อุทัยร่อนจม.ค้ายสภาถกกฎหมายปรองดอง
"อุทัย"ทำจดหมายเปิดผนึกค้านสภาฯถกกม.ปรองดอง ชี้ ยังไม่มีความจำเป็น เตือนฝืนทำวุ่นวายแน่
นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกเรื่องความปรองดองแห่งชาติ ส่งถึงประชาชน สส. สว. คณะรัฐมนตรี ผู้พิพากษา มีใจความโดยสรุปว่า ในฐานะทำงานการเมืองมานาน มีความห่วงใยกับสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันอย่างยิ่ง ที่ประชาชนและผู้มีอำนาจทั้งหลายในแผ่นดิน กำลังสับสนในเรื่องของความสามัคคี เสนอกฎหมายในลักษณะพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ หรือพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเหตุการณ์ความผิดทางการเมืองตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.2549 ถึงปัจจุบัน
"แทนที่จะก่อให้เกิดความปรองดอง หรือความสามัคคีของคนในชาติ กลับจะทำให้ความแตกแยกขยายวงความรุนแรง จนอาจเกิดความไม่สงบที่ยากจะเยียวยาได้ ซึ่งเริ่มเกิดการต่อต้านการเสนอกฎหมายทั้ง 2 รูปแบบ หากพิจารณาให้ดีและมองเรื่องนี้อย่างไตร่ตรองแล้ว จะเห็นว่าเรื่องที่เสนอนี้ไม่มีความจำเป็นเลย เพราะมองว่าสังคมปัจจุบันเป็นปกติอยู่แล้ว จึงขอให้ถอนญัตติทั้ง 2 รูปแบบออกจากสภาฯเสีย ถ้าเห็นแก่ความสามัคคีปรองดองอย่างจริงใจ" นายอุทัย กล่าวไว้ในจดหมาย
นายอุทัย ระบุอีกว่า ยอมรับว่ายังมีคนประมาณ 200-300 คน ถูกจับกุมคุมขัง ถูกดำเนินคดีในศาล ดังนั้นควรรีบเร่งพิจารณาโดยด่วน กระบวนการยุติธรรมต้องเอาคดีเหล่านี้มาเป็นคดีสำคัญของสังคม เมื่อมีการขอประกันก็ควรใช้ดุลยพินิจให้ประกันทันที โดยไม่ต้องเรียกหลักทรัพย์ อย่าลืมว่าคนเหล่านี้ ไม่ใช่อาชญากร หากผิดกฎหมายก็ว่าไปตามความเหมาะสมของโทษและการกระทำ อย่างนี้บ้านเมืองจึงจะได้ชื่อว่ามีขื่อมีแปและการเมืองภาคประชาชนก็จะเข้ม แข็ง ความแตกแยกที่ตั้งเค้าอยู่จะได้สลายไป อย่าทำแบบหักด้ามพร้าด้วยเข่าเลย
ขอบคุณ... http://www.posttoday.com/การเมือง/237361/อุทัยร่อนจม-ค้ายสภาถกกฎหมายปรองดอง (ขนาดไฟล์: 167)
โพสต์ทูเดย์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 30 ก.ค.56
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา "อุทัย"ทำจดหมายเปิดผนึกค้านสภาฯถกกม.ปรองดอง ชี้ ยังไม่มีความจำเป็น เตือนฝืนทำวุ่นวายแน่ นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกเรื่องความปรองดองแห่งชาติ ส่งถึงประชาชน สส. สว. คณะรัฐมนตรี ผู้พิพากษา มีใจความโดยสรุปว่า ในฐานะทำงานการเมืองมานาน มีความห่วงใยกับสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันอย่างยิ่ง ที่ประชาชนและผู้มีอำนาจทั้งหลายในแผ่นดิน กำลังสับสนในเรื่องของความสามัคคี เสนอกฎหมายในลักษณะพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ หรือพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเหตุการณ์ความผิดทางการเมืองตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.2549 ถึงปัจจุบัน "แทนที่จะก่อให้เกิดความปรองดอง หรือความสามัคคีของคนในชาติ กลับจะทำให้ความแตกแยกขยายวงความรุนแรง จนอาจเกิดความไม่สงบที่ยากจะเยียวยาได้ ซึ่งเริ่มเกิดการต่อต้านการเสนอกฎหมายทั้ง 2 รูปแบบ หากพิจารณาให้ดีและมองเรื่องนี้อย่างไตร่ตรองแล้ว จะเห็นว่าเรื่องที่เสนอนี้ไม่มีความจำเป็นเลย เพราะมองว่าสังคมปัจจุบันเป็นปกติอยู่แล้ว จึงขอให้ถอนญัตติทั้ง 2 รูปแบบออกจากสภาฯเสีย ถ้าเห็นแก่ความสามัคคีปรองดองอย่างจริงใจ" นายอุทัย กล่าวไว้ในจดหมาย นายอุทัย ระบุอีกว่า ยอมรับว่ายังมีคนประมาณ 200-300 คน ถูกจับกุมคุมขัง ถูกดำเนินคดีในศาล ดังนั้นควรรีบเร่งพิจารณาโดยด่วน กระบวนการยุติธรรมต้องเอาคดีเหล่านี้มาเป็นคดีสำคัญของสังคม เมื่อมีการขอประกันก็ควรใช้ดุลยพินิจให้ประกันทันที โดยไม่ต้องเรียกหลักทรัพย์ อย่าลืมว่าคนเหล่านี้ ไม่ใช่อาชญากร หากผิดกฎหมายก็ว่าไปตามความเหมาะสมของโทษและการกระทำ อย่างนี้บ้านเมืองจึงจะได้ชื่อว่ามีขื่อมีแปและการเมืองภาคประชาชนก็จะเข้ม แข็ง ความแตกแยกที่ตั้งเค้าอยู่จะได้สลายไป อย่าทำแบบหักด้ามพร้าด้วยเข่าเลย ขอบคุณ... http://www.posttoday.com/การเมือง/237361/อุทัยร่อนจม-ค้ายสภาถกกฎหมายปรองดอง โพสต์ทูเดย์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 30 ก.ค.56
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)