'กิตติรัตน์'เตือนเลี่ยงจ่ายภาษีผิดกฎหมาย วอนอย่ายั่วยุมวลชน

แสดงความคิดเห็น

กิตติรัตน์  ณ ระนอง

“กิตติรัตน์ ณ ระนอง”เตือนเลี่ยงหรือชะลอจ่ายภาษีมีความผิดทางกฎหมาย สอนอย่าหลงเชื่อคำยุงยง ยันไม่ตรวจสอบภาษีย้อนหลังดารา-นักธุรกิจที่ร่วมชุมนุม ขณะที่ ม.หอการค้า ห่วงรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวกับธุรกิจขนส่งนัดหยุดงาน สร้างความเสียหายสูงถึง 1 แสนล้านบาท...

ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงความเป็นห่วงกรณีแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเวทีราชดำเนินประกาศรณรงค์ประชาชน และนักธุรกิจ ร่วมแสดงอารยะขัดขืน 4 มาตรการ โดยเฉพาะการเรียกร้องให้นักธุรกิจชะลอการจ่ายเงินภาษี ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย หากไม่ดำเนินการตามจะถือเป็นความผิด และต้องจ่ายค่าปรับ โดยไม่มีใครสามารถรับผิดชอบแทนได้ พร้อมขอร้องประชาชนอย่าหลงเชื่อคำยุยงที่ผิดกฎหมาย เพราะจะส่งผลเสียต่อประเทศ และเมื่อมีความผิดทางกฎหมาย ไม่มีใครสามารถรับผิดชอบแทนได้

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียัง กล่าวด้วยว่า รัฐบาลยืนยันว่าไม่มีนโยบายคุกคามประชาชนที่ออกมาชุมนุม พร้อมทั้งยืนยันว่ารัฐบาลเคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชนที่แสดงออกภายใต้ กรอบรัฐธรรมนูญ โดยจะไม่เข้าไปตรวจสอบภาษีย้อนหลังดารานักแสดง นักธุรกิจและผู้มีชื่อเสียง ที่ขึ้นเวทีชุมนุม

ในขณะที่นายสุทธิชัย สังขมณี อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ประชาชนตระหนักดีในการจ่ายภาษีเงินได้ ซึ่งเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย และเชื่อว่าประชาชน รวมทั้งนักธุรกิจเข้าใจในเรื่องดังกล่วเป็นอย่างดี พร้อมทั้งมองว่าการเรียกร้องให้ชะลอการจ่ายภาษีเป็นการเรียกร้องที่ไม่ เกี่ยวข้องกับประเด็นการชุมนุม

ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงกรณีแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาชนร่วมแสดงอารยะขัดขืน 4 มาตรการ ว่า หากมีการนัดหยุดงานจริง และเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการขนส่งทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ หยุดทำงานทั้งหมดก็จะทำให้เกิดความเสียหายสูงถึงเดือนละ 50,000-100,000 ล้านบาท แต่หากการนัดหยุดงานเกิดเฉพาะบริษัทเอกชนที่อยู่ในภาคบริการ และการหยุดงานเป็นเพียงระยะสั้น ๆ รวมทั้งไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น คาดความเสียหายจะอยู่ที่เดือนละ 20,000-30,000 ล้านบาท หรือมีผลทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ลดลง 0.1-0.2%

นอก จากนี้ยังประเมินว่า หากการชุมนุมยืดเยื้อต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสแรกปี 57 จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ 100,000-150,000 ล้านบาท และอาจทำให้จีดีพีปี 57 เติบโตได้เพียง 4% จากเดิมคาดโต 5%.

ขอบคุณ... http://m.thairath.co.th/content/eco/382347

(ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 12 พ.ย.56)

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 12 พ.ย.56
วันที่โพสต์: 13/11/2556 เวลา 04:36:48 ดูภาพสไลด์โชว์ 'กิตติรัตน์'เตือนเลี่ยงจ่ายภาษีผิดกฎหมาย วอนอย่ายั่วยุมวลชน

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

กิตติรัตน์ ณ ระนอง “กิตติรัตน์ ณ ระนอง”เตือนเลี่ยงหรือชะลอจ่ายภาษีมีความผิดทางกฎหมาย สอนอย่าหลงเชื่อคำยุงยง ยันไม่ตรวจสอบภาษีย้อนหลังดารา-นักธุรกิจที่ร่วมชุมนุม ขณะที่ ม.หอการค้า ห่วงรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวกับธุรกิจขนส่งนัดหยุดงาน สร้างความเสียหายสูงถึง 1 แสนล้านบาท... ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงความเป็นห่วงกรณีแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเวทีราชดำเนินประกาศรณรงค์ประชาชน และนักธุรกิจ ร่วมแสดงอารยะขัดขืน 4 มาตรการ โดยเฉพาะการเรียกร้องให้นักธุรกิจชะลอการจ่ายเงินภาษี ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย หากไม่ดำเนินการตามจะถือเป็นความผิด และต้องจ่ายค่าปรับ โดยไม่มีใครสามารถรับผิดชอบแทนได้ พร้อมขอร้องประชาชนอย่าหลงเชื่อคำยุยงที่ผิดกฎหมาย เพราะจะส่งผลเสียต่อประเทศ และเมื่อมีความผิดทางกฎหมาย ไม่มีใครสามารถรับผิดชอบแทนได้ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียัง กล่าวด้วยว่า รัฐบาลยืนยันว่าไม่มีนโยบายคุกคามประชาชนที่ออกมาชุมนุม พร้อมทั้งยืนยันว่ารัฐบาลเคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชนที่แสดงออกภายใต้ กรอบรัฐธรรมนูญ โดยจะไม่เข้าไปตรวจสอบภาษีย้อนหลังดารานักแสดง นักธุรกิจและผู้มีชื่อเสียง ที่ขึ้นเวทีชุมนุม ในขณะที่นายสุทธิชัย สังขมณี อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ประชาชนตระหนักดีในการจ่ายภาษีเงินได้ ซึ่งเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย และเชื่อว่าประชาชน รวมทั้งนักธุรกิจเข้าใจในเรื่องดังกล่วเป็นอย่างดี พร้อมทั้งมองว่าการเรียกร้องให้ชะลอการจ่ายภาษีเป็นการเรียกร้องที่ไม่ เกี่ยวข้องกับประเด็นการชุมนุม ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงกรณีแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาชนร่วมแสดงอารยะขัดขืน 4 มาตรการ ว่า หากมีการนัดหยุดงานจริง และเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการขนส่งทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ หยุดทำงานทั้งหมดก็จะทำให้เกิดความเสียหายสูงถึงเดือนละ 50,000-100,000 ล้านบาท แต่หากการนัดหยุดงานเกิดเฉพาะบริษัทเอกชนที่อยู่ในภาคบริการ และการหยุดงานเป็นเพียงระยะสั้น ๆ รวมทั้งไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น คาดความเสียหายจะอยู่ที่เดือนละ 20,000-30,000 ล้านบาท หรือมีผลทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ลดลง 0.1-0.2% นอก จากนี้ยังประเมินว่า หากการชุมนุมยืดเยื้อต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสแรกปี 57 จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ 100,000-150,000 ล้านบาท และอาจทำให้จีดีพีปี 57 เติบโตได้เพียง 4% จากเดิมคาดโต 5%. ขอบคุณ... http://m.thairath.co.th/content/eco/382347 (ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 12 พ.ย.56)

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...