"ศาลรธน." รับตีความ ปมที่มาสว.แต่ไม่สั่งเบรกโหวตในวาระ3 พรบ.งบปี57-ก็วินิจฉัยด้วย!

แสดงความคิดเห็น

มติ 5 ต่อ 2 ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องแก้รธน.ว่าด้วยที่มา ส.ว.วินิจฉัยว่าเข้าข่ายมาตรา 68 แต่ไม่สั่งคุ้มครองชะลอโหวตวาระ 3 ขณะเดียวกันก็มีมติรับคำร้องชี้ขาดพ.ร.บ.งบประมาณ 2557 ขัดรัฐธรรมนูญด้วยเช่นกัน ส่วนคำร้องให้ชี้ขาดสมาชิกภาพส.ส.ของ "มาร์ค"ที่ถูกปลดจากทหารนั้นเลื่อนอีกครั้ง อ้างต้องรอศาลอื่นพิจารณาด้วย ปชป.ได้ที ขู่ถอดถอนยกแผงถ้าหากสภาขืนลงมติวาระ 3 "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค"นำทีมยื่นเองเตะสกัดวาระ 3 งัดคลิปอ้างส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเสียบบัตรคะแนนแทนกันให้ศาลวินิจฉัย ขณะที่รองประธานรัฐสภาสั่งสอบข้อเท็จจริงแล้ว เพื่อไทยอ้างเป็นคลิปตัดต่อ

ศาลรธน.รับคำร้อง-แก้ที่มาส.ว. - เมื่อ วันที่ 25 ก.ย. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้เผยแพร่ผลการประชุมของคณะตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญซึ่งมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 2 รับคำร้องของ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม กับพวก และคำร้องของนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ว่านายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ผู้ถูกร้องที่ 1 กับพวก รวม 310 คน กระทำการเพื่อให้ได้มา ซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติ ไว้ในรัฐธรรมนูญนี้หรือไม่ โดยการพิจารณาคำร้องทั้ง 2 สรุปได้ว่า พล.อ.สมเจตน์ กับพวก และนายวิรัตน์ กับพวก ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ว่านายนิคม ไวยรัชพานิช ผู้ถูกร้องที่ 2 กับพวกซึ่งเป็น ส.ส. และ ส.ว. รวม 309 คน ได้เข้าร่วมกันเสนอร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พุทธศักราช.... เกี่ยวกับที่มาของ ส.ว.ต่อนายสมศักดิ์ ผู้ถูกร้องที่ 1 โดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย รวมทั้ง ข้อบังคับว่าด้วยการประชุมรัฐสภา อันเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรคหนึ่ง

ดังนั้น ผู้ร้องที่เป็นสมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้ทราบการกระทำดังกล่าว จึงขอใช้สิทธิตามมาตรา 68 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ผู้ถูกร้องทั้งหมดเลิกการพิจารณาร่างรัฐ ธรรมนูญฉบับดังกล่าวและเพิกถอนการกระทำที่เกี่ยวเนื่องทั้งหมดโดยทันที และขอให้สั่งยุบพรรคการ เมือง 6 พรรค ได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรคพลังชล พรรคมหาชน และพรรคประชาธิปไตยใหม่ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคการ เมืองที่ถูกยุบ 5 ปี

มติ 5 ต่อ 2 "ชัช-อุดมศักดิ์"ข้างน้อย - ทั้ง นี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาและมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 2 เห็นว่ากรณีมีมูล จึงรับ คำร้องทั้งสองไว้พิจารณา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคสอง ส่วนคำขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเป็นกรณีฉุกเฉินให้ผู้ถูกร้องทั้ง หมดระงับการพิจารณานั้น ศาลมีคำสั่ง ให้ยกคำขอ ทั้งนี้ ในส่วนของตุลาการเสียงข้างน้อย คือนายชัช ชลวร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่าเมื่อพิจารณาจากลายลักษณ์อักษร และเจตนารมณ์ของมาตรา 68 แล้ว รัฐธรรมนูญมุ่งเฉพาะให้อัยการสูงสุดเป็นผู้มีสิทธิ์ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ดังนั้น ผู้ทราบการกระทำดังกล่าวจึงไม่มีสิทธิ์ยื่นคำร้องต่อศาลได้โดยตรง ส่วนนายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี ตุลาการเสียงข้างน้อย เห็นว่าคำร้อง ดังกล่าวยังไม่มีมูล กรณีที่เป็นเหตุฝ่าฝืน ตามมาตรา 68

มติรับคำร้องพ.ร.บ.งบฯ 57ด้วย - ที่ ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยังมีคำสั่งรับคำร้องที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กับคณะรวม 50 คน และคำร้องของนายวิรัตน์ กัลยาศิริ กับคณะรวม 62 คน ขอให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 วรรคหนึ่ง (1) ว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณร่ายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 มาตรา 27 ในส่วนของสำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงาน ศาลปกครอง มาตรา 28 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีความขัดแย้งหรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้อง ตามมาตรา 168 วรรคแปด และวรรคเก้า หรือไม่ เนื่องจากหน่วยงานทั้ง 3 ได้ขอจัดสรรงบประมาณประจำปีไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ครม.พิจารณาปรับลดงบฯดังกล่าว และในชั้นแปรญัตติของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ หน่วยงานทั้ง 3 ยังเสนอขอให้เพิ่มงบประมาณ เพื่อให้เพียงพอต่อการบริหารงาน แต่คณะกรรมาธิการฯ กลับไม่เชิญทั้ง 3 หน่วยงานมาหารือ และใช้ดุลยพินิจเพียงฝ่ายเดียวโดยไม่จัดสรรงบประมาณให้หน่วยงานดังกล่าว ศาล รัฐธรรมนูญเห็นว่า ให้รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และให้ประธานกรรมาธิการฯ สำนักงบประมาณ สำนักงานศาลปกครอง สำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานป.ป.ช. ทำคำชี้แจงเป็นหนังสือยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ภายในวันที่ 1 ต.ค. และให้ประธานกรรมา ธิการฯ หรือผู้แทน รวมถึงผู้แทนหน่วยงาน ทั้ง 4 องค์กรมาชี้แจงต่อศาล ในวันที่ 2 ต.ค. ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ถ.แจ้งวัฒนะ

เลื่อนชี้"ร.ต.มาร์ค"-รอศาลอื่น - ที่ ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยังพิจารณากรณีประธาน สภา ส่งคำร้องของส.ส. 134 คน เพื่อขอให้พิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ว่า สมาชิกภาพการเป็นส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 (5) ประกอบมาตรา 102 (6) หรือไม่ เนื่องจากกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งลงวันที่ 8 พ.ย. 2555 สั่งปลด ร.ต.อภิสิทธิ์ ออกจากราชการ โดยที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมในการพิจารณาคดี จึงมีคำสั่งให้เลื่อนการพิจารณาคดีออกไป และยังเป็นการรอคำตัดสินชี้ขาดของศาลอื่นในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความชอบ ด้วยกฎหมายของคำสั่งกระทรวงกลาโหม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ ได้ให้นายบัณฑิต ศิริพันธ์ ทนายความเข้ายื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองในกรณีพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมขณะนั้น มีคำสั่งปลดร.ต.อภิสิทธิ์ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 55 และศาลปกครองกลางมีคำสั่งรับคำฟ้องดังกล่าวไว้พิจารณา เป็นคดีหมายเลขดำ 2900/2555 เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 55

ปชป.ได้ทีจี้หยุดโหวตวาระ 3 - ด้าน นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มาส.ว. แต่ไม่คุ้มครองชั่วคราวนั้น รัฐบาลต้องเลื่อนการลงมติในวาระ 3 วันที่ 28 ก.ย. นี้ เพื่อรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อนว่าการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ชอบธรรม หรือไม่ รวมทั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และรมว.กลาโหม จะไม่สามารถนำความขึ้นกราบบังคมทูลได้ เพราะยังขาดความชอบธรรม ตามรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเดินหน้าลงมติในวาระ 3 ฝ่ายค้านจะบอกว่าฝ่ายรัฐบาลที่ลงมติทุกคนกำลังทำผิดกฎหมาย และมีความผิดต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด และถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง ส่วนนายกฯ ในฐานะเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่นำความขึ้นกราบบังคมทูล เมื่อทราบว่าเรื่องยังไม่ชัดเจนแล้วยังนำขึ้นกราบบังคับทูล ถือว่าทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท จะมีความผิดตามกฎหมาย ถูกดำเนินคดดีอาญา ผิดจริยธรรมทางการเมืองและด้านสังคม ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมประชุมในวันที่ 28 ก.ย. ด้วย แต่จะโหวตไม่เห็นด้วย

"โต้ง"ห่วงล่าช้า-พ.ร.บ.งบฯ สะดุด -ด้าน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง กล่าวว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้พิจารณาว่าร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2557 ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น จะทำให้การบริหารงบประมาณของรัฐบาลเกิดความล่าช้าออกไป ซึ่งมีผลโดยตรงต่องบลงทุนที่ต้องรอให้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวผ่านการวินิจฉัยของ ศาลก่อนจึงจะดำเนินการได้ ทั้งนี้ ในฐานะทำหน้าที่บริหารด้านเศรษฐกิจ รู้สึกเสียดาย เพราะมองว่าทำให้มีขั้นตอนเพิ่มเติมจนทำให้การวางแผนใช้งบประมาณตั้งแต่วัน ที่ 1 ต.ค. นี้ ล่าช้าออกไปอีก แต่เพื่อไม่ให้เสียเวลา ได้กำชับส่วนราชการต่างๆ ให้จัดเตรียมเอกสารการทำทีโออาร์จัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ไว้ล่วงหน้าระหว่างที่รอคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ

วิปรบ.ย้ำเดินหน้าลงมติ 28 ก.ย. - เย็น วันเดียวกัน นายอำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาล กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา กับพวกและคำร้อง ของนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มา ส.ว.ขัดมาตรา 68 หรือไม่ ว่า วิปรัฐบาลยังยืนยันจะลงมติวาระ 3 ในวันที่ 28 ก.ย.ตามกำหนดเดิมและวิปวุฒิสภาก็ยังเห็นตรงกัน ซึ่งการประชุมรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเวลา 10.00 น.และเป็นการลงคะแนนแบบเปิดเผยด้วยวิธีขานชื่อ ทั้งนี้ แม้ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง แต่ในฐานะสมาชิกรัฐสภาจำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อบังคับของรัฐธรรมนูญ ที่หลังพิจารณาวาระ 2 แล้วเสร็จ เมื่อทิ้งไว้ครบ 15 วันแล้วต้องลงมติวาระ3

ขอบคุณ http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE1ERTJNRFEyTXc9PQ== (ขนาดไฟล์: 167)

ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 ก.ย.56

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 ก.ย.56
วันที่โพสต์: 27/09/2556 เวลา 03:47:57

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

มติ 5 ต่อ 2 ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องแก้รธน.ว่าด้วยที่มา ส.ว.วินิจฉัยว่าเข้าข่ายมาตรา 68 แต่ไม่สั่งคุ้มครองชะลอโหวตวาระ 3 ขณะเดียวกันก็มีมติรับคำร้องชี้ขาดพ.ร.บ.งบประมาณ 2557 ขัดรัฐธรรมนูญด้วยเช่นกัน ส่วนคำร้องให้ชี้ขาดสมาชิกภาพส.ส.ของ "มาร์ค"ที่ถูกปลดจากทหารนั้นเลื่อนอีกครั้ง อ้างต้องรอศาลอื่นพิจารณาด้วย ปชป.ได้ที ขู่ถอดถอนยกแผงถ้าหากสภาขืนลงมติวาระ 3 "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค"นำทีมยื่นเองเตะสกัดวาระ 3 งัดคลิปอ้างส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเสียบบัตรคะแนนแทนกันให้ศาลวินิจฉัย ขณะที่รองประธานรัฐสภาสั่งสอบข้อเท็จจริงแล้ว เพื่อไทยอ้างเป็นคลิปตัดต่อ ศาลรธน.รับคำร้อง-แก้ที่มาส.ว. - เมื่อ วันที่ 25 ก.ย. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้เผยแพร่ผลการประชุมของคณะตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญซึ่งมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 2 รับคำร้องของ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม กับพวก และคำร้องของนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ว่านายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ผู้ถูกร้องที่ 1 กับพวก รวม 310 คน กระทำการเพื่อให้ได้มา ซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติ ไว้ในรัฐธรรมนูญนี้หรือไม่ โดยการพิจารณาคำร้องทั้ง 2 สรุปได้ว่า พล.อ.สมเจตน์ กับพวก และนายวิรัตน์ กับพวก ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ว่านายนิคม ไวยรัชพานิช ผู้ถูกร้องที่ 2 กับพวกซึ่งเป็น ส.ส. และ ส.ว. รวม 309 คน ได้เข้าร่วมกันเสนอร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พุทธศักราช.... เกี่ยวกับที่มาของ ส.ว.ต่อนายสมศักดิ์ ผู้ถูกร้องที่ 1 โดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย รวมทั้ง ข้อบังคับว่าด้วยการประชุมรัฐสภา อันเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรคหนึ่ง ดังนั้น ผู้ร้องที่เป็นสมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้ทราบการกระทำดังกล่าว จึงขอใช้สิทธิตามมาตรา 68 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ผู้ถูกร้องทั้งหมดเลิกการพิจารณาร่างรัฐ ธรรมนูญฉบับดังกล่าวและเพิกถอนการกระทำที่เกี่ยวเนื่องทั้งหมดโดยทันที และขอให้สั่งยุบพรรคการ เมือง 6 พรรค ได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรคพลังชล พรรคมหาชน และพรรคประชาธิปไตยใหม่ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคการ เมืองที่ถูกยุบ 5 ปี มติ 5 ต่อ 2 "ชัช-อุดมศักดิ์"ข้างน้อย - ทั้ง นี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาและมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 2 เห็นว่ากรณีมีมูล จึงรับ คำร้องทั้งสองไว้พิจารณา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคสอง ส่วนคำขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเป็นกรณีฉุกเฉินให้ผู้ถูกร้องทั้ง หมดระงับการพิจารณานั้น ศาลมีคำสั่ง ให้ยกคำขอ ทั้งนี้ ในส่วนของตุลาการเสียงข้างน้อย คือนายชัช ชลวร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่าเมื่อพิจารณาจากลายลักษณ์อักษร และเจตนารมณ์ของมาตรา 68 แล้ว รัฐธรรมนูญมุ่งเฉพาะให้อัยการสูงสุดเป็นผู้มีสิทธิ์ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ดังนั้น ผู้ทราบการกระทำดังกล่าวจึงไม่มีสิทธิ์ยื่นคำร้องต่อศาลได้โดยตรง ส่วนนายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี ตุลาการเสียงข้างน้อย เห็นว่าคำร้อง ดังกล่าวยังไม่มีมูล กรณีที่เป็นเหตุฝ่าฝืน ตามมาตรา 68 มติรับคำร้องพ.ร.บ.งบฯ 57ด้วย - ที่ ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยังมีคำสั่งรับคำร้องที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กับคณะรวม 50 คน และคำร้องของนายวิรัตน์ กัลยาศิริ กับคณะรวม 62 คน ขอให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 วรรคหนึ่ง (1) ว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณร่ายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 มาตรา 27 ในส่วนของสำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงาน ศาลปกครอง มาตรา 28 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีความขัดแย้งหรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้อง ตามมาตรา 168 วรรคแปด และวรรคเก้า หรือไม่ เนื่องจากหน่วยงานทั้ง 3 ได้ขอจัดสรรงบประมาณประจำปีไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ครม.พิจารณาปรับลดงบฯดังกล่าว และในชั้นแปรญัตติของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ หน่วยงานทั้ง 3 ยังเสนอขอให้เพิ่มงบประมาณ เพื่อให้เพียงพอต่อการบริหารงาน แต่คณะกรรมาธิการฯ กลับไม่เชิญทั้ง 3 หน่วยงานมาหารือ และใช้ดุลยพินิจเพียงฝ่ายเดียวโดยไม่จัดสรรงบประมาณให้หน่วยงานดังกล่าว ศาล รัฐธรรมนูญเห็นว่า ให้รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และให้ประธานกรรมาธิการฯ สำนักงบประมาณ สำนักงานศาลปกครอง สำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานป.ป.ช. ทำคำชี้แจงเป็นหนังสือยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ภายในวันที่ 1 ต.ค. และให้ประธานกรรมา ธิการฯ หรือผู้แทน รวมถึงผู้แทนหน่วยงาน ทั้ง 4 องค์กรมาชี้แจงต่อศาล ในวันที่ 2 ต.ค. ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ถ.แจ้งวัฒนะ เลื่อนชี้"ร.ต.มาร์ค"-รอศาลอื่น - ที่ ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยังพิจารณากรณีประธาน สภา ส่งคำร้องของส.ส. 134 คน เพื่อขอให้พิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ว่า สมาชิกภาพการเป็นส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 (5) ประกอบมาตรา 102 (6) หรือไม่ เนื่องจากกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งลงวันที่ 8 พ.ย. 2555 สั่งปลด ร.ต.อภิสิทธิ์ ออกจากราชการ โดยที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมในการพิจารณาคดี จึงมีคำสั่งให้เลื่อนการพิจารณาคดีออกไป และยังเป็นการรอคำตัดสินชี้ขาดของศาลอื่นในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความชอบ ด้วยกฎหมายของคำสั่งกระทรวงกลาโหม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ ได้ให้นายบัณฑิต ศิริพันธ์ ทนายความเข้ายื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองในกรณีพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมขณะนั้น มีคำสั่งปลดร.ต.อภิสิทธิ์ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 55 และศาลปกครองกลางมีคำสั่งรับคำฟ้องดังกล่าวไว้พิจารณา เป็นคดีหมายเลขดำ 2900/2555 เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 55 ปชป.ได้ทีจี้หยุดโหวตวาระ 3 - ด้าน นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มาส.ว. แต่ไม่คุ้มครองชั่วคราวนั้น รัฐบาลต้องเลื่อนการลงมติในวาระ 3 วันที่ 28 ก.ย. นี้ เพื่อรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อนว่าการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ชอบธรรม หรือไม่ รวมทั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และรมว.กลาโหม จะไม่สามารถนำความขึ้นกราบบังคมทูลได้ เพราะยังขาดความชอบธรรม ตามรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเดินหน้าลงมติในวาระ 3 ฝ่ายค้านจะบอกว่าฝ่ายรัฐบาลที่ลงมติทุกคนกำลังทำผิดกฎหมาย และมีความผิดต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด และถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง ส่วนนายกฯ ในฐานะเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่นำความขึ้นกราบบังคมทูล เมื่อทราบว่าเรื่องยังไม่ชัดเจนแล้วยังนำขึ้นกราบบังคับทูล ถือว่าทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท จะมีความผิดตามกฎหมาย ถูกดำเนินคดดีอาญา ผิดจริยธรรมทางการเมืองและด้านสังคม ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมประชุมในวันที่ 28 ก.ย. ด้วย แต่จะโหวตไม่เห็นด้วย "โต้ง"ห่วงล่าช้า-พ.ร.บ.งบฯ สะดุด -ด้าน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง กล่าวว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้พิจารณาว่าร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2557 ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น จะทำให้การบริหารงบประมาณของรัฐบาลเกิดความล่าช้าออกไป ซึ่งมีผลโดยตรงต่องบลงทุนที่ต้องรอให้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวผ่านการวินิจฉัยของ ศาลก่อนจึงจะดำเนินการได้ ทั้งนี้ ในฐานะทำหน้าที่บริหารด้านเศรษฐกิจ รู้สึกเสียดาย เพราะมองว่าทำให้มีขั้นตอนเพิ่มเติมจนทำให้การวางแผนใช้งบประมาณตั้งแต่วัน ที่ 1 ต.ค. นี้ ล่าช้าออกไปอีก แต่เพื่อไม่ให้เสียเวลา ได้กำชับส่วนราชการต่างๆ ให้จัดเตรียมเอกสารการทำทีโออาร์จัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ไว้ล่วงหน้าระหว่างที่รอคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ วิปรบ.ย้ำเดินหน้าลงมติ 28 ก.ย. - เย็น วันเดียวกัน นายอำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาล กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา กับพวกและคำร้อง ของนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มา ส.ว.ขัดมาตรา 68 หรือไม่ ว่า วิปรัฐบาลยังยืนยันจะลงมติวาระ 3 ในวันที่ 28 ก.ย.ตามกำหนดเดิมและวิปวุฒิสภาก็ยังเห็นตรงกัน ซึ่งการประชุมรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเวลา 10.00 น.และเป็นการลงคะแนนแบบเปิดเผยด้วยวิธีขานชื่อ ทั้งนี้ แม้ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง แต่ในฐานะสมาชิกรัฐสภาจำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อบังคับของรัฐธรรมนูญ ที่หลังพิจารณาวาระ 2 แล้วเสร็จ เมื่อทิ้งไว้ครบ 15 วันแล้วต้องลงมติวาระ3 ขอบคุณ … http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE1ERTJNRFEyTXc9PQ== ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 ก.ย.56

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...