จังหวะ การเมือง กระแส รัฐธรรมนูญ บทเรียน เรียนรู้

แสดงความคิดเห็น

แม้ว่าองค์คณะ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติ 3 ต่อ 2 รับเรื่องที่ นายสมชาย แสวงการ ยื่นให้วินิจฉัยกรณีการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไข มาตรา 68

แต่ก็มิได้หมายความว่าข้อร้องของ นายสมชาย แสวงการ จะสมหวังครบถ้วน

เพราะว่าข้อร้องที่ว่าให้ระงับการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไข มาตรา 68 เอาไว้เป็นการชั่วคราวองค์คณะไม่เห็นด้วย

อันเท่ากับแสดงว่ารัฐสภาสามารถเดินหน้าต่อไปได้

จึง ไม่แปลกที่ในระหว่างคืนวันที่ 3 และ 4 เมษายน ที่ประชุมรัฐสภาจึงได้มีมติให้ความเห็นชอบรับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 68 และมาตรา 237 ในวาระ 1

ด้วยคะแนนสูงถึง 374 คะแนน

มติให้ความเห็นชอบของสมาชิกรัฐสภากว่า 370 คนเช่นนี้เท่ากับยืนยันในอำนาจของสมาชิกรัฐสภาว่าสามารถแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้

มตินี้มากด้วยความแหลมคม

การประชุมรัฐสภาจากวันที่ 1 จนถึงวันที่ 4 เมษายน ตลอดเวลา 4 วัน มีการถ่ายทอดผ่านทั้งโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียง

ใครต้องการแก้ไข ใครไม่ต้องการแก้ไข รับรู้กันหมด

ใครพยายามเตะถ่วงโดยหยิบยกเอากรณีของ นายนิคม ไวยรัชพานิช ให้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง รับรู้กันหมด

สามารถทำได้ แต่สง่างามหรือไม่ น่าคิด

แม้ กระทั่งการเล่นเกมในเรื่องกรอบเวลาของการแปรญัตติเป็นเวลากี่วันกันแน่ โดยอาศัยเรื่องปมของข้อบังคับการประชุมมาเป็นเครื่องมือ และลามปามไปถึงความชอบหรือไม่ชอบของคณะกรรมาธิการทั้ง 3 คณะ

ก็ล้วนอยู่ใน ‘เกม’ การเมืองที่เห็นและเป็นอยู่

ไม่ว่าการเคลื่อนไหวของ นายสมชาย แสวงการ ไม่ว่าการแสดงออกอย่างแข็งขันของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มีความแจ่มชัด

แจ่มชัดว่าไม่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

แจ่มชัดว่าจะใช้ทุกกลยุทธ์ ทุกความจัดเจนจากกลไกอันดำรงอยู่ภายในระบบมาเป็นเครื่องมือเพื่อสกัดขัดขวาง

เตะถ่วง รั้งดึง มิให้ดำเนินไปโดยราบรื่น

ถาม ว่าทุกย่างก้าวเหล่านี้ ส.ส.และส.ว.ที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอ่านออก แทงทะลุหรือไม่ ถ้าอ่านออกและแทงทะลุจะมีมาตรการในการรับมืออย่างไร

จึงจะไม่ตกเป็นเป้านิ่งให้กระหน่ำฟาดข้างเดียว

ทั้งหมดล้วนเป็นกระบวนการต่อสู้อันเห็นและเป็นอยู่ เป็นกระบวนการต่อสู้ในระบบรัฐสภา

พรรค ประชาธิปัตย์อาจมากด้วยความจัดเจน อาศัยช่องของกฎหมาย อาศัยช่องของข้อบังคับมาพลิกพลิ้วให้เป็นประโยชน์ในฐานะที่เป็นเสียงข้าง น้อย

นั่นเป็นเรื่องที่จะต้องเรียนรู้ ทำความเข้าใจ

ขอบคุณ http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk5URTNOak0yT1E9PQ==§ionid= (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 5 เม.ย. 56
วันที่โพสต์: 6/04/2556 เวลา 03:47:53

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

แม้ว่าองค์คณะ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติ 3 ต่อ 2 รับเรื่องที่ นายสมชาย แสวงการ ยื่นให้วินิจฉัยกรณีการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไข มาตรา 68 แต่ก็มิได้หมายความว่าข้อร้องของ นายสมชาย แสวงการ จะสมหวังครบถ้วน เพราะว่าข้อร้องที่ว่าให้ระงับการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไข มาตรา 68 เอาไว้เป็นการชั่วคราวองค์คณะไม่เห็นด้วย อันเท่ากับแสดงว่ารัฐสภาสามารถเดินหน้าต่อไปได้ จึง ไม่แปลกที่ในระหว่างคืนวันที่ 3 และ 4 เมษายน ที่ประชุมรัฐสภาจึงได้มีมติให้ความเห็นชอบรับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 68 และมาตรา 237 ในวาระ 1 ด้วยคะแนนสูงถึง 374 คะแนน มติให้ความเห็นชอบของสมาชิกรัฐสภากว่า 370 คนเช่นนี้เท่ากับยืนยันในอำนาจของสมาชิกรัฐสภาว่าสามารถแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ มตินี้มากด้วยความแหลมคม การประชุมรัฐสภาจากวันที่ 1 จนถึงวันที่ 4 เมษายน ตลอดเวลา 4 วัน มีการถ่ายทอดผ่านทั้งโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียง ใครต้องการแก้ไข ใครไม่ต้องการแก้ไข รับรู้กันหมด ใครพยายามเตะถ่วงโดยหยิบยกเอากรณีของ นายนิคม ไวยรัชพานิช ให้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง รับรู้กันหมด สามารถทำได้ แต่สง่างามหรือไม่ น่าคิด แม้ กระทั่งการเล่นเกมในเรื่องกรอบเวลาของการแปรญัตติเป็นเวลากี่วันกันแน่ โดยอาศัยเรื่องปมของข้อบังคับการประชุมมาเป็นเครื่องมือ และลามปามไปถึงความชอบหรือไม่ชอบของคณะกรรมาธิการทั้ง 3 คณะ ก็ล้วนอยู่ใน ‘เกม’ การเมืองที่เห็นและเป็นอยู่ ไม่ว่าการเคลื่อนไหวของ นายสมชาย แสวงการ ไม่ว่าการแสดงออกอย่างแข็งขันของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มีความแจ่มชัด แจ่มชัดว่าไม่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แจ่มชัดว่าจะใช้ทุกกลยุทธ์ ทุกความจัดเจนจากกลไกอันดำรงอยู่ภายในระบบมาเป็นเครื่องมือเพื่อสกัดขัดขวาง เตะถ่วง รั้งดึง มิให้ดำเนินไปโดยราบรื่น ถาม ว่าทุกย่างก้าวเหล่านี้ ส.ส.และส.ว.ที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอ่านออก แทงทะลุหรือไม่ ถ้าอ่านออกและแทงทะลุจะมีมาตรการในการรับมืออย่างไร จึงจะไม่ตกเป็นเป้านิ่งให้กระหน่ำฟาดข้างเดียว ทั้งหมดล้วนเป็นกระบวนการต่อสู้อันเห็นและเป็นอยู่ เป็นกระบวนการต่อสู้ในระบบรัฐสภา พรรค ประชาธิปัตย์อาจมากด้วยความจัดเจน อาศัยช่องของกฎหมาย อาศัยช่องของข้อบังคับมาพลิกพลิ้วให้เป็นประโยชน์ในฐานะที่เป็นเสียงข้าง น้อย นั่นเป็นเรื่องที่จะต้องเรียนรู้ ทำความเข้าใจ ขอบคุณ http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk5URTNOak0yT1E9PQ==§ionid=

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...