ศาล รธน.ไม่รับคำร้องสมาคมทนายความฯ ฟ้อง กปปส.ยุติชุมนุม ชี้ทำตามกรอบรัฐธรรมนูญ

แสดงความคิดเห็น

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 ไม่รับคำร้องสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ขอให้สั่ง กปปส. เลิกชุมนุม ชี้เป็นการชุมนุมในขอบเขตรัฐธรรมนูญ มีเหตุผลมาจากความไม่ไว้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ขณะเดียวกัน มีมติชี้ พ.ร.บ.ป.ป.ช.มาตรา 92 วรรคสอง ไม่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 30 กรณีชี้มูลอดีตเลขาฯ ก.พ.ผิดวินัยร้ายแรง

วันนี้ (18 ธ.ค.) สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่เอกสารผลการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาเรื่องที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 257 วรรคหนึ่ง (2) ว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 92 วรรคสอง กระทบต่อสิทธิมนุษยชนและมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 30 หรือไม่ ซึ่งคำร้องดังกล่าว คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ อดีตเลขาธิการ ก.พ.ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลว่ามีความผิดวินัยและความผิดอาญาในขณะที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ.ซึ่งคุณหญิงทิพาวดี เห็นว่าการดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงและการพิจารณาวินิจฉัยชี้มูลของ ป.ป.ช.ไม่เป็นธรรมและขัดต่อรัฐธรรมนูญ รวมทั้งถูกจำกัดสิทธิในการอุทธรณ์ จึงขอให้ กสม.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องดังกล่าว โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 92 วรรคสอง ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 30

นอกจากนี้ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยังได้พิจารณาคำร้องที่ นายกิตติ อธินันท์ ในฐานะตัวแทนสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตย ที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปัตย์ กระทำการเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทาง ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากกรณีที่ผู้ร้องได้กระทำการชุมนุมบริเวณ ถ.ราชดำเนิน โดยมีการปิดเส้นทางการจราจร อีกทั้งยังได้ดำเนินการเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมไปปิดล้อมและบุกยึดสถานที่ ราชการ สถานที่เอกชน และรัฐวิสาหกิจต่างๆ จนทำให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ รวมทั้งการที่นายสุเทพ ประกาศจะจัดตั้งสภาประชาชนเพื่อใช้อำนาจอธิปไตยสร้างกฎเกณฑ์และกติกาในการ ปกครองประเทศใหม่ จึงเห็นว่าการกระทำของนายสุเทพ ได้รับการสนับสนุนจากนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 3 และ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง

โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 เห็นว่า การชุมนุมของประชาชนตามคำร้องเป็นการใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจาก อาวุธเพื่อแสดงเจตนารมณ์ทางการเมือง โดยมีเหตุผลมาจากความไม่ไว้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล อันถือเป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และเป็นการเรียกร้องและแสดงพลังด้วยการสนับสนุนของประชาชนจำนวนมาก ประกอบกับสถานการณ์ตามคำร้องได้พัฒนาไปสู่การยุบสภาและเข้าสู่กระบวนการ เลือกตั้งแล้ว จึงยังไม่มีมูลกรณีตามคำร้องดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัย

ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000155442 (ขนาดไฟล์: 169)

(ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 19 ธ.ค.56)

ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 19 ธ.ค.56
วันที่โพสต์: 20/12/2556 เวลา 03:28:44

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 ไม่รับคำร้องสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ขอให้สั่ง กปปส. เลิกชุมนุม ชี้เป็นการชุมนุมในขอบเขตรัฐธรรมนูญ มีเหตุผลมาจากความไม่ไว้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ขณะเดียวกัน มีมติชี้ พ.ร.บ.ป.ป.ช.มาตรา 92 วรรคสอง ไม่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 30 กรณีชี้มูลอดีตเลขาฯ ก.พ.ผิดวินัยร้ายแรง วันนี้ (18 ธ.ค.) สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่เอกสารผลการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาเรื่องที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 257 วรรคหนึ่ง (2) ว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 92 วรรคสอง กระทบต่อสิทธิมนุษยชนและมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 30 หรือไม่ ซึ่งคำร้องดังกล่าว คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ อดีตเลขาธิการ ก.พ.ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลว่ามีความผิดวินัยและความผิดอาญาในขณะที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ.ซึ่งคุณหญิงทิพาวดี เห็นว่าการดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงและการพิจารณาวินิจฉัยชี้มูลของ ป.ป.ช.ไม่เป็นธรรมและขัดต่อรัฐธรรมนูญ รวมทั้งถูกจำกัดสิทธิในการอุทธรณ์ จึงขอให้ กสม.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องดังกล่าว โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 92 วรรคสอง ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 30 นอกจากนี้ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยังได้พิจารณาคำร้องที่ นายกิตติ อธินันท์ ในฐานะตัวแทนสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตย ที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปัตย์ กระทำการเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทาง ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากกรณีที่ผู้ร้องได้กระทำการชุมนุมบริเวณ ถ.ราชดำเนิน โดยมีการปิดเส้นทางการจราจร อีกทั้งยังได้ดำเนินการเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมไปปิดล้อมและบุกยึดสถานที่ ราชการ สถานที่เอกชน และรัฐวิสาหกิจต่างๆ จนทำให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ รวมทั้งการที่นายสุเทพ ประกาศจะจัดตั้งสภาประชาชนเพื่อใช้อำนาจอธิปไตยสร้างกฎเกณฑ์และกติกาในการ ปกครองประเทศใหม่ จึงเห็นว่าการกระทำของนายสุเทพ ได้รับการสนับสนุนจากนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 3 และ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 เห็นว่า การชุมนุมของประชาชนตามคำร้องเป็นการใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจาก อาวุธเพื่อแสดงเจตนารมณ์ทางการเมือง โดยมีเหตุผลมาจากความไม่ไว้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล อันถือเป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และเป็นการเรียกร้องและแสดงพลังด้วยการสนับสนุนของประชาชนจำนวนมาก ประกอบกับสถานการณ์ตามคำร้องได้พัฒนาไปสู่การยุบสภาและเข้าสู่กระบวนการ เลือกตั้งแล้ว จึงยังไม่มีมูลกรณีตามคำร้องดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัย ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000155442 (ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 19 ธ.ค.56)

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...