รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีผีคุ้ม
ประสาร มฤคพิทักษ์
pmarukpitak@yahoo.com
ปรารถนาที่ไม่สัตย์ซื่อ มักประสบอุปสรรค
และแล้วความพยายามเร่งรัดผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มาของ สมาชิกวุฒิสภา มีอันต้องลากยาวออกไปจนทำท่าจะไม่ทันการณ์สำหรับ ส.ว.ที่ต้องการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ว.ต่อเนื่องในจังหวะที่ ส.ว.เลือกตั้งชุดที่ดำรงตำแหน่งในปัจจุบันจะหมดวาระลงในวันที่ 2 มีนาคม 2557
1.สร้างเงื่อนไขผูกมัดตนเอง
นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา อยู่ดีไม่ว่าดี ไปให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนวันที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเข้าที่ประชุม รัฐสภาว่า จำเป็นต้องเร่งเวลาพิจารณาร่างดังกล่าว มิฉะนั้นจะไม่ทันลงเลือกตั้ง ส.ว.คราวหน้า เท่านั้นยังไม่พอ เขายังให้สัมภาษณ์ นสพ.ไทยโพสต์ แทบลอยด์อย่างอคติว่า ส.ว.สรรหานั้นเพียงรู้จักกรรมการสรรหาคนเดียวก็ได้รับเลือกแล้ว แถมประณาม ส.ว.สรรหา ว่าดีแต่พูด แต่ไม่ยอมลงมติ กลายเป็นสำนวนเรียกแขกได้มากมาย
2.สองประธานสองมาตรฐาน
ในการประชุมพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วันอังคารที่ 20 สิงหาคมนั้น มีข้อผิดพลาดฉกรรจ์ของกรรมาธิการวิสามัญที่มีนายสามารถ แก้วมีชัย เป็นประธาน ซึ่งกำหนดห้าม 57 ส.ส./ส.ว. ที่แปรญัตติไว้ โดยอ้างว่าเจ้าของคำแปรญัตติทั้ง 57 คนนั้น ได้เสนอคำแปรญัตติที่ขัดกับหลักการ เขาจึงกัน 57 คนออกไป ทั้งๆ ที่เขาไม่มีอำนาจจะทำได้ เพราะผู้แปรญัตติยังไม่มีโอกาสชี้แจงคำแปรญัตติของตนเลย ที่ประชุมรัฐสภาเถียงกันอยู่นานในเรื่องนี้ จนนายนิคม ไวรัชพานิช ผู้ทำหน้าที่ประธานเวลานั้น ยอมให้ 57 คนที่ถูกตัดสิทธิ์ได้มีโอกาสพูด
ครั้นเมื่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ขึ้นมาทำหน้าที่ประธานที่ประชุมต่อ กลับไม่ยอมตามที่นายนิคมได้รับปากไว้ จึงเป็นเหตุโกลาหลที่ฝ่ายค้านไม่อาจยอมรับได้ เกิดการประท้วงกันวุ่นวายจนนายสมศักดิ์ต้องใช้ฆ้อนเคาะ 3 ที เป็นมาตรการขั้นสูง แต่ก็ไร้ผล จึงเรียกตำรวจสภาหลายนายให้เข้ามาพาสมาชิกที่ลุกขึ้นยืนออกจากห้อง ประชุม แต่ก็ไร้ผล
3.เอาตำรวจควบคุมฝูงชนเข้ามาทำไม
ไม่รู้เป็นเวรหรือกรรมที่มีรายงานเข้ามาว่า มีตำรวจควบคุมฝูงชน หรือตำรวจปราบจลาจลจาก บช.น. นับร้อยคนยกกำลังมาแอบซุ่มอยู่ที่เขาดิน และอีกส่วนมาเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าสภาฯ ทำให้ ส.ส.ประชาธิปัตย์ลุกขึ้นมาทักท้วงว่าเป็นการคุกคามสมาชิกรัฐสภาอย่างน่า รังเกียจ ทั้งๆ ที่ไม่มีความจำเป็นเลย เพราะตำรวจสภาก็มีอยู่แล้วหลายร้อยคน สามารถระงับเหตุได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งตำรวจภายนอก การเอาตำรวจปราบจลาจลเข้ามาเตรียมไว้อย่างนี้ ทำให้เข้าใจได้ว่าเตรียมจะใช้กำลังกับสมาชิกรัฐสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ พยายามจะชี้แจงว่าผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยของรัฐสภาเป็นคน ติดต่อตำรวจมาเอง เพราะเห็นว่าตำรวจสภาต้องรวมกันเข้ามาทำหน้าที่ในห้องประชุมใหญ่ แต่เป็นคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น จนเขาต้องเอ่ยคำขอโทษต่อที่ประชุม
4.ใครกันแน่ที่ผิดหลักการ
ตารางสรุปชี้ให้เห็นดังนี้
4.1 ในหัวข้อ "หลักการ" และ "เหตุผล" ของ
ร่างฯ ระบุชัดว่า "กำหนดให้สมาชิกวุฒิสภามาจากการเลือกตั้ง" เนื้อในมิได้ขีดวงแค่เพียงที่มาของ ส.ว.เท่านั้น แต่ข้อบัญญัติตามมาตรา 5, 6, 12 นั้นรุกล้ำก้ำเกินไปถึงคุณสมบัติของผู้สมัครเป็น ส.ว.อีกหลายประเด็น แถมอวยสิทธิ์ให้ ส.ว.เลือกตั้งได้ประโยชน์ทันทีโดยไม่ต้องเว้นวรรคเมื่อหมดวาระ แปลว่าร่างฉบับนี้มีบทบัญญัติที่เกินไปกว่าหลักการ จึงสุ่มเสี่ยงที่จะขัดต่อรัฐธรรมนูญ
4.2 เห็นได้ชัดว่าร่างแก้ไขฉบับนี้เอื้อสิทธิ์ให้กับ ส.ส. ส.ว. เครือญาติและเครือข่าย นักการเมืองจำนวนจำกัดที่ได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ จากไม่มีสิทธิ์ก็มีสิทธิ์ จากไม่ได้รับประโยชน์ก็ได้รับประโยชน์ ในขณะที่ประชาชนไม่ได้รับอะไรเลย ไม่มีมาตราไหนที่อวยสิทธิ์หรือขยายสิทธิ์ให้กับประชาชน ประเด็นผู้เสนอร่างหลายคนเป็น ส.ว.ด้วย ต้องเตรียมรับผลจากศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณาว่าเป็นการขัดกับผลประ โยชน์ตามมาตรา 122 ของรัฐธรรมนูญด้วย
5. ผลคือลากยาวไปเรื่อยๆ
ณ วันนี้ การพิจารณาร่างซึ่งมีทั้งหมด 13 มาตรา เพิ่งผ่านไปได้เพียง 2 มาตรา เฉพาะมาตรา 3 ยังมี ส.ส. ส.ว. ที่เข้าคิวพูดอีกกว่า 40 คน เพราะประธานทั้ง 2 คนจำต้องเปิดพื้นที่ให้กับผู้แปรญัตติและผู้ขอพูดในประเด็นที่กรรมา ธิการแก้ไข
ยังมีมาตรา 5, 6, 12 อีกที่มีการสงวนคำแปรญัตติที่ต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนพูด โดยเฉพาะมาตรา 5 ยังมีประเด็นมากมายที่จะถกเถียงกันยาว ไม่รู้อีกกี่วันที่ประชุมจะลงมติวาระ 2 ได้ ในขณะที่ พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาท ก็จ่ออยู่ในสภาฯ ที่รัฐบาลกำลังเร่งผ่านสภาฯ ให้ได้โดยเร็ว
บอกแล้วว่า รัฐธรรมนูญฉบันนี้มีผีคุ้ม ปรารถนา ที่ไม่สัตย์ซื่อ มักประสบอุปสรรคด้วยประการฉะนี้
ขอบคุณ… http://www.ryt9.com/s/tpd/1723110
ไทยโพสต์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 28 ส.ค.56
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ประสาร มฤคพิทักษ์ pmarukpitak@yahoo.com ปรารถนาที่ไม่สัตย์ซื่อ มักประสบอุปสรรค และแล้วความพยายามเร่งรัดผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มาของ สมาชิกวุฒิสภา มีอันต้องลากยาวออกไปจนทำท่าจะไม่ทันการณ์สำหรับ ส.ว.ที่ต้องการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ว.ต่อเนื่องในจังหวะที่ ส.ว.เลือกตั้งชุดที่ดำรงตำแหน่งในปัจจุบันจะหมดวาระลงในวันที่ 2 มีนาคม 2557 1.สร้างเงื่อนไขผูกมัดตนเอง นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา อยู่ดีไม่ว่าดี ไปให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนวันที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเข้าที่ประชุม รัฐสภาว่า จำเป็นต้องเร่งเวลาพิจารณาร่างดังกล่าว มิฉะนั้นจะไม่ทันลงเลือกตั้ง ส.ว.คราวหน้า เท่านั้นยังไม่พอ เขายังให้สัมภาษณ์ นสพ.ไทยโพสต์ แทบลอยด์อย่างอคติว่า ส.ว.สรรหานั้นเพียงรู้จักกรรมการสรรหาคนเดียวก็ได้รับเลือกแล้ว แถมประณาม ส.ว.สรรหา ว่าดีแต่พูด แต่ไม่ยอมลงมติ กลายเป็นสำนวนเรียกแขกได้มากมาย 2.สองประธานสองมาตรฐาน ในการประชุมพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วันอังคารที่ 20 สิงหาคมนั้น มีข้อผิดพลาดฉกรรจ์ของกรรมาธิการวิสามัญที่มีนายสามารถ แก้วมีชัย เป็นประธาน ซึ่งกำหนดห้าม 57 ส.ส./ส.ว. ที่แปรญัตติไว้ โดยอ้างว่าเจ้าของคำแปรญัตติทั้ง 57 คนนั้น ได้เสนอคำแปรญัตติที่ขัดกับหลักการ เขาจึงกัน 57 คนออกไป ทั้งๆ ที่เขาไม่มีอำนาจจะทำได้ เพราะผู้แปรญัตติยังไม่มีโอกาสชี้แจงคำแปรญัตติของตนเลย ที่ประชุมรัฐสภาเถียงกันอยู่นานในเรื่องนี้ จนนายนิคม ไวรัชพานิช ผู้ทำหน้าที่ประธานเวลานั้น ยอมให้ 57 คนที่ถูกตัดสิทธิ์ได้มีโอกาสพูด ครั้นเมื่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ขึ้นมาทำหน้าที่ประธานที่ประชุมต่อ กลับไม่ยอมตามที่นายนิคมได้รับปากไว้ จึงเป็นเหตุโกลาหลที่ฝ่ายค้านไม่อาจยอมรับได้ เกิดการประท้วงกันวุ่นวายจนนายสมศักดิ์ต้องใช้ฆ้อนเคาะ 3 ที เป็นมาตรการขั้นสูง แต่ก็ไร้ผล จึงเรียกตำรวจสภาหลายนายให้เข้ามาพาสมาชิกที่ลุกขึ้นยืนออกจากห้อง ประชุม แต่ก็ไร้ผล 3.เอาตำรวจควบคุมฝูงชนเข้ามาทำไม ไม่รู้เป็นเวรหรือกรรมที่มีรายงานเข้ามาว่า มีตำรวจควบคุมฝูงชน หรือตำรวจปราบจลาจลจาก บช.น. นับร้อยคนยกกำลังมาแอบซุ่มอยู่ที่เขาดิน และอีกส่วนมาเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าสภาฯ ทำให้ ส.ส.ประชาธิปัตย์ลุกขึ้นมาทักท้วงว่าเป็นการคุกคามสมาชิกรัฐสภาอย่างน่า รังเกียจ ทั้งๆ ที่ไม่มีความจำเป็นเลย เพราะตำรวจสภาก็มีอยู่แล้วหลายร้อยคน สามารถระงับเหตุได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งตำรวจภายนอก การเอาตำรวจปราบจลาจลเข้ามาเตรียมไว้อย่างนี้ ทำให้เข้าใจได้ว่าเตรียมจะใช้กำลังกับสมาชิกรัฐสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ พยายามจะชี้แจงว่าผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยของรัฐสภาเป็นคน ติดต่อตำรวจมาเอง เพราะเห็นว่าตำรวจสภาต้องรวมกันเข้ามาทำหน้าที่ในห้องประชุมใหญ่ แต่เป็นคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น จนเขาต้องเอ่ยคำขอโทษต่อที่ประชุม 4.ใครกันแน่ที่ผิดหลักการ ตารางสรุปชี้ให้เห็นดังนี้ 4.1 ในหัวข้อ "หลักการ" และ "เหตุผล" ของ ร่างฯ ระบุชัดว่า "กำหนดให้สมาชิกวุฒิสภามาจากการเลือกตั้ง" เนื้อในมิได้ขีดวงแค่เพียงที่มาของ ส.ว.เท่านั้น แต่ข้อบัญญัติตามมาตรา 5, 6, 12 นั้นรุกล้ำก้ำเกินไปถึงคุณสมบัติของผู้สมัครเป็น ส.ว.อีกหลายประเด็น แถมอวยสิทธิ์ให้ ส.ว.เลือกตั้งได้ประโยชน์ทันทีโดยไม่ต้องเว้นวรรคเมื่อหมดวาระ แปลว่าร่างฉบับนี้มีบทบัญญัติที่เกินไปกว่าหลักการ จึงสุ่มเสี่ยงที่จะขัดต่อรัฐธรรมนูญ 4.2 เห็นได้ชัดว่าร่างแก้ไขฉบับนี้เอื้อสิทธิ์ให้กับ ส.ส. ส.ว. เครือญาติและเครือข่าย นักการเมืองจำนวนจำกัดที่ได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ จากไม่มีสิทธิ์ก็มีสิทธิ์ จากไม่ได้รับประโยชน์ก็ได้รับประโยชน์ ในขณะที่ประชาชนไม่ได้รับอะไรเลย ไม่มีมาตราไหนที่อวยสิทธิ์หรือขยายสิทธิ์ให้กับประชาชน ประเด็นผู้เสนอร่างหลายคนเป็น ส.ว.ด้วย ต้องเตรียมรับผลจากศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณาว่าเป็นการขัดกับผลประ โยชน์ตามมาตรา 122 ของรัฐธรรมนูญด้วย 5. ผลคือลากยาวไปเรื่อยๆ ณ วันนี้ การพิจารณาร่างซึ่งมีทั้งหมด 13 มาตรา เพิ่งผ่านไปได้เพียง 2 มาตรา เฉพาะมาตรา 3 ยังมี ส.ส. ส.ว. ที่เข้าคิวพูดอีกกว่า 40 คน เพราะประธานทั้ง 2 คนจำต้องเปิดพื้นที่ให้กับผู้แปรญัตติและผู้ขอพูดในประเด็นที่กรรมา ธิการแก้ไข ยังมีมาตรา 5, 6, 12 อีกที่มีการสงวนคำแปรญัตติที่ต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนพูด โดยเฉพาะมาตรา 5 ยังมีประเด็นมากมายที่จะถกเถียงกันยาว ไม่รู้อีกกี่วันที่ประชุมจะลงมติวาระ 2 ได้ ในขณะที่ พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาท ก็จ่ออยู่ในสภาฯ ที่รัฐบาลกำลังเร่งผ่านสภาฯ ให้ได้โดยเร็ว บอกแล้วว่า รัฐธรรมนูญฉบันนี้มีผีคุ้ม ปรารถนา ที่ไม่สัตย์ซื่อ มักประสบอุปสรรคด้วยประการฉะนี้ ขอบคุณ… http://www.ryt9.com/s/tpd/1723110 ไทยโพสต์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 28 ส.ค.56
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)