แนวร่วมต่อต้านการปกครอง
มีความแตกต่างที่คล้ายคลึงกันอยู่สองเรื่องที่น่าสนใจ เรื่องแรก ความเคลื่อนไหวทางการเมืองใน กทม. ไทยสปริง หน้ากากขาว ลามเป็นกระแสไปถึงคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ ออกมาใส่หน้ากากขาวต่อต้านรัฐบาล นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่คนในรัฐบาลบางคนระบุว่า เป็นการแปลงรูปแบบความเคลื่อนไหวมาจาก กลุ่มคนเสื้อเหลือง ที่กลับมารวมตัวกันต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อีกครั้ง
แม้จะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงประการใดๆ ในเวลานี้ แต่ ประชากรในระบอบประชาธิปไตยของโลก ก็คงอดสงสัยกับประชาธิปไตยในประเทศไทย ไม่ได้ วันหนึ่งก็มี คนใส่ชุดแดงออกมาไล่รัฐบาลที่ถูกกล่าวหาว่ามีการแต่งตั้งกันในค่ายทหาร วันหนึ่งมี คนใส่ชุดเหลือง มาไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเสียงข้างมาก ผ่านไป 7 ปี วันนี้ประเทศไทยก็มีคนใส่หน้ากากขาวมาไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอีกแล้ว
คนไทยต้องการประชาธิปไตยแบบไหนกันแน่
ไม่ เคยพอใจกับระบอบการปกครองที่เป็นไปตามวิถีประชา-ธิปไตยเลยแม้แต่ครั้งเดียว การต่อต้านการปกครองหรือการล้มล้างรัฐบาล ดูเหมือนว่า จะไม่มีความผิดตามรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย เท่ากับ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือ การฉีกรัฐธรรมนูญได้รับ การยอมรับมากกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั่วโลกสับสนไปหมด
อีกกรณี เหตุการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ฝ่ายความมั่นคง อ้างว่า หากการเจรจากับแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น ไม่ได้เรื่องได้ราว ก็จะเปลี่ยนกลุ่มเจรจาใหม่ ค่อยๆคลำหาทางออกไปเรื่อยๆ
ปรากฏมีข้อมูล สำคัญบางอย่าง จาก พล.อ.สำเร็จ ศรีหร่าย ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานปลัดกลาโหม เป็นหัวหน้าการประสานงานระหว่างหน่วยงาน จชต.–กอ.รมน.และตำรวจ ระบุความเคลื่อนไหวก่อความรุนแรงในภาคใต้อยู่ในระยะที่ 3 แล้ว มี บีอาร์เอ็น เป็นกลุ่มหลัก พลูโล เป็นกลุ่มเก่าไปแล้ว ไม่เกี่ยวกับการก่อความรุนแรงแต่อย่างใด
การพูดคุยระหว่าง สมช.กับบีอาร์เอ็น น่าจะเป็นผลดีเพราะปกติบีอาร์เอ็นเป็นองค์กรลับไม่เปิดเผยตัว ก่อความรุนแรงเมื่อได้จังหวะและได้เปรียบ และการเปิดเผยตัวครั้งนี้ เกิดจากแรงกดดันจาก ประเทศมาเลเซีย ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของ เชื้อชาติและความเหลื่อมล้ำในสังคม
ความคิดเรื่องการต่อต้านการ ปกครองของรัฐ มีการเตรียมการมากว่า 20 ปี มีการตั้งเป้าจัดพื้นที่สนับสนุนและจัดองค์กรมวลชนไว้ 1,000 แห่ง ทำสำเร็จแล้ว 800 แห่ง องค์กรที่ออกมาสู้รบเรียก ว่า อาร์ เค เค มีอยู่ประมาณ 3 พันคน และมีแนวร่วมอีกกว่า 2 หมื่นคน
ปลูกฝังอุดมการณ์ต่อต้านรัฐไทย
ข้อมูล จากฝ่ายความมั่นคงชุดนี้ และความไม่ลงรอยทางการเมืองของฝ่ายการเมือง บ่งชี้ได้ว่าความมั่นคงในระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆของบ้านเรา ล่อแหลมที่จะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น เพื่อสู้รบแย่งชิงการปกครอง.หมัดเหล็ก
ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/column/pol/kaablook/349263
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
มีความแตกต่างที่คล้ายคลึงกันอยู่สองเรื่องที่น่าสนใจ เรื่องแรก ความเคลื่อนไหวทางการเมืองใน กทม. ไทยสปริง หน้ากากขาว ลามเป็นกระแสไปถึงคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ ออกมาใส่หน้ากากขาวต่อต้านรัฐบาล นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่คนในรัฐบาลบางคนระบุว่า เป็นการแปลงรูปแบบความเคลื่อนไหวมาจาก กลุ่มคนเสื้อเหลือง ที่กลับมารวมตัวกันต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อีกครั้ง แม้จะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงประการใดๆ ในเวลานี้ แต่ ประชากรในระบอบประชาธิปไตยของโลก ก็คงอดสงสัยกับประชาธิปไตยในประเทศไทย ไม่ได้ วันหนึ่งก็มี คนใส่ชุดแดงออกมาไล่รัฐบาลที่ถูกกล่าวหาว่ามีการแต่งตั้งกันในค่ายทหาร วันหนึ่งมี คนใส่ชุดเหลือง มาไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเสียงข้างมาก ผ่านไป 7 ปี วันนี้ประเทศไทยก็มีคนใส่หน้ากากขาวมาไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอีกแล้ว คนไทยต้องการประชาธิปไตยแบบไหนกันแน่ ไม่ เคยพอใจกับระบอบการปกครองที่เป็นไปตามวิถีประชา-ธิปไตยเลยแม้แต่ครั้งเดียว การต่อต้านการปกครองหรือการล้มล้างรัฐบาล ดูเหมือนว่า จะไม่มีความผิดตามรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย เท่ากับ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือ การฉีกรัฐธรรมนูญได้รับ การยอมรับมากกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั่วโลกสับสนไปหมด อีกกรณี เหตุการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ฝ่ายความมั่นคง อ้างว่า หากการเจรจากับแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น ไม่ได้เรื่องได้ราว ก็จะเปลี่ยนกลุ่มเจรจาใหม่ ค่อยๆคลำหาทางออกไปเรื่อยๆ ปรากฏมีข้อมูล สำคัญบางอย่าง จาก พล.อ.สำเร็จ ศรีหร่าย ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานปลัดกลาโหม เป็นหัวหน้าการประสานงานระหว่างหน่วยงาน จชต.–กอ.รมน.และตำรวจ ระบุความเคลื่อนไหวก่อความรุนแรงในภาคใต้อยู่ในระยะที่ 3 แล้ว มี บีอาร์เอ็น เป็นกลุ่มหลัก พลูโล เป็นกลุ่มเก่าไปแล้ว ไม่เกี่ยวกับการก่อความรุนแรงแต่อย่างใด การพูดคุยระหว่าง สมช.กับบีอาร์เอ็น น่าจะเป็นผลดีเพราะปกติบีอาร์เอ็นเป็นองค์กรลับไม่เปิดเผยตัว ก่อความรุนแรงเมื่อได้จังหวะและได้เปรียบ และการเปิดเผยตัวครั้งนี้ เกิดจากแรงกดดันจาก ประเทศมาเลเซีย ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของ เชื้อชาติและความเหลื่อมล้ำในสังคม ความคิดเรื่องการต่อต้านการ ปกครองของรัฐ มีการเตรียมการมากว่า 20 ปี มีการตั้งเป้าจัดพื้นที่สนับสนุนและจัดองค์กรมวลชนไว้ 1,000 แห่ง ทำสำเร็จแล้ว 800 แห่ง องค์กรที่ออกมาสู้รบเรียก ว่า อาร์ เค เค มีอยู่ประมาณ 3 พันคน และมีแนวร่วมอีกกว่า 2 หมื่นคน ปลูกฝังอุดมการณ์ต่อต้านรัฐไทย ข้อมูล จากฝ่ายความมั่นคงชุดนี้ และความไม่ลงรอยทางการเมืองของฝ่ายการเมือง บ่งชี้ได้ว่าความมั่นคงในระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆของบ้านเรา ล่อแหลมที่จะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น เพื่อสู้รบแย่งชิงการปกครอง.หมัดเหล็ก ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/column/pol/kaablook/349263
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)