ดันกฎหมายสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ ชูฟิลิปปินส์ทำจริงลดตาย
รศ.ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า จากการประชุมเครือข่ายภาคประชาสังคม โดยกลุ่มผู้หญิง กลุ่มเด็กและเยาวชน กลุ่มผู้พิการ กลุ่มหลากหลายทางเพศ นักกฎหมาย และ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชน สิทธิอนามัยการเจริญพันธุ์และสุขภาพทางเพศ ร่วมกับมูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง (สคส.) จัดวิพากษ์ "ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิอนามัยการเจริญพันธุ์และสุขภาพ ทางเพศ" ฉบับภาคประชาชน เพื่อรวบรวมข้อคิดเห็นจากประชาชนมาปรับปรุงร่างกฎหมายดังกล่าวให้ครอบคลุม ทุกประเด็นปัญหาในสังคมและเสนอรัฐสภาให้เข้าสู่กระบวนพิจารณาเป็นกฎหมายนั้น ได้ผลักดันการบรรจุเรื่องสุขภาพผู้หญิงลงในมาตรา 6 ของพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติด้วย ซึ่งสคส.ได้จัดเวทีวิพากษ์ ร่างกฎหมายดังกล่าวไปแล้ว 3 ภาค และที่กทม.
ด้าน นายรามอน ซาน ปาสเกา ผอ.สภาความร่วมมือด้านประชากรและการพัฒนาของสมาชิกรัฐสภาในกลุ่มภูมิภาคอา เซียน กล่าวว่า การขับเคลื่อนกฎหมายอนามัยเจริญพันธุ์ของฟิลิปปินส์ ซึ่งการทำแท้งถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ผิดบาปในสังคม แต่ฟิลิปปินส์กลับมีปัญหาการเสียชีวิตจากการคลอดและจำนวนทำแท้งไม่ได้สูงมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในเอเชีย ดังนั้น ประเด็นการรณรงค์ผลักดันกฎหมายอนามัยการเจริญพันธุ์จึงเน้นไปที่การรักษา ชีวิตและสุขภาพของผู้หญิงไม่ให้เสียชีวิตจากการคลอด หรือต้องไปทำแท้งที่ไม่ได้คุณภาพ
กฎหมาย จึงเน้นบริการวางแผนครอบครัวที่มีประสิทธิ ภาพ เช่น ให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้หญิงที่ด้อยโอกาสได้รับบริการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น
"ฟิลิปปินส์ ใช้เวลาขับเคลื่อนกฎหมาย 10 ปี และเพิ่งผ่านเป็นกฎหมายเมื่อปี 2555 สิ่งสำคัญที่ทำให้กฎหมายนี้ประสบความสำเร็จ คือ การมีจุดยืนเรื่องความพยายาม ลดอัตราการเสียชีวิตจากการคลอด โดยเน้นรณรงค์ในสังคม หน่วยงานและผู้มีอำนาจในการตัดสินใจระดับสูงซึ่งมีส่วนสำคัญในการออกกฎหมาย" นายรามอนกล่าว
(ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 9 ต.ค.56)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
รศ.ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า จากการประชุมเครือข่ายภาคประชาสังคม โดยกลุ่มผู้หญิง กลุ่มเด็กและเยาวชน กลุ่มผู้พิการ กลุ่มหลากหลายทางเพศ นักกฎหมาย และ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชน สิทธิอนามัยการเจริญพันธุ์และสุขภาพทางเพศ ร่วมกับมูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง (สคส.) จัดวิพากษ์ "ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิอนามัยการเจริญพันธุ์และสุขภาพ ทางเพศ" ฉบับภาคประชาชน เพื่อรวบรวมข้อคิดเห็นจากประชาชนมาปรับปรุงร่างกฎหมายดังกล่าวให้ครอบคลุม ทุกประเด็นปัญหาในสังคมและเสนอรัฐสภาให้เข้าสู่กระบวนพิจารณาเป็นกฎหมายนั้น ได้ผลักดันการบรรจุเรื่องสุขภาพผู้หญิงลงในมาตรา 6 ของพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติด้วย ซึ่งสคส.ได้จัดเวทีวิพากษ์ ร่างกฎหมายดังกล่าวไปแล้ว 3 ภาค และที่กทม. ด้าน นายรามอน ซาน ปาสเกา ผอ.สภาความร่วมมือด้านประชากรและการพัฒนาของสมาชิกรัฐสภาในกลุ่มภูมิภาคอา เซียน กล่าวว่า การขับเคลื่อนกฎหมายอนามัยเจริญพันธุ์ของฟิลิปปินส์ ซึ่งการทำแท้งถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ผิดบาปในสังคม แต่ฟิลิปปินส์กลับมีปัญหาการเสียชีวิตจากการคลอดและจำนวนทำแท้งไม่ได้สูงมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในเอเชีย ดังนั้น ประเด็นการรณรงค์ผลักดันกฎหมายอนามัยการเจริญพันธุ์จึงเน้นไปที่การรักษา ชีวิตและสุขภาพของผู้หญิงไม่ให้เสียชีวิตจากการคลอด หรือต้องไปทำแท้งที่ไม่ได้คุณภาพ กฎหมาย จึงเน้นบริการวางแผนครอบครัวที่มีประสิทธิ ภาพ เช่น ให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้หญิงที่ด้อยโอกาสได้รับบริการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น "ฟิลิปปินส์ ใช้เวลาขับเคลื่อนกฎหมาย 10 ปี และเพิ่งผ่านเป็นกฎหมายเมื่อปี 2555 สิ่งสำคัญที่ทำให้กฎหมายนี้ประสบความสำเร็จ คือ การมีจุดยืนเรื่องความพยายาม ลดอัตราการเสียชีวิตจากการคลอด โดยเน้นรณรงค์ในสังคม หน่วยงานและผู้มีอำนาจในการตัดสินใจระดับสูงซึ่งมีส่วนสำคัญในการออกกฎหมาย" นายรามอนกล่าว ขอบคุณ… http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE1UTXdNak0yTWc9PQ==&subcatid= (ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 9 ต.ค.56)
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)