สิทธิของคู่รักเพศเดียวกัน

แสดงความคิดเห็น

ต้องขอแสดงความยินดีกับคู่รักร่วมเพศ ที่หลายประเทศทั่วโลกเริ่มเห็นความสำคัญของคนกลุ่มนี้ และมีการยกระดับให้คนกลุ่มนี้ หรือที่หลายคนเรียกว่า เพศที่ 3 ขึ้นมามีความทัดเทียมและเสมอภาคกับบุคคลทั่วไป อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นว่า ทั่วโลกให้การยอมรับ และเห็นคุณค่าของความเป็นคนมากขึ้น

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อังกฤษกลายเป็นประเทศที่ 15 ในโลก ที่มีกฎหมายอนุญาตให้คู่รักเพศเดียวกันแต่งงานกันได้แล้ว หลังจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ทรงมีพระบรมราชานุญาต ให้ออกกฎหมายการแต่งงานของคนเพศเดียวกันในประเทศอังกฤษและแคว้นเวลส์ หลังกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบของสภาแล้ว และจะมีผลให้คู่รักเพศเดียวกันแต่งงานกันได้อย่างเป็นทางการในฤดูร้อนปีหน้า ซึ่งนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เอง ก็สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ แม้จะมีความเห็นแตกแยกในพรรคอนุรักษนิยมของเขา รวมทั้งยังเป็นประเด็นให้มีการโต้เถียงกันในสภาผู้แทนราษฎรและสภาขุนนางก็ ตาม

มาลองไล่รายชื่อประเทศที่ออกกฎหมาย ไฟเขียวให้กลุ่มคนรักร่วมเพศแต่งงานกันได้ ก่อนหน้านี้ดูว่ามีประเทศใดบ้างที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2544 เนเธอร์แลนด์ สร้างประวัติศาสตร์เป็นประเทศแรกในโลก ที่ออกกฎหมายยอมให้เพศเดียวกันแต่งงานกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เหมือนกับหนุ่มสาว หญิงชายทั่วไป รวมทั้งให้สิทธิมีบุตรบุญธรรมได้ด้วย

เบลเยียม คู่รักร่วมเพศก็เกือบมีสิทธิเหมือนกับคู่สามี-ภรรยาชาย-หญิงทั่วไป เมื่อพวกเขาได้รับสิทธิแต่งงานกันได้ เมื่อปี 2547 และในปี 2549 รัฐสภาก็ลงมติรับรองร่างกฎหมายอนุญาตให้คู่รักเพศเดียวกันมีบุตรบุญธรรมได้ ขณะที่ สเปน เป็นประเทศที่ 3 ของสหภาพยุโรป หรืออียู ที่ผ่านร่างกฎหมายเปิดกว้างให้เพศเดียวกันแต่งงานกันได้ในปี 2548 สามารถมีบุตรบุญธรรมได้ด้วย

ข้ามไปที่แคนาดา คลอดกฎหมายที่ถือว่าสำคัญระดับประเทศ อนุญาตให้เกย์แต่งงานกันได้ และมีลูกบุญธรรมในเดือนก.ค.2548 แม้ว่าจังหวัดส่วนใหญ่อนุญาตไปก่อนแล้ว ส่วนแอฟริกาใต้ เป็นประเทศในทวีปแอฟริกาชาติแรก ก็คลอดกฎหมายเดียวกันนี้ ในเดือนพ.ย.2549 ตามมาด้วยนอร์เวย์ ในปี 2552 ยอมออกกฎหมายให้เกย์แต่งงานและมีลูกบุญธรรมได้ แต่ก็มีกฎหมายที่อนุญาตให้คู่ชีวิตชายกับชาย หรือหญิงกับหญิงสามารถไปจดทะเบียนเป็นคู่ชีวิตเพศเดียวกัน ซึ่งเรียกว่า civil partnership มานานกว่า 20 ปีแล้ว ขณะที่ สวีเดน กลุ่มรักร่วมเพศก็ได้รับอนุญาตให้แต่งงานกันตามแบบพิธีทางศาสนา หรือทางกฎหมาย (civil ceremony) ได้แก่ การจดทะเบียนสมรสต่อหน้านายทะเบียน ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2552

โปรตุเกส เพิ่งมีกฎหมายในลักษณะนี้เมื่อปี 2553 รวมทั้งให้สิทธิมีบุตรบุญธรรมด้วย ส่วนไอซ์แลนด์ นายกรัฐมนตรีหญิงรักหญิง “โจฮันนา ซิกูร์ดาร์ดอททีร์” ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำไอซ์แลนด์ ซึ่งถือเป็นผู้นำประเทศคนแรก ที่ยอมรับอย่างเปิดเผยว่าตัวเองเป็น “หญิงเลสเบี้ยน” แต่งงานกับนางโจนินา ลีดอททีร์ ที่คบกันมายาวนาน ในเดือน มิ.ย. 2553 ขณะที่กฎหมายใหม่อนุญาตให้เพศเดียวกันแต่งงานกันได้มีผลบังคับใช้ แต่คู่สามีภรรยาเพศเดียวกัน ต้องอยู่ด้วยกันอย่างน้อย 5 ปี จึงจะสามารถมีสิทธิมีบุตรบุญธรรมได้ ตั้งแต่ปี 2549

อาร์เจนตินา เป็นประเทศแรกในอเมริกาใต้ ที่ออกกฎหมายนี้เมื่อวันที่ 14 ก.ค.2553 เช่นเดียวกับเดนมาร์ก ก็เป็นประเทศแรกในโลกที่อนุญาตให้เกย์เข้าสู่การสมรสของเพศเดียวกันในปี 2532

นอกจากนี้ ยังมีอุรุกวัย ออกกฎหมายเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ปีนี้ เป็นประเทศที่ 2 ของลาตินอเมริกา ขณะที่ นิวซีแลนด์ เป็นประเทศแรกในเอเชีย-แปซิฟิก ออกกฎหมายมาเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังรณรงค์มานาน ส่วนฝรั่งเศส เพิ่งบังคับใช้กฎหมายไปเมื่อวันที่ 18 พ.ค. หลังจากต่อสู้กันในสภานานถึง 4 เดือน และมีการเดินขบวนประท้วงกันด้วย ยังมีในบางพื้นที่ของเม็กซิโก และอีก 13 รัฐของสหรัฐ รวมทั้งกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ด้วย ที่ให้สิทธิเกย์แต่งงานกันอย่างถูกต้อง

เมื่อมีกฎหมายรองรับเช่นนี้ ก็คงสมใจคู่รักร่วมเพศ และในอีกไม่นานนี้ จะมีคู่รักเพศเดียวกันแห่แต่งงานกันเพียบ...โดย เลนซ์ซูม

ขอบคุณ http://www.dailynews.co.th/article/80/220592 (ขนาดไฟล์: 167)

เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 22 ก.ค.56

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 22 ก.ค.56
วันที่โพสต์: 22/07/2556 เวลา 03:49:22

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ต้องขอแสดงความยินดีกับคู่รักร่วมเพศ ที่หลายประเทศทั่วโลกเริ่มเห็นความสำคัญของคนกลุ่มนี้ และมีการยกระดับให้คนกลุ่มนี้ หรือที่หลายคนเรียกว่า เพศที่ 3 ขึ้นมามีความทัดเทียมและเสมอภาคกับบุคคลทั่วไป อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นว่า ทั่วโลกให้การยอมรับ และเห็นคุณค่าของความเป็นคนมากขึ้น เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อังกฤษกลายเป็นประเทศที่ 15 ในโลก ที่มีกฎหมายอนุญาตให้คู่รักเพศเดียวกันแต่งงานกันได้แล้ว หลังจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ทรงมีพระบรมราชานุญาต ให้ออกกฎหมายการแต่งงานของคนเพศเดียวกันในประเทศอังกฤษและแคว้นเวลส์ หลังกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบของสภาแล้ว และจะมีผลให้คู่รักเพศเดียวกันแต่งงานกันได้อย่างเป็นทางการในฤดูร้อนปีหน้า ซึ่งนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เอง ก็สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ แม้จะมีความเห็นแตกแยกในพรรคอนุรักษนิยมของเขา รวมทั้งยังเป็นประเด็นให้มีการโต้เถียงกันในสภาผู้แทนราษฎรและสภาขุนนางก็ ตาม มาลองไล่รายชื่อประเทศที่ออกกฎหมาย ไฟเขียวให้กลุ่มคนรักร่วมเพศแต่งงานกันได้ ก่อนหน้านี้ดูว่ามีประเทศใดบ้างที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2544 เนเธอร์แลนด์ สร้างประวัติศาสตร์เป็นประเทศแรกในโลก ที่ออกกฎหมายยอมให้เพศเดียวกันแต่งงานกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เหมือนกับหนุ่มสาว หญิงชายทั่วไป รวมทั้งให้สิทธิมีบุตรบุญธรรมได้ด้วย เบลเยียม คู่รักร่วมเพศก็เกือบมีสิทธิเหมือนกับคู่สามี-ภรรยาชาย-หญิงทั่วไป เมื่อพวกเขาได้รับสิทธิแต่งงานกันได้ เมื่อปี 2547 และในปี 2549 รัฐสภาก็ลงมติรับรองร่างกฎหมายอนุญาตให้คู่รักเพศเดียวกันมีบุตรบุญธรรมได้ ขณะที่ สเปน เป็นประเทศที่ 3 ของสหภาพยุโรป หรืออียู ที่ผ่านร่างกฎหมายเปิดกว้างให้เพศเดียวกันแต่งงานกันได้ในปี 2548 สามารถมีบุตรบุญธรรมได้ด้วย ข้ามไปที่แคนาดา คลอดกฎหมายที่ถือว่าสำคัญระดับประเทศ อนุญาตให้เกย์แต่งงานกันได้ และมีลูกบุญธรรมในเดือนก.ค.2548 แม้ว่าจังหวัดส่วนใหญ่อนุญาตไปก่อนแล้ว ส่วนแอฟริกาใต้ เป็นประเทศในทวีปแอฟริกาชาติแรก ก็คลอดกฎหมายเดียวกันนี้ ในเดือนพ.ย.2549 ตามมาด้วยนอร์เวย์ ในปี 2552 ยอมออกกฎหมายให้เกย์แต่งงานและมีลูกบุญธรรมได้ แต่ก็มีกฎหมายที่อนุญาตให้คู่ชีวิตชายกับชาย หรือหญิงกับหญิงสามารถไปจดทะเบียนเป็นคู่ชีวิตเพศเดียวกัน ซึ่งเรียกว่า civil partnership มานานกว่า 20 ปีแล้ว ขณะที่ สวีเดน กลุ่มรักร่วมเพศก็ได้รับอนุญาตให้แต่งงานกันตามแบบพิธีทางศาสนา หรือทางกฎหมาย (civil ceremony) ได้แก่ การจดทะเบียนสมรสต่อหน้านายทะเบียน ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2552 โปรตุเกส เพิ่งมีกฎหมายในลักษณะนี้เมื่อปี 2553 รวมทั้งให้สิทธิมีบุตรบุญธรรมด้วย ส่วนไอซ์แลนด์ นายกรัฐมนตรีหญิงรักหญิง “โจฮันนา ซิกูร์ดาร์ดอททีร์” ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำไอซ์แลนด์ ซึ่งถือเป็นผู้นำประเทศคนแรก ที่ยอมรับอย่างเปิดเผยว่าตัวเองเป็น “หญิงเลสเบี้ยน” แต่งงานกับนางโจนินา ลีดอททีร์ ที่คบกันมายาวนาน ในเดือน มิ.ย. 2553 ขณะที่กฎหมายใหม่อนุญาตให้เพศเดียวกันแต่งงานกันได้มีผลบังคับใช้ แต่คู่สามีภรรยาเพศเดียวกัน ต้องอยู่ด้วยกันอย่างน้อย 5 ปี จึงจะสามารถมีสิทธิมีบุตรบุญธรรมได้ ตั้งแต่ปี 2549 อาร์เจนตินา เป็นประเทศแรกในอเมริกาใต้ ที่ออกกฎหมายนี้เมื่อวันที่ 14 ก.ค.2553 เช่นเดียวกับเดนมาร์ก ก็เป็นประเทศแรกในโลกที่อนุญาตให้เกย์เข้าสู่การสมรสของเพศเดียวกันในปี 2532 นอกจากนี้ ยังมีอุรุกวัย ออกกฎหมายเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ปีนี้ เป็นประเทศที่ 2 ของลาตินอเมริกา ขณะที่ นิวซีแลนด์ เป็นประเทศแรกในเอเชีย-แปซิฟิก ออกกฎหมายมาเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังรณรงค์มานาน ส่วนฝรั่งเศส เพิ่งบังคับใช้กฎหมายไปเมื่อวันที่ 18 พ.ค. หลังจากต่อสู้กันในสภานานถึง 4 เดือน และมีการเดินขบวนประท้วงกันด้วย ยังมีในบางพื้นที่ของเม็กซิโก และอีก 13 รัฐของสหรัฐ รวมทั้งกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ด้วย ที่ให้สิทธิเกย์แต่งงานกันอย่างถูกต้อง เมื่อมีกฎหมายรองรับเช่นนี้ ก็คงสมใจคู่รักร่วมเพศ และในอีกไม่นานนี้ จะมีคู่รักเพศเดียวกันแห่แต่งงานกันเพียบ...โดย เลนซ์ซูม ขอบคุณ http://www.dailynews.co.th/article/80/220592 เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 22 ก.ค.56

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...