นบนสุดผู้หญิง ๒ คนที่ไปด้วยกันถึงกับนั่งอยู่ตรงด้านหน้าห้องสมาธิไม่ได้ ขอตัวกลับเมื่อได้ยินสวดมนต์ที่ดังกึกก้อง บาดลึกเข้าไปในหัวใจ

มีคำถามเกิดขึ้นว่าสิ่งที่ตนกำลังกระทำอยู่นั้นถูกต้องหรือไม่ ส่วนคนสุดท้ายขอโอกาสนั่งฟังและภาวนาร่วมไปด้วยพร้อมกับน้ำตาประกอบด้วยความ ปีติอิ่มเอิบบนใบหน้า ความคิดในเบื้องต้นที่จะมาทำลายความเลื่อมใสศรัทธามลายหายไปหมดสิ้น

พลังแห่งความสงบสุข เมตตา กรุณามีอยู่ในตัวเราทุกคนเสมอ เมื่อเราให้โอกาสตัวเองที่จะได้สัมผัส เรียนรู้ ปฏิบัติ แม้ในขณะที่เรามีความทุกข์อย่างมหันต์ เราก็มีความสุขสงบอยู่ตรงนั้นเช่นเดียวกันเสมอ เพียงเราหยุด วางความยึดมั่นทั้งปวง เราจะมีโอกาสพบอิสรภาพภายในตนได้ทันที เมื่อเรามองอย่างลึกซึ้ง ความทุกข์เป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่งต่อมนุษย์ เพราะช่วยให้เราปล่อยวางในสิ่งที่หลงใหล เพลิดเพลิน ยึด ครอบครอง ว่าเป็นตัวเรา ของของเรา เพราะนั่นเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ทุกชีวิตต้องทุกข์ ไม่มากก็น้อย

แผ่นดินแม่ บ้านเกิด สถานปฏิบัติธรรม วัด สิ่งที่เราเคยรับรู้ ล้วนแล้วแต่อยู่ในตัวเราทุกคน เราไม่จำเป็นต้องอยู่ ณ แผ่นดินแม่ ณ บ้านเกิด หรือในวัดและสถานปฏิบัติธรรม เราก็สามารถสัมผัสสิ่งเหล่านั้นในตัวเราได้เสมอ ไม่เพียงแค่นั้น ถ้าเราสามารถดำรงอยู่อย่างเต็มเปี่ยมในปัจจุบันขณะด้วยลมหายใจเข้า ออกแห่งสติ เราจะสัมผัส รับรู้ว่าสรรพสิ่งดำรงอยู่ในตัวเราและรอบๆ ตัว เราจะสามารถปล่อยวางทุกสิ่งอย่างเป็นธรรมชาติ ใจจะสงบสุข เบิกบาน มั่นคงในทุกที่และนี่คือที่มาแห่งอิสรภาพ เมื่อเราได้รับอิสรภาพภายใน ทุกที่คือ แผ่นดินแม่ ทุกที่คือบ้านเกิด สถานปฏิบัติธรรมก็เช่นกัน ดำรงอยู่ในทุกที่

ขณะที่กำลังเดินอยู่ ณ วัดตื่อ หิว อันเป็นวัดที่หลวงปู่ ติช นัท ฮันห์ บวชและอยู่อาศัยตั้งแต่สมัยเป็นสามเณร อันเป็นวัดรากของท่าน เมื่อทุกย่างก้าวสัมผัสพื้นดินอย่างเต็มเปี่ยม ทุกลมหายใจหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกับย่างก้าวที่สัมผัส หลวงปู่ติช นัท ฮันห์และบรรดาบรรพบุรุษ บูรพาจารย์แห่งวัดตื่อ หิว ก็ดำรงอยู่ ณ ตรงนั้นเช่นเดียวกัน และท่านเหล่านั้นก็ดำรงอยู่ในตัวลูกศิษย์ของท่านที่ฝึกปฏิบัติที่จะดำรงสติ ในทุกอิริยาบถไม่เฉพาะที่วัดต้นกำเนิดแห่งนี้เท่านั้น แต่สถานปฏิบัติทั่วทุกมุมโลก รวมทั้งสถานปฏิบัตินานาชาติแห่งประเทศไทยที่มีนักบวชวัยรุ่นชาย หญิงมากมาย กำลังมีความสุขกับการปฏิบัติ ณ สถานปฏิบัติแห่งใหม่

ณ วันนี้นักบวชชาย หญิงเหล่านั้น หลายรูปเดินทางไปอยู่ ณ สถานปฏิบัติหมู่บ้านพลัมประเทศ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมัน ฮ่องกง ออสเตรเลีย และนักบวชส่วนใหญ่มาพำนัก ณ สถานปฏิบัติธรรม หมู่บ้านพลัมนานาชาติ ประเทศไทย จ.นครราชสีมา ท่านเหล่านั้นยังคงหล่อเลี้ยงการปฏิบัติและทำหน้าที่เช่นเดียวกับตอนอยู่ที่ วัดปัญญา (บั๊ค หยา)

จิตใจของท่านทุกรูป ไม่รู้สึกโกรธแค้น อาฆาต เกลียดชัง กับพวกตำรวจหรือคนที่พยายามทำลายวัดจนพวกท่านไม่สามารถอยู่ได้ แต่ท่านกลับรู้สึกเห็นใจ เข้าใจ ในความทุกข์ของพวกเขาเหล่านั้นอย่างแท้จริง ที่ถูกสิ่งสมมุติครอบงำ และตกอยู่ในความทุกข์อย่างน่าสงสาร เพราะความกลัว ความอยาก ความโกรธ และความหลง

ดังที่หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ ได้กล่าวปาฐกถาสุดท้ายในวันทอดผ้าป่าที่หมู่บ้านพลัมนานาชาติ ประเทศไทย ตอนหนึ่งว่า หลวงปู่ประทับใจระลึกรู้บุญคุณพี่น้องชาวไทยเป็นอย่างยิ่งที่ได้เกื้อกูล บรรดาพระหนุ่มสาวทั้งหลายที่ต้องอพยพออกมาจากประเทศเวียดนาม ชาวไทยได้เปิดแขนโอบรับด้วยความเมตตากรุณาเป็นอย่างยิ่ง เราสามารถที่จะอยู่ตรงนี้และมีสถานที่ปฏิบัติ หลวงปู่ขอบพระคุณมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยที่ได้ช่วยเกื้อกูลสิ่ง ต่างๆ มากมายให้เราได้ทำสิ่งต่างได้ในขณะนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราไม่สามารถทำได้ในประเทศเวียดนาม "

พุทธะ ดำรงอยู่ในตัวเธอ ไม่มีสิ่งใดทำลายเธอได้

เธอ และพุทธะ คือสิ่งเดียวกัน

หมู่บ้านพลัม ขอเชิญร่วมกิจกรรม 'วันแห่งสติ' ณ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ วันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖ สอบถามได้ที่ ๐-๒๘๘๕-๕๙๘๐ และหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ขอเชิญร่วมงาน ๒๐ ปี พุทธทาสละสังขารและฉลองเจ้าอาวาสองค์ใหม่ ในวาระล้ออายุ ๑๐๗ ปี พุทธทาส ที่สวนโมกข์ ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ๒๔-๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖ สอบถาม โทร.๐๘-๓๘๙๘-๗๗๔๐, ๐-๒๙๓๖-๒๘๐๐ ต่อ ๗๑๐๕ และ ๗๑๑๒

ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20130517/158674/ความทุกข์มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อมนุษย์.html#.UbAO2thHWzs (ขนาดไฟล์: 167)

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ ความทุกข์มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อมนุษย์ : วิปัสสนาบนหน้าข่าว โดยพระพิทยา ฐานิสฺสโร ในคืนวันที่ฝนตก ฟ้ากระหน่ำ นักบวชหญิง นักบวชชายจำนวนนับร้อยได้แบ่งกันเป็นกลุ่มเล็กๆ เพื่อเดินทางด้วยเท้าไปหาที่พักพิง เนื่องจากถูกขับไล่จากสถานปฏิบัติที่พำนักอยู่ แม้ก่อนหน้านั้นตำรวจจะพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้นักบวชวัยรุ่นจำนวนมาก เหล่านี้มิสามารถอยู่ได้ ด้วยการนำกลุ่มคนมาก่อกวน ขว้างปาสิ่งของ ตัดน้ำตัดไฟ พาผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อยไปยังวัดนักบวชชายและพยายามลงข่าวถ่ายรูป เพื่อให้ผู้คนเห็นว่าไม่ควรมีสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ เพราะการปฏิบัติที่ไม่งดงามเหมาะสมของนักบวช การเติบโตอย่างรวดเร็วของจำนวนนักบวชวัยรุ่นชาย หญิง ตั้งแต่หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ ได้รับโอกาสกลับประเทศอีกครั้งจากการอนุญาตของรัฐบาลเวียดนาม และเป็นเหตุแห่งความกลัวว่ายากแก่การควบคุมถ้าประชากรนักบวชเพิ่มขึ้นๆ อย่างมากและรวดเร็ว รวมทั้งเหตุผลบางอย่างทางการเมืองมาเกี่ยวข้อง จึงเป็นที่มาแห่งการยุติวัดปัญญา (บั๊ค หยา) ที่มีผู้บริจาคที่ดินถวายหลวงปู่และคณะสงฆ์หมู่บ้านพลัมได้ร่วมก่อตั้งขึ้น เมื่อประมาณ ๗-๘ ปีก่อน ถึงแม้ได้รับความยากลำบากแค่ไหน นักบวชชาย รวมถึงนักบวชหญิงที่พำนักอยู่ไกลกันพอสมควรแต่ในวัดเดียวที่มีอาณาเขตแบ่ง กั้นชัดเจน ต่างก็ยังคงหล่อเลี้ยงการปฏิบัติด้วยการนั่งสมาธิ สวดมนต์ แผ่เมตตา อโหสิกรรมให้กลุ่มที่มาทำร้ายเพราะต้องทำตามหน้าที่ที่ได้ถูกสมมุติขึ้น สังเกตเห็นได้ว่าถึงแม้หลายๆ คนไม่อยากทำเช่นนั้น แต่เพื่อความอยู่รอดในการดำรงชีพ ด้วยเหตุปัจจัยหลายๆ อย่างที่ทำให้ต้องฝืนใจตัวเอง กระทำตามคำสั่งที่ได้รับคำบัญชา ผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อย ๓ คนถูกสั่งให้ขึ้นไปยังหอสมาธิชั้นบนสุดของตึกฝั่งนักบวชชาย เมื่อไปถึงยังชั้นบนสุดผู้หญิง ๒ คนที่ไปด้วยกันถึงกับนั่งอยู่ตรงด้านหน้าห้องสมาธิไม่ได้ ขอตัวกลับเมื่อได้ยินสวดมนต์ที่ดังกึกก้อง บาดลึกเข้าไปในหัวใจ มีคำถามเกิดขึ้นว่าสิ่งที่ตนกำลังกระทำอยู่นั้นถูกต้องหรือไม่ ส่วนคนสุดท้ายขอโอกาสนั่งฟังและภาวนาร่วมไปด้วยพร้อมกับน้ำตาประกอบด้วยความ ปีติอิ่มเอิบบนใบหน้า ความคิดในเบื้องต้นที่จะมาทำลายความเลื่อมใสศรัทธามลายหายไปหมดสิ้น พลังแห่งความสงบสุข เมตตา กรุณามีอยู่ในตัวเราทุกคนเสมอ เมื่อเราให้โอกาสตัวเองที่จะได้สัมผัส เรียนรู้ ปฏิบัติ แม้ในขณะที่เรามีความทุกข์อย่างมหันต์ เราก็มีความสุขสงบอยู่ตรงนั้นเช่นเดียวกันเสมอ เพียงเราหยุด วางความยึดมั่นทั้งปวง เราจะมีโอกาสพบอิสรภาพภายในตนได้ทันที เมื่อเรามองอย่างลึกซึ้ง ความทุกข์เป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่งต่อมนุษย์ เพราะช่วยให้เราปล่อยวางในสิ่งที่หลงใหล เพลิดเพลิน ยึด ครอบครอง ว่าเป็นตัวเรา ของของเรา เพราะนั่นเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ทุกชีวิตต้องทุกข์ ไม่มากก็น้อย แผ่นดินแม่ บ้านเกิด สถานปฏิบัติธรรม วัด สิ่งที่เราเคยรับรู้ ล้วนแล้วแต่อยู่ในตัวเราทุกคน เราไม่จำเป็นต้องอยู่ ณ แผ่นดินแม่ ณ บ้านเกิด หรือในวัดและสถานปฏิบัติธรรม เราก็สามารถสัมผัสสิ่งเหล่านั้นในตัวเราได้เสมอ ไม่เพียงแค่นั้น ถ้าเราสามารถดำรงอยู่อย่างเต็มเปี่ยมในปัจจุบันขณะด้วยลมหายใจเข้า ออกแห่งสติ เราจะสัมผัส รับรู้ว่าสรรพสิ่งดำรงอยู่ในตัวเราและรอบๆ ตัว เราจะสามารถปล่อยวางทุกสิ่งอย่างเป็นธรรมชาติ ใจจะสงบสุข เบิกบาน มั่นคงในทุกที่และนี่คือที่มาแห่งอิสรภาพ เมื่อเราได้รับอิสรภาพภายใน ทุกที่คือ แผ่นดินแม่ ทุกที่คือบ้านเกิด สถานปฏิบัติธรรมก็เช่นกัน ดำรงอยู่ในทุกที่ ขณะที่กำลังเดินอยู่ ณ วัดตื่อ หิว อันเป็นวัดที่หลวงปู่ ติช นัท ฮันห์ บวชและอยู่อาศัยตั้งแต่สมัยเป็นสามเณร อันเป็นวัดรากของท่าน เมื่อทุกย่างก้าวสัมผัสพื้นดินอย่างเต็มเปี่ยม ทุกลมหายใจหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกับย่างก้าวที่สัมผัส หลวงปู่ติช นัท ฮันห์และบรรดาบรรพบุรุษ บูรพาจารย์แห่งวัดตื่อ หิว ก็ดำรงอยู่ ณ ตรงนั้นเช่นเดียวกัน และท่านเหล่านั้นก็ดำรงอยู่ในตัวลูกศิษย์ของท่านที่ฝึกปฏิบัติที่จะดำรงสติ ในทุกอิริยาบถไม่เฉพาะที่วัดต้นกำเนิดแห่งนี้เท่านั้น แต่สถานปฏิบัติทั่วทุกมุมโลก รวมทั้งสถานปฏิบัตินานาชาติแห่งประเทศไทยที่มีนักบวชวัยรุ่นชาย หญิงมากมาย กำลังมีความสุขกับการปฏิบัติ ณ สถานปฏิบัติแห่งใหม่ ณ วันนี้นักบวชชาย หญิงเหล่านั้น หลายรูปเดินทางไปอยู่ ณ สถานปฏิบัติหมู่บ้านพลัมประเทศ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมัน ฮ่องกง ออสเตรเลีย และนักบวชส่วนใหญ่มาพำนัก ณ สถานปฏิบัติธรรม หมู่บ้านพลัมนานาชาติ ประเทศไทย จ.นครราชสีมา ท่านเหล่านั้นยังคงหล่อเลี้ยงการปฏิบัติและทำหน้าที่เช่นเดียวกับตอนอยู่ที่ วัดปัญญา (บั๊ค หยา) จิตใจของท่านทุกรูป ไม่รู้สึกโกรธแค้น อาฆาต เกลียดชัง กับพวกตำรวจหรือคนที่พยายามทำลายวัดจนพวกท่านไม่สามารถอยู่ได้ แต่ท่านกลับรู้สึกเห็นใจ เข้าใจ ในความทุกข์ของพวกเขาเหล่านั้นอย่างแท้จริง ที่ถูกสิ่งสมมุติครอบงำ และตกอยู่ในความทุกข์อย่างน่าสงสาร เพราะความกลัว ความอยาก ความโกรธ และความหลง ดังที่หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ ได้กล่าวปาฐกถาสุดท้ายในวันทอดผ้าป่าที่หมู่บ้านพลัมนานาชาติ ประเทศไทย ตอนหนึ่งว่า หลวงปู่ประทับใจระลึกรู้บุญคุณพี่น้องชาวไทยเป็นอย่างยิ่งที่ได้เกื้อกูล บรรดาพระหนุ่มสาวทั้งหลายที่ต้องอพยพออกมาจากประเทศเวียดนาม ชาวไทยได้เปิดแขนโอบรับด้วยความเมตตากรุณาเป็นอย่างยิ่ง เราสามารถที่จะอยู่ตรงนี้และมีสถานที่ปฏิบัติ หลวงปู่ขอบพระคุณมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยที่ได้ช่วยเกื้อกูลสิ่ง ต่างๆ มากมายให้เราได้ทำสิ่งต่างได้ในขณะนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราไม่สามารถทำได้ในประเทศเวียดนาม " พุทธะ ดำรงอยู่ในตัวเธอ ไม่มีสิ่งใดทำลายเธอได้ เธอ และพุทธะ คือสิ่งเดียวกัน หมู่บ้านพลัม ขอเชิญร่วมกิจกรรม 'วันแห่งสติ' ณ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ วันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖ สอบถามได้ที่ ๐-๒๘๘๕-๕๙๘๐ และหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ขอเชิญร่วมงาน ๒๐ ปี พุทธทาสละสังขารและฉลองเจ้าอาวาสองค์ใหม่ ในวาระล้ออายุ ๑๐๗ ปี พุทธทาส ที่สวนโมกข์ ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ๒๔-๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖ สอบถาม โทร.๐๘-๓๘๙๘-๗๗๔๐, ๐-๒๙๓๖-๒๘๐๐ ต่อ ๗๑๐๕ และ ๗๑๑๒ ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20130517/158674/ความทุกข์มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อมนุษย์.html#.UbAO2thHWzs

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...