จากกฎหมายถึงกฎแห่งกรรม

แสดงความคิดเห็น

ช่วงระยะระหว่างนี้...คงต้องเรียกว่าเป็น ช่วงเวลาของกฎหมาย ยังไม่ใช่ ช่วงเวลาของกฎแห่งกรรม ที่จะทยอยตามมาหลังจากนั้น ด้วยเหตุนี้การผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 เพื่อจัดตั้ง สภาผัว-เมีย ตามแนวทางประชาธิปไตยของพวกเสื้อแดงทั้งหลายให้จงได้ มันเลยยังต้องมั่วๆ อยู่กับเรื่องกระบวนการทูลเกล้าฯ ไม่ทูลเกล้าฯ กระบวนการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งออกจะเป็นอะไรที่น่าปวดเศียร เวียนเกล้า อยู่ไม่น้อย...

------------------------------------------------

อย่างที่ท่านอดีตนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน ท่านเคยปรารภ รำพึง เอาไว้มานานแล้วนั่นแหละว่า...จากจำนวนประชากรประเทศไทยประมาณ 60-70 ล้านคน น่าจะมี ศรีธนญชัย จำนวนไม่ต่ำกว่า 120-140 ล้านคนเป็นอย่างน้อย คือไม่ว่าใครก็ใครเถอะ...ส่วนใหญ่มักจะหนักไปทางประเภท หัวกฎหมาย หรือ หัวหมอ ไปด้วยกันทั้งสิ้น การชิงเล่ห์ ชิงเหลี่ยม การอาศัยช่องว่าง ช่องโหว่ ของกฎหมายมาใช้เป็นข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบระหว่างกันและกัน จึงทำให้การเปลี่ยนแปลง การพัฒนาประเทศไทย มักจะวนไป-วนมาอยู่ในแอ่งกฎหมาย และในอ่างรัฐธรรมนูญ ชนิดไม่ยอมไปไหนกับใครต่อใครเค้าซักกะที ต่างฝ่ายต่างมั่ว ต่างเมามันซ์ซ์ซ์ อยู่ภายในโอ่งในไห ในซุ้มไก่ ในกะลา จนประเทศไทยอาจพังพินาศไปก่อนคนไทยเอาเลยก็ไม่แน่!!!

---------------------------------------------------

อย่างไรก็ตาม...เท่าที่สดับรับฟังจากบรรดาผู้สันทัดกรณีหลายต่อหลายท่าน ได้วิเคราะห์และตั้งข้อสังเกตเอาไว้ถึงความเป็นไปทางการเมืองนับจากนี้ ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันจะไปขมวดปมกันตรงที่ การเตรียมการยุบสภา กันซะเป็นหลักใหญ่ ซึ่งอาจถือเป็น ทางออก หรือ ทางรอด ของรัฐบาล ทั้งในแง่ของความสำเร็จ-ไม่สำเร็จในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การผ่านกฎหมายสำคัญต่างๆ ให้ถึงขั้นมีผลบังคับใช้ ไปจนกระทั่งการกลบเกลื่อนความล้มเหลว อันเนื่องมาจากความผิดพลาดของนโยบายประชานิยม ที่กำลังทำให้ประเทศทั้งประเทศต้องหัวทิ่ม หัวตำ อยู่ในทุกวันนี้...

------------------------------------------------------- ด้วยความเชื่อที่ว่า...ไม่ว่ายุบสภาเมื่อไหร่ หรือตอนไหน พรรคเผาไทยย่อมจะต้อง นอนมา โดยไม่ต้องอาศัยพระนำหน้าอยู่แล้วแน่ๆ เนื่องจากบรรดาปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะในภาคอีสานและภาคเหนือ ยังคง โง่แบบยั่งยืน หรือ โง่แบบเป็นการถาวร ไม่ว่าจะส่งหมู หมา กา ไก่ ตลอดไปจนเสาไฟฟ้าลงสมัครในเขตไหนต่อเขตไหนก็ตาม ย่อมต้องชนะแบบเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด สามารถตีตั๋วกลับมาเป็นรัฐบาลได้อีกไม่รู้กี่สมัย ต่อกี่สมัย ไปจนกระทั่งคุณน้อง โอ๊กอ๊าก พร้อมจะขึ้นมาสืบทอดสันตติวงศ์เอาเลยโน่นแหละ...

----------------------------------------------------------

ความเชื่อมั่นในทฤษฎีว่าด้วยความโง่แบบอภิมหาอมตะนิรันดรกาลเช่นนี้นี่ เอง...ที่ทำให้รัฐสภาและรัฐบาลพร้อมที่จะท้าทายอำนาจในทุกๆ อำนาจ ยิ่งถ้าหากต้องยุบสภาลงไปด้วยเงื่อนไข ข้ออ้าง ว่าด้วยอำนาจนิติบัญญัติและอำนาจบริหาร ถูกอำนาจตุลาการหรืออำนาจอื่นๆ กลั่นแกล้ง แทรกแซง ด้วยแล้ว โอกาสที่จะกลับมาเป็นแผงๆ เป็นด้ามๆ เป็นยวงๆ ยิ่งมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ เพราะประเทศไทยในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าใครจะชั่วช้า เลวทราม ต่ำช้า สามานย์ หรือกระทั่ง ชั่วเกินกว่าจินตนาการ ไปถึงระดับไหนก็ตาม แต่ถ้าลองมีฐานะเป็นฝ่ายตรงข้ามกับ อำมาตย์ ซะอย่าง!!! ย่อมสามารถที่จะได้รับการเทิดทูน เชิดชู บูชา ได้รับการดมทวารวันละ 3 เวลาหลังอาหารได้ทุกเมื่อ...

--------------------------------------------------------

เพราะไม่เพียงแต่บรรดาปวงชนที่เห็นดี เห็นงาม กับ การโกงแล้วเอามาแบ่งกันมั่ง จะมีจำนวน ปริมาณ เพิ่มขึ้นๆ ตามอัตราส่วนความดีที่มีแต่จะลดลงเหลือเพียงแค่ 1 ส่วน ความเลวขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3 ส่วน ตลอดจนบรรดาข้าราชการที่พร้อมจะเป็น ขี้ข้าทุนสามานย์ มากกว่าที่จะเป็น ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยิ่งปรากฏให้เห็นในแทบทุกกระทรวง ทบวง กรม บรรดานักวิชาการ ปัญญาชน ที่ชอบจมอยู่กับ มายาภาพ ซึ่งตัวเองสร้างขึ้นมาหลอกหลอนตัวเอง จนทำให้เกิดความเกลียดกลัว อำมาตย์ ซะยิ่งกว่าผี ห่า ซาตาน ใดๆ ในโลกนี้ ยังถือเป็น ตัวช่วย ให้ ความเลว ในรูปแบบต่างๆ ถูก ตีความ ให้กลายเป็น ความดี ตามแบบฉบับโพสต์โมเดิร์นไปซะอีกต่างหาก...

--------------------------------------------------------

ภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้นี่เอง...ที่ทำให้เกิด ความเชื่อ ในหมู่นักยุทธศาสตร์พรรคเผาไทย ว่า อัตราเสี่ยงสูงสุด ในการท้าทายอำนาจทุกๆ อำนาจ เหลืออยู่เพียงแค่การยุบสภาแล้วกลับไปเลือกตั้งกันใหม่แต่เพียงเท่านั้น และไม่เพียงแต่จะสามารถอาศัยช่องโหว่ ช่องว่าง ของกฎหมายพลิกไป-พลิกมาได้เป็นยกๆ ยังสามารถอาศัยการยุบสภากลบเกลื่อนความผิดพลาด ล้มเหลว ในตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แบบชนิดใส่ตะกร้าล้างน้ำ แล้วหวนกลับคืนมาใน แพ็กเกจ ใหม่ได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ การเดินหน้า ใส่เกียร์ห้า ติดเทอร์โบ ในขณะเข้าโค้ง หักศอก มันจึงเป็นไปอย่างฮึกเหิมและระห่ำด้วยประการละฉะนี้ ส่วนมันจะส่งผลให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตาม ความเชื่อ ตาม ทฤษฎีโง่นิรันดรกาล หรือไม่ เพียงใดนั้น อันนี้นี่แหละ...ที่คงต้องขึ้นอยู่กับ กฎแห่งกรรม ว่าจะมีอยู่จริงหรือเปล่า!!!...

----------------------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก อมฤตพจนา... “When the ignoble do evil and are deterred through punishment by the noble, that act- the wise understand- is meant to be a lesson, not a vengeance.- เมื่ออนารยชนก่อกรรมชั่ว อารยชนใช้อาญาหักห้าม การกระทำนั้นเป็นการสั่งสอน หาใช่เป็นเวรไม่...บัณฑิตทั้งหลายพึงเข้าใจเช่นนี้...”.

ขอบคุณ... http://www.thaipost.net/news/011013/80066 (ขนาดไฟล์: 167)

ไทยโพสต์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 30 ก.ย.56

ที่มา: ไทยโพสต์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 30 ก.ย.56
วันที่โพสต์: 1/10/2556 เวลา 02:36:40

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ช่วงระยะระหว่างนี้...คงต้องเรียกว่าเป็น ช่วงเวลาของกฎหมาย ยังไม่ใช่ ช่วงเวลาของกฎแห่งกรรม ที่จะทยอยตามมาหลังจากนั้น ด้วยเหตุนี้การผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 เพื่อจัดตั้ง สภาผัว-เมีย ตามแนวทางประชาธิปไตยของพวกเสื้อแดงทั้งหลายให้จงได้ มันเลยยังต้องมั่วๆ อยู่กับเรื่องกระบวนการทูลเกล้าฯ ไม่ทูลเกล้าฯ กระบวนการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งออกจะเป็นอะไรที่น่าปวดเศียร เวียนเกล้า อยู่ไม่น้อย... ------------------------------------------------ อย่างที่ท่านอดีตนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน ท่านเคยปรารภ รำพึง เอาไว้มานานแล้วนั่นแหละว่า...จากจำนวนประชากรประเทศไทยประมาณ 60-70 ล้านคน น่าจะมี ศรีธนญชัย จำนวนไม่ต่ำกว่า 120-140 ล้านคนเป็นอย่างน้อย คือไม่ว่าใครก็ใครเถอะ...ส่วนใหญ่มักจะหนักไปทางประเภท หัวกฎหมาย หรือ หัวหมอ ไปด้วยกันทั้งสิ้น การชิงเล่ห์ ชิงเหลี่ยม การอาศัยช่องว่าง ช่องโหว่ ของกฎหมายมาใช้เป็นข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบระหว่างกันและกัน จึงทำให้การเปลี่ยนแปลง การพัฒนาประเทศไทย มักจะวนไป-วนมาอยู่ในแอ่งกฎหมาย และในอ่างรัฐธรรมนูญ ชนิดไม่ยอมไปไหนกับใครต่อใครเค้าซักกะที ต่างฝ่ายต่างมั่ว ต่างเมามันซ์ซ์ซ์ อยู่ภายในโอ่งในไห ในซุ้มไก่ ในกะลา จนประเทศไทยอาจพังพินาศไปก่อนคนไทยเอาเลยก็ไม่แน่!!! --------------------------------------------------- อย่างไรก็ตาม...เท่าที่สดับรับฟังจากบรรดาผู้สันทัดกรณีหลายต่อหลายท่าน ได้วิเคราะห์และตั้งข้อสังเกตเอาไว้ถึงความเป็นไปทางการเมืองนับจากนี้ ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันจะไปขมวดปมกันตรงที่ การเตรียมการยุบสภา กันซะเป็นหลักใหญ่ ซึ่งอาจถือเป็น ทางออก หรือ ทางรอด ของรัฐบาล ทั้งในแง่ของความสำเร็จ-ไม่สำเร็จในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การผ่านกฎหมายสำคัญต่างๆ ให้ถึงขั้นมีผลบังคับใช้ ไปจนกระทั่งการกลบเกลื่อนความล้มเหลว อันเนื่องมาจากความผิดพลาดของนโยบายประชานิยม ที่กำลังทำให้ประเทศทั้งประเทศต้องหัวทิ่ม หัวตำ อยู่ในทุกวันนี้... ------------------------------------------------------- ด้วยความเชื่อที่ว่า...ไม่ว่ายุบสภาเมื่อไหร่ หรือตอนไหน พรรคเผาไทยย่อมจะต้อง นอนมา โดยไม่ต้องอาศัยพระนำหน้าอยู่แล้วแน่ๆ เนื่องจากบรรดาปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะในภาคอีสานและภาคเหนือ ยังคง โง่แบบยั่งยืน หรือ โง่แบบเป็นการถาวร ไม่ว่าจะส่งหมู หมา กา ไก่ ตลอดไปจนเสาไฟฟ้าลงสมัครในเขตไหนต่อเขตไหนก็ตาม ย่อมต้องชนะแบบเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด สามารถตีตั๋วกลับมาเป็นรัฐบาลได้อีกไม่รู้กี่สมัย ต่อกี่สมัย ไปจนกระทั่งคุณน้อง โอ๊กอ๊าก พร้อมจะขึ้นมาสืบทอดสันตติวงศ์เอาเลยโน่นแหละ... ---------------------------------------------------------- ความเชื่อมั่นในทฤษฎีว่าด้วยความโง่แบบอภิมหาอมตะนิรันดรกาลเช่นนี้นี่ เอง...ที่ทำให้รัฐสภาและรัฐบาลพร้อมที่จะท้าทายอำนาจในทุกๆ อำนาจ ยิ่งถ้าหากต้องยุบสภาลงไปด้วยเงื่อนไข ข้ออ้าง ว่าด้วยอำนาจนิติบัญญัติและอำนาจบริหาร ถูกอำนาจตุลาการหรืออำนาจอื่นๆ กลั่นแกล้ง แทรกแซง ด้วยแล้ว โอกาสที่จะกลับมาเป็นแผงๆ เป็นด้ามๆ เป็นยวงๆ ยิ่งมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ เพราะประเทศไทยในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าใครจะชั่วช้า เลวทราม ต่ำช้า สามานย์ หรือกระทั่ง ชั่วเกินกว่าจินตนาการ ไปถึงระดับไหนก็ตาม แต่ถ้าลองมีฐานะเป็นฝ่ายตรงข้ามกับ อำมาตย์ ซะอย่าง!!! ย่อมสามารถที่จะได้รับการเทิดทูน เชิดชู บูชา ได้รับการดมทวารวันละ 3 เวลาหลังอาหารได้ทุกเมื่อ... -------------------------------------------------------- เพราะไม่เพียงแต่บรรดาปวงชนที่เห็นดี เห็นงาม กับ การโกงแล้วเอามาแบ่งกันมั่ง จะมีจำนวน ปริมาณ เพิ่มขึ้นๆ ตามอัตราส่วนความดีที่มีแต่จะลดลงเหลือเพียงแค่ 1 ส่วน ความเลวขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3 ส่วน ตลอดจนบรรดาข้าราชการที่พร้อมจะเป็น ขี้ข้าทุนสามานย์ มากกว่าที่จะเป็น ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยิ่งปรากฏให้เห็นในแทบทุกกระทรวง ทบวง กรม บรรดานักวิชาการ ปัญญาชน ที่ชอบจมอยู่กับ มายาภาพ ซึ่งตัวเองสร้างขึ้นมาหลอกหลอนตัวเอง จนทำให้เกิดความเกลียดกลัว อำมาตย์ ซะยิ่งกว่าผี ห่า ซาตาน ใดๆ ในโลกนี้ ยังถือเป็น ตัวช่วย ให้ ความเลว ในรูปแบบต่างๆ ถูก ตีความ ให้กลายเป็น ความดี ตามแบบฉบับโพสต์โมเดิร์นไปซะอีกต่างหาก... -------------------------------------------------------- ภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้นี่เอง...ที่ทำให้เกิด ความเชื่อ ในหมู่นักยุทธศาสตร์พรรคเผาไทย ว่า อัตราเสี่ยงสูงสุด ในการท้าทายอำนาจทุกๆ อำนาจ เหลืออยู่เพียงแค่การยุบสภาแล้วกลับไปเลือกตั้งกันใหม่แต่เพียงเท่านั้น และไม่เพียงแต่จะสามารถอาศัยช่องโหว่ ช่องว่าง ของกฎหมายพลิกไป-พลิกมาได้เป็นยกๆ ยังสามารถอาศัยการยุบสภากลบเกลื่อนความผิดพลาด ล้มเหลว ในตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แบบชนิดใส่ตะกร้าล้างน้ำ แล้วหวนกลับคืนมาใน แพ็กเกจ ใหม่ได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ การเดินหน้า ใส่เกียร์ห้า ติดเทอร์โบ ในขณะเข้าโค้ง หักศอก มันจึงเป็นไปอย่างฮึกเหิมและระห่ำด้วยประการละฉะนี้ ส่วนมันจะส่งผลให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตาม ความเชื่อ ตาม ทฤษฎีโง่นิรันดรกาล หรือไม่ เพียงใดนั้น อันนี้นี่แหละ...ที่คงต้องขึ้นอยู่กับ กฎแห่งกรรม ว่าจะมีอยู่จริงหรือเปล่า!!!... ---------------------------------------------------------- ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก อมฤตพจนา... “When the ignoble do evil and are deterred through punishment by the noble, that act- the wise understand- is meant to be a lesson, not a vengeance.- เมื่ออนารยชนก่อกรรมชั่ว อารยชนใช้อาญาหักห้าม การกระทำนั้นเป็นการสั่งสอน หาใช่เป็นเวรไม่...บัณฑิตทั้งหลายพึงเข้าใจเช่นนี้...”. ขอบคุณ... http://www.thaipost.net/news/011013/80066 ไทยโพสต์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 30 ก.ย.56

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...