รองเลขาฯ กฤษฎีกาแจง กมธ.วุฒิฯ ชี้"ปู"ไม่ต้องรับผิดชอบปมที่มา ส.ว.
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษา ตรวจสอบเรื่องทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ที่มีนายสาย กังกเวคิน ส.ว.สรรหา เป็นประธาน ได้พิจารณาถึงประเด็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลุ่มมาตราว่าด้วยที่มาของ ส.ว. ที่ล่าสุดพบว่าได้มีการนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ โดยนายนิพนธ์ ฮะกิมี รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เข้าชี้แจง ฐานะตัวแทนรัฐบาลว่า ทราบว่าทางสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ทำความเห็นทางกฎหมายเสนอต่อ สลค.กรณีที่มีกลุ่มบุคคลยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับดังกล่าวมีความขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ 2550 หรือไม่ โดยอาศัยอำนาจในมาตรา 154 (1) ว่าสามารถดำเนินการได้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ส่วนกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นขัดกับรัฐธรรมนูญ โดยทางกฎหมายแล้วเห็นว่า ประเด็นที่จะขัดต่อรัฐธรรมนูญนั้น จะมีเฉพาะการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปของรัฐ ตามที่มาตรา 291 (1) วรรคสองระบุเท่านั้น ส่วนกรณีอื่นตนเห็นว่า การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยตัวบทย่อมเป็นเหตุของการขัดกันอยู่แล้ว ถ้าไม่มีความขัดกัน ก็จะไม่เรียกว่าเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
กมธ.ซักถามถึงต่อความรับผิดชอบของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้รับสนองพระบรมราชโองการ กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญอาจวินิจฉัยว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลุ่มมาตราที่ว่าด้วย ส.ว. ขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 โดยนายนิพนธ์กล่าวว่า ไม่มีบทบัญญัติใดที่ระบุถึงความรับผิดชอบดังกล่าว อีกทั้งตนไม่ทราบว่าผลพิจารณาจะออกมาในรูปแบบใด และกรณีที่มีผู้ร้องศาลให้พิจารณาว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 หรือไม่ ส่วนตัวยังงงๆ และหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัด บทสรุปของรัฐธรรมนูญที่มีการทูลเกล้าทูลกระหม่อมแล้วจะตกไปด้วยบทบัญญัติของ รัฐธรรมนูญมาตราใด ถือว่าเป็นปัญหาทางข้อกฎหมายที่ต้องพิจารณาไตร่ตรองต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายกรรมาธิการได้สอบถามถึงการนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการ คมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 หรือไม่ โดยนายนิพนธ์ ปฏิเสธที่จะออกความเห็น
ขอบคุณ… http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1381390172&grpid=&catid=01&subcatid=0100
(มติชนออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 10 ต.ค.56)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษา ตรวจสอบเรื่องทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ที่มีนายสาย กังกเวคิน ส.ว.สรรหา เป็นประธาน ได้พิจารณาถึงประเด็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลุ่มมาตราว่าด้วยที่มาของ ส.ว. ที่ล่าสุดพบว่าได้มีการนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ โดยนายนิพนธ์ ฮะกิมี รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เข้าชี้แจง ฐานะตัวแทนรัฐบาลว่า ทราบว่าทางสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ทำความเห็นทางกฎหมายเสนอต่อ สลค.กรณีที่มีกลุ่มบุคคลยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับดังกล่าวมีความขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ 2550 หรือไม่ โดยอาศัยอำนาจในมาตรา 154 (1) ว่าสามารถดำเนินการได้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ส่วนกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นขัดกับรัฐธรรมนูญ โดยทางกฎหมายแล้วเห็นว่า ประเด็นที่จะขัดต่อรัฐธรรมนูญนั้น จะมีเฉพาะการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปของรัฐ ตามที่มาตรา 291 (1) วรรคสองระบุเท่านั้น ส่วนกรณีอื่นตนเห็นว่า การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยตัวบทย่อมเป็นเหตุของการขัดกันอยู่แล้ว ถ้าไม่มีความขัดกัน ก็จะไม่เรียกว่าเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กมธ.ซักถามถึงต่อความรับผิดชอบของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้รับสนองพระบรมราชโองการ กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญอาจวินิจฉัยว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลุ่มมาตราที่ว่าด้วย ส.ว. ขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 โดยนายนิพนธ์กล่าวว่า ไม่มีบทบัญญัติใดที่ระบุถึงความรับผิดชอบดังกล่าว อีกทั้งตนไม่ทราบว่าผลพิจารณาจะออกมาในรูปแบบใด และกรณีที่มีผู้ร้องศาลให้พิจารณาว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 หรือไม่ ส่วนตัวยังงงๆ และหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัด บทสรุปของรัฐธรรมนูญที่มีการทูลเกล้าทูลกระหม่อมแล้วจะตกไปด้วยบทบัญญัติของ รัฐธรรมนูญมาตราใด ถือว่าเป็นปัญหาทางข้อกฎหมายที่ต้องพิจารณาไตร่ตรองต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายกรรมาธิการได้สอบถามถึงการนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการ คมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 หรือไม่ โดยนายนิพนธ์ ปฏิเสธที่จะออกความเห็น ขอบคุณ… http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1381390172&grpid=&catid=01&subcatid=0100 (มติชนออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 10 ต.ค.56)
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)