กฎหมาย การเมือง รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ พรรคเพื่อไทย

แสดงความคิดเห็น

ไม่แปลกที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ จะเห็นว่าร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมทรงความหมายยิ่งกว่าร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างด้านคมนาคมของประเทศ

เพราะว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ คือแกนนำนปช.

เป็นแกนนำที่ร่วมต่อสู้กับนปช.ตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายน 2552 กระทั่งเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553

รับรู้การถูกล้อมปราบจากรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

รับรู้การถูกจับกุมและเห็นมวลชนคนเสื้อแดงคนแล้วคนเล่าที่ถูกสอยด้วยกระสุนจริงล้มตายเป็นใบไม้ร่วง

เป็นความรู้สึกที่มิอาจลืมได้อย่างง่ายดาย

จึงทำให้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ เห็นความสำคัญของร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเหนือกว่าร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างด้านคมนาคมของประเทศ

เป็นการจัดลำดับ ก่อนและหลัง

กระนั้น หากมองจากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลำดับความสำคัญของร่างพ.ร.บ.อาจแตกต่างไปจากบทสรุปของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ บ้าง

แต่ก็มิได้หมายความว่าจะละเลย หรือไม่ให้ความสนใจ

ในฐานะเป็นตัวแทนอันมาจากพรรคเพื่อไทยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องมองอย่างเห็นองค์รวม

มิได้มองเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง

นั่นก็คือ มติของพรรคเพื่อไทยเห็นควรให้การสนับสนุนและผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นอันดับแรกเมื่อเปรียบเทียบกับร่างพ.ร.บ.ปรองดอง แต่กับร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมของประเทศก็เกาะติดและให้ความสำคัญ

พร้อมจะผลักดันทั้ง 2 ร่างกฎหมาย

การมองและประเมินบทบาทและความหมายของกฎหมายหากเป็นเรื่องของพรรค เป็นเรื่องของกลุ่มก็อาจจะทำให้เกิดความไขว้เขว

ไขว้เขวและมิอาจแยกจำแนกความสำคัญ

การให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ต่อผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 มีความจำเป็น

ขณะเดียวกัน การบริหารราชการแผ่นดินก็มีความจำเป็นและสำคัญ

การช่วยเหลือและเยียวยาต้องเดินหน้าและกระทำอย่างเป็นรูปธรรม ขณะที่การบริหารราชการแผ่นดินในฐานะรัฐบาลก็มิอาจหยุดนิ่งลงได้

ต้องมองให้ออก ต้องมองให้เป็น

ในกาลอดีต เคยมีการเปรียบเทียบจุดต่างระหว่างนักการเมืองกับรัฐบุรุษไว้อย่างเด่นชัดยิ่ง

นั่น ก็คือ นักการเมืองมองเห็นแต่ผลการเลือกตั้งสมัยหน้า แต่กล่าวสำหรับนักการเมืองที่คิดเชิงรัฐบุรุษจะมองเห็นประโยชน์ยาวไกล อย่างน้อยก็ยาวไกลไปกว่าประเด็นการเลือกตั้ง

เรื่องอย่างนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ มองทะลุอยู่แล้ว

ขอบคุณ http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM016STNNakUzTXc9PQ==&sectionid= (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 8 ก.ค.56
วันที่โพสต์: 9/07/2556 เวลา 03:29:56

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ไม่แปลกที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ จะเห็นว่าร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมทรงความหมายยิ่งกว่าร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างด้านคมนาคมของประเทศ เพราะว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ คือแกนนำนปช. เป็นแกนนำที่ร่วมต่อสู้กับนปช.ตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายน 2552 กระทั่งเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 รับรู้การถูกล้อมปราบจากรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รับรู้การถูกจับกุมและเห็นมวลชนคนเสื้อแดงคนแล้วคนเล่าที่ถูกสอยด้วยกระสุนจริงล้มตายเป็นใบไม้ร่วง เป็นความรู้สึกที่มิอาจลืมได้อย่างง่ายดาย จึงทำให้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ เห็นความสำคัญของร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเหนือกว่าร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างด้านคมนาคมของประเทศ เป็นการจัดลำดับ ก่อนและหลัง กระนั้น หากมองจากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลำดับความสำคัญของร่างพ.ร.บ.อาจแตกต่างไปจากบทสรุปของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ บ้าง แต่ก็มิได้หมายความว่าจะละเลย หรือไม่ให้ความสนใจ ในฐานะเป็นตัวแทนอันมาจากพรรคเพื่อไทยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องมองอย่างเห็นองค์รวม มิได้มองเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง นั่นก็คือ มติของพรรคเพื่อไทยเห็นควรให้การสนับสนุนและผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นอันดับแรกเมื่อเปรียบเทียบกับร่างพ.ร.บ.ปรองดอง แต่กับร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมของประเทศก็เกาะติดและให้ความสำคัญ พร้อมจะผลักดันทั้ง 2 ร่างกฎหมาย การมองและประเมินบทบาทและความหมายของกฎหมายหากเป็นเรื่องของพรรค เป็นเรื่องของกลุ่มก็อาจจะทำให้เกิดความไขว้เขว ไขว้เขวและมิอาจแยกจำแนกความสำคัญ การให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ต่อผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 มีความจำเป็น ขณะเดียวกัน การบริหารราชการแผ่นดินก็มีความจำเป็นและสำคัญ การช่วยเหลือและเยียวยาต้องเดินหน้าและกระทำอย่างเป็นรูปธรรม ขณะที่การบริหารราชการแผ่นดินในฐานะรัฐบาลก็มิอาจหยุดนิ่งลงได้ ต้องมองให้ออก ต้องมองให้เป็น ในกาลอดีต เคยมีการเปรียบเทียบจุดต่างระหว่างนักการเมืองกับรัฐบุรุษไว้อย่างเด่นชัดยิ่ง นั่น ก็คือ นักการเมืองมองเห็นแต่ผลการเลือกตั้งสมัยหน้า แต่กล่าวสำหรับนักการเมืองที่คิดเชิงรัฐบุรุษจะมองเห็นประโยชน์ยาวไกล อย่างน้อยก็ยาวไกลไปกว่าประเด็นการเลือกตั้ง เรื่องอย่างนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ มองทะลุอยู่แล้ว ขอบคุณ http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM016STNNakUzTXc9PQ==§ionid=

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...