เวลาเป็นสิ่งที่มีค่าและเวลาเป็นสิ่งที่มีความยุติธรรม
เวลา เป็นทรัพยากรที่มีค่ามาก และเป็นสิ่งที่มีความยุติธรรม เพราะทุกคนมีเวลาและได้เวลาเท่ากันหมด ไม่ว่าจะเป็นนาที ชั่วโมง เป็นวันหรือเป็นเดือน ไม่มีใครได้พิเศษกว่าใคร อาจมีความต่างกันบ้างที่ว่า เวลาสำหรับชีวิตของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน บางคนอายุสั้น บางคนอายุยืน บางคนไม่มีโอกาสเลย
เวลา เป็นทรัพยากรสำคัญที่ถูกละเลย ถูกมองข้าม เพราะเราได้เวลามาฟรีๆ ไม่ต้องลงทุนซื้อหา จึงทำให้มนุษย์ละเลยคุณค่าของเวลา และลืมคิดไปว่าเวลาในการมีชีวิตของตนนั้นมีจำกัด และไม่แน่นอน จำเป็นที่จะต้อง ใช้เวลาสร้างคุณค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่าให้เวลาสูญเปล่าหรือรั่วไหลไปโดยเปล่าประโยชน์ คนฉลาดจะรู้คุณค่าของเวลา รู้จักใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ อย่างที่ชอบพูดกันว่าเวลาเป็นเงินเป็นทอง
เวลา เป็นของขวัญอันมีค่าสูงที่เราเคยได้รับ เพียงแค่อย่าใช้เวลาไปในทางที่ตัวเราเองต้องตำหนิตัวเองในภายภาคหน้า หากเราไม่รู้จักคุณค่าของเวลา หรือบริหารเวลาไม่เป็น เวลาที่ผ่านไปนั้นอาจเป็นความสูญเสียโอกาสอันสำคัญในชีวิต เพราะไม่มีความคิดอันใดที่จะทำให้เราเสียใจยิ่งกว่าความคิดที่ว่า "สายเกินไป ไม่น่าปล่อยให้เป็นอย่างนี้เลย" ผู้ที่ใช้เวลาเป็นและบริหารเวลาได้ดีเท่านั้นจึงมีโอกาสได้รับความสำเร็จสมหวังในสิ่งที่ปรารถนามากกว่าคนอื่น
ถ้าเรามั่นคงในหลักที่ว่า เวลาแต่ละวัน อย่าให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ จะน้อยหรือมาก ก็ให้ได้อะไรบ้าง ในวัยเรียน จะตั้งใจเรียน ในวัยทำงาน จะตั้งใจทำงาน ในทุกๆ วัย จะตั้งใจทำความดี ทำแข่งกับเวลา เอาชนะเวลา เพราะคู่แข่งขันที่น่ากลัวที่สุดในโลกนี้คือ "เวลา"
พระพุทธเจ้าสอนให้พุทธศาสนิกชนรู้จักอยู่กับปัจจุบัน และแม้ในยามที่ดูเหมือนว่า ชีวิตจะเพลี่ยงพล้ำ ถลำพลาด ก็ไม่ขาดสติ รู้ตัวทั่วพร้อมอยู่เสมอ ทุกข์ก็รู้ว่าทุกข์ สุขก็รู้ว่าสุข หน้าที่เราเพียงแค่ตามดู ตามรู้ ไม่ตกเป็นทาสของอารมณ์ใดๆ
จะมีอะไรในโลกที่ทำให้เราเจ็บใจได้ ถ้าใจเราไม่ยอมผูกใจเจ็บ โลกทั้งโลก ดูเหมือนว่า ที่แท้แล้ว อยู่ที่ใจเรา ดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า โลกอันจิตนำไป โลกคือชีวิต จะไปทิศทางใด อยู่ที่ใจเรากำหนด ควรที่จะบริหารเวลาให้เป็นไปเพื่อประโยชน์ 4 อย่าง คือ
1.เพื่อส่วนตัว จัดสรรเวลาดูแลสุขภาพ รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ เลือกอากาศบริสุทธิ์ มีอารมณ์แจ่มใส ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ถือคติว่าร่างกายต้องเคลื่อนไหว ใจต้องนิ่ง
2.เพื่อครอบครัว จัดสรรเวลาทำกิจกรรมที่ดีระหว่างครอบครัวที่หลากหลายและเหมาะสม ครอบครัวถือว่าเป็นรากฐานสำคัญของสังคม ครอบครัวที่ยิ่งใหญ่ คือชาติไทยที่มั่นคง
3.เพื่อการทำงาน จัดสรรเวลาให้กับหน้าที่การงานอย่างเหมาะสม และรู้คุณค่า วางกรอบให้ชัดเจน โดยยึดหลักความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อความสุขความเจริญต่อตนเองและส่วนรวม
4.เพื่อสังคม จัดสรรเวลาให้ส่วนรวมตามเหตุผล เพื่อสัมพันธภาพ มิตรภาพที่ดี โดยไม่เผลอใจให้เพลิดเพลินในแสง สี เสียง หรือลุ่มหลงในอบายมุข ซึ่งนำพาชีวิตให้ตกต่ำ
ดังนั้น บริหารเวลาอย่างมีคุณค่า รู้เวลาอันเหมาะสม รู้เวลาที่ต้องใช้ในการประกอบกิจ หน้าที่ หรือปฏิบัติการต่างๆ ให้ตรงเวลา ให้เป็นเวลา ให้ทันเวลา ให้พอเวลา ให้เหมาะเวลา ย่อมสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจได้อย่างแน่นอน
คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด
บทความโดย พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ. 9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร
ขอบคุณ... https://goo.gl/avZdJn (ขนาดไฟล์: 0 )
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
นาฬิกาทราย เวลา เป็นทรัพยากรที่มีค่ามาก และเป็นสิ่งที่มีความยุติธรรม เพราะทุกคนมีเวลาและได้เวลาเท่ากันหมด ไม่ว่าจะเป็นนาที ชั่วโมง เป็นวันหรือเป็นเดือน ไม่มีใครได้พิเศษกว่าใคร อาจมีความต่างกันบ้างที่ว่า เวลาสำหรับชีวิตของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน บางคนอายุสั้น บางคนอายุยืน บางคนไม่มีโอกาสเลย เวลา เป็นทรัพยากรสำคัญที่ถูกละเลย ถูกมองข้าม เพราะเราได้เวลามาฟรีๆ ไม่ต้องลงทุนซื้อหา จึงทำให้มนุษย์ละเลยคุณค่าของเวลา และลืมคิดไปว่าเวลาในการมีชีวิตของตนนั้นมีจำกัด และไม่แน่นอน จำเป็นที่จะต้อง ใช้เวลาสร้างคุณค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่าให้เวลาสูญเปล่าหรือรั่วไหลไปโดยเปล่าประโยชน์ คนฉลาดจะรู้คุณค่าของเวลา รู้จักใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ อย่างที่ชอบพูดกันว่าเวลาเป็นเงินเป็นทอง เวลา เป็นของขวัญอันมีค่าสูงที่เราเคยได้รับ เพียงแค่อย่าใช้เวลาไปในทางที่ตัวเราเองต้องตำหนิตัวเองในภายภาคหน้า หากเราไม่รู้จักคุณค่าของเวลา หรือบริหารเวลาไม่เป็น เวลาที่ผ่านไปนั้นอาจเป็นความสูญเสียโอกาสอันสำคัญในชีวิต เพราะไม่มีความคิดอันใดที่จะทำให้เราเสียใจยิ่งกว่าความคิดที่ว่า "สายเกินไป ไม่น่าปล่อยให้เป็นอย่างนี้เลย" ผู้ที่ใช้เวลาเป็นและบริหารเวลาได้ดีเท่านั้นจึงมีโอกาสได้รับความสำเร็จสมหวังในสิ่งที่ปรารถนามากกว่าคนอื่น ถ้าเรามั่นคงในหลักที่ว่า เวลาแต่ละวัน อย่าให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ จะน้อยหรือมาก ก็ให้ได้อะไรบ้าง ในวัยเรียน จะตั้งใจเรียน ในวัยทำงาน จะตั้งใจทำงาน ในทุกๆ วัย จะตั้งใจทำความดี ทำแข่งกับเวลา เอาชนะเวลา เพราะคู่แข่งขันที่น่ากลัวที่สุดในโลกนี้คือ "เวลา" พระพุทธเจ้าสอนให้พุทธศาสนิกชนรู้จักอยู่กับปัจจุบัน และแม้ในยามที่ดูเหมือนว่า ชีวิตจะเพลี่ยงพล้ำ ถลำพลาด ก็ไม่ขาดสติ รู้ตัวทั่วพร้อมอยู่เสมอ ทุกข์ก็รู้ว่าทุกข์ สุขก็รู้ว่าสุข หน้าที่เราเพียงแค่ตามดู ตามรู้ ไม่ตกเป็นทาสของอารมณ์ใดๆ จะมีอะไรในโลกที่ทำให้เราเจ็บใจได้ ถ้าใจเราไม่ยอมผูกใจเจ็บ โลกทั้งโลก ดูเหมือนว่า ที่แท้แล้ว อยู่ที่ใจเรา ดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า โลกอันจิตนำไป โลกคือชีวิต จะไปทิศทางใด อยู่ที่ใจเรากำหนด ควรที่จะบริหารเวลาให้เป็นไปเพื่อประโยชน์ 4 อย่าง คือ 1.เพื่อส่วนตัว จัดสรรเวลาดูแลสุขภาพ รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ เลือกอากาศบริสุทธิ์ มีอารมณ์แจ่มใส ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ถือคติว่าร่างกายต้องเคลื่อนไหว ใจต้องนิ่ง 2.เพื่อครอบครัว จัดสรรเวลาทำกิจกรรมที่ดีระหว่างครอบครัวที่หลากหลายและเหมาะสม ครอบครัวถือว่าเป็นรากฐานสำคัญของสังคม ครอบครัวที่ยิ่งใหญ่ คือชาติไทยที่มั่นคง 3.เพื่อการทำงาน จัดสรรเวลาให้กับหน้าที่การงานอย่างเหมาะสม และรู้คุณค่า วางกรอบให้ชัดเจน โดยยึดหลักความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อความสุขความเจริญต่อตนเองและส่วนรวม 4.เพื่อสังคม จัดสรรเวลาให้ส่วนรวมตามเหตุผล เพื่อสัมพันธภาพ มิตรภาพที่ดี โดยไม่เผลอใจให้เพลิดเพลินในแสง สี เสียง หรือลุ่มหลงในอบายมุข ซึ่งนำพาชีวิตให้ตกต่ำ ดังนั้น บริหารเวลาอย่างมีคุณค่า รู้เวลาอันเหมาะสม รู้เวลาที่ต้องใช้ในการประกอบกิจ หน้าที่ หรือปฏิบัติการต่างๆ ให้ตรงเวลา ให้เป็นเวลา ให้ทันเวลา ให้พอเวลา ให้เหมาะเวลา ย่อมสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจได้อย่างแน่นอน คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด บทความโดย พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ. 9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร ขอบคุณ... https://goo.gl/avZdJn
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)