ศาลรธน.ในสถานการณ์‘กระสุนตก’

แสดงความคิดเห็น

“จากข้อมูลของผมเชื่อว่าคำวินิจฉัยจะไม่เลวร้ายเกินไป แต่ก็ได้เตรียมความพร้อมกรณีคำวินิจฉัยออกมาเลวร้ายที่สุดว่า เป็นการล้มล้างการปกครองโดยจะแนะนำให้คนที่ผมรู้จักเบิกเงินสด ตุนน้ำ ตุนยา หยุดการลงทุน หยุดงาน บอกครอบครัวให้เตรียมรองรับสถานการณ์เพราะอาจจะเลวร้ายอย่างที่สุดที่ไม่เคย เกิดขึ้นมาก่อน หากศาลมีคำวินิจฉัยที่เลวร้ายที่สุด เหตุการณ์ที่ตามมาคือฝ่ายบริหารจะไม่ยอมรับคำสั่งศาล ประชาชนที่เป็นกองเชียร์รัฐบาลก็จะไม่ยอมรับและตอบโต้อย่างรุนแรงคือแจ้ง ความดำเนินคดีศาลข้อหากบฏและขอให้ตำรวจจับกุม ถ้าตำรวจไม่จับกุมประชาชนก็จะจับเองซึ่งฝ่ายอำมาตย์ก็จะจัดมวลชนมาปกป้องศาล ทำให้ประชาชนปะทะกันและตำรวจเอาไม่อยู่ทำให้ทหารต้องออกมาควบคุมด้วยการยึด อำนาจ จากนั้นมวลชนก็จะต่อสู้กับทหารทุกรูปแบบ จนกลายเป็นสงครามกลางเมือง ไม่ได้ขู่แต่เป็นการประเมินจากข้อมูลหลายส่วน หวังว่าศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม คงไม่เกิดเหตุสยองขวัญ อยากขอร้องเสื้อแดงทุกคน อย่าไปอยู่ใกล้ศูนย์ราชการโดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ เพียงสวมเสื้อแดงอยู่บ้าน ไปทำงาน ให้รอ หากพวกผมเป่านกหวีดเตรียมเก็บกระเป๋าร่ำลาครอบครัวเพราะถ้าคำวินิจฉัยออกมา เลวร้ายที่สุด ก็ต้องต่อสู้แตกหักอย่างเดียว”

นี่เป็น “คำพูด” ของ ก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดงที่แถลงไว้ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมี “คำวินิจฉัย” กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 68

“คำพูด” เช่นนี้ ส่งผลให้ก่อแก้ว กลับเข้าคุกมาแล้วก่อนหน้านี้แต่ก็ออกมาทำหน้าที่ ส.ส. จนกระทั่งปิดสมัยประชุมสภาเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2556 ก่อแก้วก็ถูก “ถอนประกัน” กลับเข้าไปอยู่ในคุกอีกครั้ง

แต่เหตุการณ์ครั้งนั้น กำลังจะกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะพรรคเพื่อไทยกำลังแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68

เป็นแก้ไขที่มีผู้ไปร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญระงับยับยั้ง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็รับเรื่องไว้พิจารณา

อาจจะไม่มีปฏิกิริยาอย่าง ก่อแก้ว แต่ ส.ส. และ ส.ว. 312 คน ที่เข้าชื่อ ออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับการรับเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญในครั้งนี้

วันก่อนรองโฆษกพรรคเพื่อไทย อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ยังแถลงข่าวเลยว่า ส.ส. และ ส.ว. จะเข้าชื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งคณะโดยจะยื่นเรื่องให้ประธาน วุฒิสภาส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนเร็ว ๆ นี้

หรือข่าวที่ โภคิน พลกุล อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร มือกฎหมายชั้นแนวหน้าพรรคเพื่อไทย เตรียมออก “จดหมายเปิดผนึก” แสดงจุดยืนไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ

ก็ล้วนเป็น “ปฏิกิริยา” ที่สะท้อนชัดขึ้นตามลำดับว่า การเผชิญหน้า “รอบใหม่” กำลังจะเกิดขึ้น

ล่าสุดกลุ่มคนเสื้อแดงในนามกลุ่มผู้กล้าประชาธิปไตย 200 คนก็ไปปักหลักชุมนุมพร้อมเปิดเวทีปราศรัยหน้าศาลรัฐธรรมนูญ

แกนนำ “ขยับ” มวลชน “เขยื้อน” เริ่มขึ้นอีกครั้ง โดยมี “เป้าหมาย” ปลายทางอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ

แต่จะเคลื่อนไหวแสดงออกซึ่งความไม่เห็นด้วยอย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามกรอบกติกา

ดูกรณีของ “ก่อแก้ว” ไว้เป็นตัวอย่าง.

ขอบคุณ http://www.dailynews.co.th/article/4/199181 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 22 เม.ย.56
วันที่โพสต์: 23/04/2556 เวลา 03:24:02

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

“จากข้อมูลของผมเชื่อว่าคำวินิจฉัยจะไม่เลวร้ายเกินไป แต่ก็ได้เตรียมความพร้อมกรณีคำวินิจฉัยออกมาเลวร้ายที่สุดว่า เป็นการล้มล้างการปกครองโดยจะแนะนำให้คนที่ผมรู้จักเบิกเงินสด ตุนน้ำ ตุนยา หยุดการลงทุน หยุดงาน บอกครอบครัวให้เตรียมรองรับสถานการณ์เพราะอาจจะเลวร้ายอย่างที่สุดที่ไม่เคย เกิดขึ้นมาก่อน หากศาลมีคำวินิจฉัยที่เลวร้ายที่สุด เหตุการณ์ที่ตามมาคือฝ่ายบริหารจะไม่ยอมรับคำสั่งศาล ประชาชนที่เป็นกองเชียร์รัฐบาลก็จะไม่ยอมรับและตอบโต้อย่างรุนแรงคือแจ้ง ความดำเนินคดีศาลข้อหากบฏและขอให้ตำรวจจับกุม ถ้าตำรวจไม่จับกุมประชาชนก็จะจับเองซึ่งฝ่ายอำมาตย์ก็จะจัดมวลชนมาปกป้องศาล ทำให้ประชาชนปะทะกันและตำรวจเอาไม่อยู่ทำให้ทหารต้องออกมาควบคุมด้วยการยึด อำนาจ จากนั้นมวลชนก็จะต่อสู้กับทหารทุกรูปแบบ จนกลายเป็นสงครามกลางเมือง ไม่ได้ขู่แต่เป็นการประเมินจากข้อมูลหลายส่วน หวังว่าศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม คงไม่เกิดเหตุสยองขวัญ อยากขอร้องเสื้อแดงทุกคน อย่าไปอยู่ใกล้ศูนย์ราชการโดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ เพียงสวมเสื้อแดงอยู่บ้าน ไปทำงาน ให้รอ หากพวกผมเป่านกหวีดเตรียมเก็บกระเป๋าร่ำลาครอบครัวเพราะถ้าคำวินิจฉัยออกมา เลวร้ายที่สุด ก็ต้องต่อสู้แตกหักอย่างเดียว” นี่เป็น “คำพูด” ของ ก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดงที่แถลงไว้ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมี “คำวินิจฉัย” กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 68 “คำพูด” เช่นนี้ ส่งผลให้ก่อแก้ว กลับเข้าคุกมาแล้วก่อนหน้านี้แต่ก็ออกมาทำหน้าที่ ส.ส. จนกระทั่งปิดสมัยประชุมสภาเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2556 ก่อแก้วก็ถูก “ถอนประกัน” กลับเข้าไปอยู่ในคุกอีกครั้ง แต่เหตุการณ์ครั้งนั้น กำลังจะกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะพรรคเพื่อไทยกำลังแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เป็นแก้ไขที่มีผู้ไปร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญระงับยับยั้ง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็รับเรื่องไว้พิจารณา อาจจะไม่มีปฏิกิริยาอย่าง ก่อแก้ว แต่ ส.ส. และ ส.ว. 312 คน ที่เข้าชื่อ ออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับการรับเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ วันก่อนรองโฆษกพรรคเพื่อไทย อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ยังแถลงข่าวเลยว่า ส.ส. และ ส.ว. จะเข้าชื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งคณะโดยจะยื่นเรื่องให้ประธาน วุฒิสภาส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนเร็ว ๆ นี้ หรือข่าวที่ โภคิน พลกุล อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร มือกฎหมายชั้นแนวหน้าพรรคเพื่อไทย เตรียมออก “จดหมายเปิดผนึก” แสดงจุดยืนไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ก็ล้วนเป็น “ปฏิกิริยา” ที่สะท้อนชัดขึ้นตามลำดับว่า การเผชิญหน้า “รอบใหม่” กำลังจะเกิดขึ้น ล่าสุดกลุ่มคนเสื้อแดงในนามกลุ่มผู้กล้าประชาธิปไตย 200 คนก็ไปปักหลักชุมนุมพร้อมเปิดเวทีปราศรัยหน้าศาลรัฐธรรมนูญ แกนนำ “ขยับ” มวลชน “เขยื้อน” เริ่มขึ้นอีกครั้ง โดยมี “เป้าหมาย” ปลายทางอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่จะเคลื่อนไหวแสดงออกซึ่งความไม่เห็นด้วยอย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามกรอบกติกา ดูกรณีของ “ก่อแก้ว” ไว้เป็นตัวอย่าง. ขอบคุณ http://www.dailynews.co.th/article/4/199181

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...