'อหิงสา'มรรคาสู่สันติ(๑๘)ตัดภพชาติด้วยการไม่จองเวร

แสดงความคิดเห็น

'อหิงสา'มรรคาสู่สันติ(๑๘)ตัดภพชาติด้วยการไม่จองเวร : คันฉ่องและโคมฉาย โดยว.วชิรเมธี

ขณะนั้น ทีฆาวุราชกุมารกลับไปเยี่ยมพระชนกชนนี แต่เห็นท่านทั้งสองถูกมัดและแห่รอบเมือง พระเจ้าทีฆีติโกศลราชทอดพระเนตรเห็นทีฆาวุกุมารทรงตรัสพระบรมราชโอวาทว่า พ่อทีฆาวุ เจ้าอย่าเห็นแก่ยาว เจ้าอย่าเห็นแก่สั้น เวรทั้งหลายย่อมไม่ระงับเพราะเวรเลย แต่ย่อมระงับได้เพราะไม่จองเวร

เมื่อพระชนกชนนีถูกประหารชีวิต ทีฆาวุกุมารนำสุรามาเลี้ยงพวกเจ้าหน้าที่อยู่ยาม จากนั้นจึงถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระชนกชนนี แล้วประนมพระหัตถ์ทำประทักษิณพระจิตกาธาร ๓ รอบ พระเจ้าพรหมทัตกาสิกราช ทอดพระเนตรเห็นทีฆาวุราชกุมาร กำลังทรงประนมพระหัตถ์ทำประทักษิณพระจิตกาธาร ๓ รอบ ครั้นแล้วได้ทรงพระดำริแน่ในพระทัยว่า เจ้าคนนั้นคงเป็นญาติหรือสายโลหิตของพระเจ้าทีฆีติโกศลราชแน่นอน น่ากลัวจะก่อความฉิบหายแก่เรา

ทีฆาวุราชกุมารเสด็จหลบเข้าป่าไป ทรงกันแสงร่ำไห้ แล้วเสด็จเข้าพระนครพาราณสี ทรงแสดงความปรารถนาในการศึกษาศิลปะแก่นายหัตถาจารย์ อยู่มาวันหนึ่งทีฆาวุราชกุมาร ทรงขับร้องและดีดพิณคลอเสียงเจื้อยแจ้วอยู่ที่โรงช้างในยามราตรี พระเจ้าพรหมทัตกาสิกราชทรงสดับเสียงเพลงและเสียงพิณที่ดีดคลอเสียงอันเจื้อย แจ้วดังแว่วมาทางโรงมงคลหัตถี จึงตรัสถามพวกมหาดเล็ก ได้ความว่าเป็นชายหนุ่มศิษย์ของนายหัตถาจารย์ ท่านจึงทรงให้พามาเข้าเฝ้า และให้อยู่รับใช้พระองค์

ทีฆาวุราชกุมารดูแลรับใช้อย่างใกล้ชิด ตื่นก่อนนอนทีหลัง เจรจาด้วยถ้อยคำอันไพเราะ จนพระเจ้าพรหมทัตกาสิกราชมอบตำแหน่งผู้ไว้วางพระราชหฤทัยใกล้ชิดสนิทภายใน อยู่มาวันหนึ่ง พระองค์ทรงให้ทีฆาวุกุมารขับราชรถไป แต่ราชรถแยกไปคนละทางกับหมู่เสนา พระเจ้าพรหมทัตกาสิกราชจึงให้จอดรถเพื่อบรรทมหลับ

ขณะนั้นทีฆาวุราชกุมารคิดถึงความหลัง จึงชักพระแสงขรรค์ออกจากฝัก แต่ทรงยั้งพระทัยไว้ ด้วยตระหนักถึงพระบรมราชโอวาทที่พระชนกทรงสั่งไว้เมื่อใกล้สวรรคต แล้วจึงสอดพระขรรค์เข้าไว้ในฝัก พระเจ้าพรหมทัตกาสิกราช ทรงสะดุ้งพระทัยตื่น ทีฆาวุราชกุมารจึงกราบทูลถาม พระเจ้าพรหมทัตกาสิกราชตรัสตอบว่า ท่านฝันว่าทีฆาวุราชกุมารโอรสของพระเจ้าทีฆีติโกศลราชฟาดฟันฉันด้วยพระแสง ขรรค์ ทันใดนั้น ทีฆาวุราชกุมารจับพระเศียรของพระเจ้าพรหมทัตกาสิกราชด้วยพระหัตถ์ซ้ายชักพระ แสงขรรค์ด้วยพระหัตถ์ขวา แล้วกล่าวว่าตนคือทีฆาวุกุมาร

พระเจ้าพรหมทัตกาสิกราช ซบพระเศียรลงแทบยุคลบาทของทีฆาวุราชกุมาร แล้วได้ตรัสคำวิงวอนขอชีวิต เจ้าชายกราบทูลตอบว่า ข้าพระพุทธเจ้าหรือจะเอื้อมอาจทูลเกล้าถวายชีวิตแก่พระองค์ พระองค์ต่างหากควรพระราชทานชีวิตแก่พระพุทธเจ้า พระเจ้าพรหมทัตกาสิกราชจึงตรัสว่า พ่อทีฆาวุ ถ้าเช่นนั้นพ่อจงให้ชีวิตแก่ฉัน และฉันก็ให้ชีวิตแก่พ่อ

(ติดตามตอนต่อไปวันพระหน้า)

ขอบคุณ http://www.komchadluek.net/detail/20130418/156372/อหิงสามรรคาสู่สันติ(๑๘)ตัดภพชาติด้วยการไม่จองเวร.html#.UXnsv0qja8o (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: www.komchadluek.net
วันที่โพสต์: 15/05/2556 เวลา 03:48:13

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

'อหิงสา'มรรคาสู่สันติ(๑๘)ตัดภพชาติด้วยการไม่จองเวร : คันฉ่องและโคมฉาย โดยว.วชิรเมธี ขณะนั้น ทีฆาวุราชกุมารกลับไปเยี่ยมพระชนกชนนี แต่เห็นท่านทั้งสองถูกมัดและแห่รอบเมือง พระเจ้าทีฆีติโกศลราชทอดพระเนตรเห็นทีฆาวุกุมารทรงตรัสพระบรมราชโอวาทว่า พ่อทีฆาวุ เจ้าอย่าเห็นแก่ยาว เจ้าอย่าเห็นแก่สั้น เวรทั้งหลายย่อมไม่ระงับเพราะเวรเลย แต่ย่อมระงับได้เพราะไม่จองเวร เมื่อพระชนกชนนีถูกประหารชีวิต ทีฆาวุกุมารนำสุรามาเลี้ยงพวกเจ้าหน้าที่อยู่ยาม จากนั้นจึงถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระชนกชนนี แล้วประนมพระหัตถ์ทำประทักษิณพระจิตกาธาร ๓ รอบ พระเจ้าพรหมทัตกาสิกราช ทอดพระเนตรเห็นทีฆาวุราชกุมาร กำลังทรงประนมพระหัตถ์ทำประทักษิณพระจิตกาธาร ๓ รอบ ครั้นแล้วได้ทรงพระดำริแน่ในพระทัยว่า เจ้าคนนั้นคงเป็นญาติหรือสายโลหิตของพระเจ้าทีฆีติโกศลราชแน่นอน น่ากลัวจะก่อความฉิบหายแก่เรา ทีฆาวุราชกุมารเสด็จหลบเข้าป่าไป ทรงกันแสงร่ำไห้ แล้วเสด็จเข้าพระนครพาราณสี ทรงแสดงความปรารถนาในการศึกษาศิลปะแก่นายหัตถาจารย์ อยู่มาวันหนึ่งทีฆาวุราชกุมาร ทรงขับร้องและดีดพิณคลอเสียงเจื้อยแจ้วอยู่ที่โรงช้างในยามราตรี พระเจ้าพรหมทัตกาสิกราชทรงสดับเสียงเพลงและเสียงพิณที่ดีดคลอเสียงอันเจื้อย แจ้วดังแว่วมาทางโรงมงคลหัตถี จึงตรัสถามพวกมหาดเล็ก ได้ความว่าเป็นชายหนุ่มศิษย์ของนายหัตถาจารย์ ท่านจึงทรงให้พามาเข้าเฝ้า และให้อยู่รับใช้พระองค์ ทีฆาวุราชกุมารดูแลรับใช้อย่างใกล้ชิด ตื่นก่อนนอนทีหลัง เจรจาด้วยถ้อยคำอันไพเราะ จนพระเจ้าพรหมทัตกาสิกราชมอบตำแหน่งผู้ไว้วางพระราชหฤทัยใกล้ชิดสนิทภายใน อยู่มาวันหนึ่ง พระองค์ทรงให้ทีฆาวุกุมารขับราชรถไป แต่ราชรถแยกไปคนละทางกับหมู่เสนา พระเจ้าพรหมทัตกาสิกราชจึงให้จอดรถเพื่อบรรทมหลับ ขณะนั้นทีฆาวุราชกุมารคิดถึงความหลัง จึงชักพระแสงขรรค์ออกจากฝัก แต่ทรงยั้งพระทัยไว้ ด้วยตระหนักถึงพระบรมราชโอวาทที่พระชนกทรงสั่งไว้เมื่อใกล้สวรรคต แล้วจึงสอดพระขรรค์เข้าไว้ในฝัก พระเจ้าพรหมทัตกาสิกราช ทรงสะดุ้งพระทัยตื่น ทีฆาวุราชกุมารจึงกราบทูลถาม พระเจ้าพรหมทัตกาสิกราชตรัสตอบว่า ท่านฝันว่าทีฆาวุราชกุมารโอรสของพระเจ้าทีฆีติโกศลราชฟาดฟันฉันด้วยพระแสง ขรรค์ ทันใดนั้น ทีฆาวุราชกุมารจับพระเศียรของพระเจ้าพรหมทัตกาสิกราชด้วยพระหัตถ์ซ้ายชักพระ แสงขรรค์ด้วยพระหัตถ์ขวา แล้วกล่าวว่าตนคือทีฆาวุกุมาร พระเจ้าพรหมทัตกาสิกราช ซบพระเศียรลงแทบยุคลบาทของทีฆาวุราชกุมาร แล้วได้ตรัสคำวิงวอนขอชีวิต เจ้าชายกราบทูลตอบว่า ข้าพระพุทธเจ้าหรือจะเอื้อมอาจทูลเกล้าถวายชีวิตแก่พระองค์ พระองค์ต่างหากควรพระราชทานชีวิตแก่พระพุทธเจ้า พระเจ้าพรหมทัตกาสิกราชจึงตรัสว่า พ่อทีฆาวุ ถ้าเช่นนั้นพ่อจงให้ชีวิตแก่ฉัน และฉันก็ให้ชีวิตแก่พ่อ (ติดตามตอนต่อไปวันพระหน้า) ขอบคุณ http://www.komchadluek.net/detail/20130418/156372/อหิงสามรรคาสู่สันติ(๑๘)ตัดภพชาติด้วยการไม่จองเวร.html#.UXnsv0qja8o

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...