อดีต สนช.เตือนคนไทยอย่าถูกนักการเมืองหลอกเรื่องรัฐธรรมนูญ

แสดงความคิดเห็น

เดลินิวส์ออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 10:49 น.

ขอบคุณ http://www.dailynews.co.th/politics/187443 (ขนาดไฟล์: 167)

อดีต สนช.ชี้องค์กรอิสระ มีความจำเป็นต่อการเมืองไทยมาทำหน้าที่ที่หายไปจากระบบรัฐสภา ที่ไม่เคยขับไล่รัฐบาลที่อยากมีอำนาจมากและนักการเมืองทุจริตได้ เตือนคนไทยอย่าถูกนักการเมืองหลอก เพราะผู้มีอำนาจรัฐไม่ต้องการให้ใครมาคอยจับผิด

นนี้ ( 28 ก.พ.) ที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ สถาบันพระปกเกล้า จัดสัมมนาเรื่อง "องค์กรตามรัฐธรรมนูญ จุดแข็งหรืิจุดอ่อนของประชาธิปไตยไทย " ภายใต้โครงการศึกษา"รัฐธรรมนูญที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย"โดยนายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ( สนช.) อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า หลายคนบอกว่าองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญทำให้ประเทศไทยหยุดชะงัก ซึ่งประกอบด้วย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปปช .) คณะกรรมการเลือกตั้ง( กกต .) ผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ในรัฐธรรมนูญปี 50 พบว่าได้เขียนให้อำนาจองค์กรต่างๆ ไว้ 4 ประเภท คณะรัฐมนตรี รัฐสภา ศาล และองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ทำให้ระบบการเมืองไทยมี 4 อำนาจจากที่เคยมีเพียง 3 อำนาจ

"ถือว่ารัฐธรรมนูญ 50 เขียนแยกองค์กรอิสระไว้ชัดเจน จากการที่ระบบรัฐสภาไม่สามารถขับไล่นักการเมืองหรือรัฐบาลที่ไม่ปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญออกได้ การโหวตไม่ไว้วางใจเป็นเพียงประเพณีเท่านั้น ว่าตัวออกได้ด้วยการโหวต กลายเป็นเงื่อนไขที่ทั่วโลกประสบปัญหาจากรัฐสภาและฝ่ายบริหารในช่วง 200 ปีมานี้ ทำให้ระบบรัฐสภาเสียสมดุลอย่างสิ้นเชิง เพราะมีระบบพรรคการเมือง มาดูผลประโยชน์ในทางฐานะทางเศรษฐกิจ ตามท้องถิ่นนั้นๆที่ประชาชนเลือกเข้ามา เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งกี่ครั้ง ไม่ว่า ส.ส.คนนั้นๆมาจากภาครัฐใด จะรู้ได้ล่วงหน้าว่า ส.ส.คนนั้นจะต้องลงคะแนนตามมติพรรค การตัดสินใจหลักๆทางการเมืองจากพรรคการเมืองที่มีเสียงมาก ไม่ได้เกิดจากรัฐสภาอีกต่อไปแล้ว ซึ่งปรากฏการณ์ นี้ทำให้ รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทำให้เห็นว่าไม่มีพรรคใหญ่ๆหรือรัฐบาลใดที่แพ้โหวตในสภา การยุบสภาทุกครั้งในไทยเกิดจากความแตกแยกขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล สถานการณ์อย่างนี้ภาวะเสียสมดุลของระบบรัฐสภา เกิดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 ซึ่งระบบอย่างนี้ทำให้ ฮิตเลอร์ ได้ขึ้นเป็นผู้นำประเทศนำเยอรมันเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นตัวอย่างให้ประเทศต่างๆ ในยุโรป ไม่ปล่อยให้การเมืองเป็นเรื่องถ่วงดุลระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว เป็นตัวอย่างให้กับทั่วโลก. ต้องแก้ไขปรับเปลี่ยนรัฐธรรมนูญ ให้มีองค์กรอิสระ มาถ่วงดุล "นายสุรพล กล่าว

อดีต สนช.กล่าวต่อว่าการร่างรัฐธรรมนูญไทยตั้งแต่ ปี 40 เกิดจากความคิดดังกล่าวว่ารัฐสภา ไม่มีวันไล่รัฐบาลออก เพราะคนยิ่งมีอำนาจก็อยากมีอำนาจมากกว่าเดิม ตั้งแต่รัฐธรรมนูญก่อนจะมีรัฐธรรมนูญ 40 ไม่มีใครคุมรัฐบาลได้เลย ได้แต่ฝากความหวังไว้ลมๆแล้งๆว่ารัฐบาลจะมาจากคนดี

นายสุรพลกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีการจำคุก รมว.สาธารณสุข ถอดถอน รมว.มหาดไทยและจำคุกดดีตนายกรัฐมนตรี เรื่องเหล่านี้ไม่เคยมีมาก่อนในการเมืองไทยหลังจากเสียสมดุลไปแล้ว นี่คือประสิทธิผลจากรัฐธรรมนูญ 40 และมาปรับเปลี่ยนในสองประเด็นในรัฐธรรมนูญปี 50 จัดกลุ่มองค์กรอิสระให้ชัดเจน แยกหมวดชัดเจนจะมีบทบัญญัติให้อำนาจองค์กรตามรัฐธรรมนูญต่อจากรัฐสภาและคณะรัฐมนตรี ซึ่ง รัฐธรรมนูญ 50 ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากนัก เราคิดว่า 9 ปีของการใช้รัฐธรรมนูญ 40 มีองค์กรอิสะ และ 6 ปี ใช้ 50 ได้ขับเคลื่อนการเมืองไทยดีขึ้นไปหรือไม่ ยังคงจำเป็นมีองค์กรอิสระหรือไม่ ต้องมีข้อระวังเพราะขณะนี้บ้านเมืิองมีความขัดแย้ง คนไทยไม่อยากพูดเรื่องการเมือง คนที่พูดคือนักการเมืองที่มีอำนาจ สังคมไทยต้อง ตระหนักพื้นฐานข้อเท็จจริงว่าหน้าที่องค์กรอิสระ มีวัถตุประสงค์ตรวจสอบผู้มีอำนาจทางการเมืองเท่านั้น ดังนั้นไม่มีนักการเมืองคนใดชอบองค์กรอิสระ มีเงินอยู่บ้าน ใช้เงินซื้อเสียง ใช้อำนาจไม่เป็นธรรมกับคู่แข่ง ก็มีคนมาคอยตรวจสอบ ไม่มีใครชอบคนจ้องจับผิดเรา มาถอดออกจากตำแหน่ง เวลาฟังคนอยู่ในอำนาจรัฐ หรือคนจะเขาไปในอำนาจรัฐ คนไทย พึงฟังและระลึกให้ได้ ต้องมีองค์กรตรวจสอบขึ้นมาเพื่อให้มาทำหน้าที่ที่หายไปจากระบบรัฐสภาไทย

"สำหรับข้อบกพร่องและจุดอ่อนต้องปรับเปลี่ยนตลอดเวลาขององค์กรอิสระ คือความเป็นอิสระมากเกินไปจนไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและไม่มีใครไปกระตุ้นเตือนได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่องค์กรอิสระทำงานช้าเหลือเกิน หรือทำน้อยมาก การเข้าไปหาเหตุไม่มีเลย เพราะความเป็นอิสระจนไม่ต้องทำอะไรเลย ขอให้มีสำนึกอย่างไรต่อสังคม และมีจิตสำนึกตามรัฐธรรมนูญ การไม่ทำอะไรเลย ต้องมีแก้ไขไปบังคับด้วยวิธีใด เพื่อให้องค์กรเหล่านี้ทำงาน"นายสุรพล กล่าว

นายสุรพลกล่าวต่อว่า นักกฎหมายชอบใช้ คำว่ารัฐธรรมนูญ 50 มาจากผลไม้พิษที่ต้นไม้เป็นพิษเพราะมาจากรัฐประหารปี49 แต่จริงๆแทบจะไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลยจากรัฐธรรมนูญ 40 และระบบรัฐสภาในปัจจุบันไม่ได้คาดหวังว่ าส.ส.จะทำได้ทุกเรื่อง แต่ให้มาทำเพียงสองเรื่องคือทำหน้าที่นิติบัญญัติและบริหารเท่านั้น ดังนั้นอย่าถูกนักการเมืิองหลอกในฐานะที่เรามีสติปัญญาและมีความหวังดีต่อชาติบ้านเมือง

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์
วันที่โพสต์: 2/03/2556 เวลา 03:32:40

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

เดลินิวส์ออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 10:49 น. ขอบคุณ http://www.dailynews.co.th/politics/187443 อดีต สนช.ชี้องค์กรอิสระ มีความจำเป็นต่อการเมืองไทยมาทำหน้าที่ที่หายไปจากระบบรัฐสภา ที่ไม่เคยขับไล่รัฐบาลที่อยากมีอำนาจมากและนักการเมืองทุจริตได้ เตือนคนไทยอย่าถูกนักการเมืองหลอก เพราะผู้มีอำนาจรัฐไม่ต้องการให้ใครมาคอยจับผิด นนี้ ( 28 ก.พ.) ที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ สถาบันพระปกเกล้า จัดสัมมนาเรื่อง "องค์กรตามรัฐธรรมนูญ จุดแข็งหรืิจุดอ่อนของประชาธิปไตยไทย " ภายใต้โครงการศึกษา"รัฐธรรมนูญที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย"โดยนายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ( สนช.) อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า หลายคนบอกว่าองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญทำให้ประเทศไทยหยุดชะงัก ซึ่งประกอบด้วย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปปช .) คณะกรรมการเลือกตั้ง( กกต .) ผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ในรัฐธรรมนูญปี 50 พบว่าได้เขียนให้อำนาจองค์กรต่างๆ ไว้ 4 ประเภท คณะรัฐมนตรี รัฐสภา ศาล และองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ทำให้ระบบการเมืองไทยมี 4 อำนาจจากที่เคยมีเพียง 3 อำนาจ "ถือว่ารัฐธรรมนูญ 50 เขียนแยกองค์กรอิสระไว้ชัดเจน จากการที่ระบบรัฐสภาไม่สามารถขับไล่นักการเมืองหรือรัฐบาลที่ไม่ปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญออกได้ การโหวตไม่ไว้วางใจเป็นเพียงประเพณีเท่านั้น ว่าตัวออกได้ด้วยการโหวต กลายเป็นเงื่อนไขที่ทั่วโลกประสบปัญหาจากรัฐสภาและฝ่ายบริหารในช่วง 200 ปีมานี้ ทำให้ระบบรัฐสภาเสียสมดุลอย่างสิ้นเชิง เพราะมีระบบพรรคการเมือง มาดูผลประโยชน์ในทางฐานะทางเศรษฐกิจ ตามท้องถิ่นนั้นๆที่ประชาชนเลือกเข้ามา เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งกี่ครั้ง ไม่ว่า ส.ส.คนนั้นๆมาจากภาครัฐใด จะรู้ได้ล่วงหน้าว่า ส.ส.คนนั้นจะต้องลงคะแนนตามมติพรรค การตัดสินใจหลักๆทางการเมืองจากพรรคการเมืองที่มีเสียงมาก ไม่ได้เกิดจากรัฐสภาอีกต่อไปแล้ว ซึ่งปรากฏการณ์ นี้ทำให้ รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทำให้เห็นว่าไม่มีพรรคใหญ่ๆหรือรัฐบาลใดที่แพ้โหวตในสภา การยุบสภาทุกครั้งในไทยเกิดจากความแตกแยกขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล สถานการณ์อย่างนี้ภาวะเสียสมดุลของระบบรัฐสภา เกิดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 ซึ่งระบบอย่างนี้ทำให้ ฮิตเลอร์ ได้ขึ้นเป็นผู้นำประเทศนำเยอรมันเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นตัวอย่างให้ประเทศต่างๆ ในยุโรป ไม่ปล่อยให้การเมืองเป็นเรื่องถ่วงดุลระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว เป็นตัวอย่างให้กับทั่วโลก. ต้องแก้ไขปรับเปลี่ยนรัฐธรรมนูญ ให้มีองค์กรอิสระ มาถ่วงดุล "นายสุรพล กล่าว อดีต สนช.กล่าวต่อว่าการร่างรัฐธรรมนูญไทยตั้งแต่ ปี 40 เกิดจากความคิดดังกล่าวว่ารัฐสภา ไม่มีวันไล่รัฐบาลออก เพราะคนยิ่งมีอำนาจก็อยากมีอำนาจมากกว่าเดิม ตั้งแต่รัฐธรรมนูญก่อนจะมีรัฐธรรมนูญ 40 ไม่มีใครคุมรัฐบาลได้เลย ได้แต่ฝากความหวังไว้ลมๆแล้งๆว่ารัฐบาลจะมาจากคนดี นายสุรพลกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีการจำคุก รมว.สาธารณสุข ถอดถอน รมว.มหาดไทยและจำคุกดดีตนายกรัฐมนตรี เรื่องเหล่านี้ไม่เคยมีมาก่อนในการเมืองไทยหลังจากเสียสมดุลไปแล้ว นี่คือประสิทธิผลจากรัฐธรรมนูญ 40 และมาปรับเปลี่ยนในสองประเด็นในรัฐธรรมนูญปี 50 จัดกลุ่มองค์กรอิสระให้ชัดเจน แยกหมวดชัดเจนจะมีบทบัญญัติให้อำนาจองค์กรตามรัฐธรรมนูญต่อจากรัฐสภาและคณะรัฐมนตรี ซึ่ง รัฐธรรมนูญ 50 ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากนัก เราคิดว่า 9 ปีของการใช้รัฐธรรมนูญ 40 มีองค์กรอิสะ และ 6 ปี ใช้ 50 ได้ขับเคลื่อนการเมืองไทยดีขึ้นไปหรือไม่ ยังคงจำเป็นมีองค์กรอิสระหรือไม่ ต้องมีข้อระวังเพราะขณะนี้บ้านเมืิองมีความขัดแย้ง คนไทยไม่อยากพูดเรื่องการเมือง คนที่พูดคือนักการเมืองที่มีอำนาจ สังคมไทยต้อง ตระหนักพื้นฐานข้อเท็จจริงว่าหน้าที่องค์กรอิสระ มีวัถตุประสงค์ตรวจสอบผู้มีอำนาจทางการเมืองเท่านั้น ดังนั้นไม่มีนักการเมืองคนใดชอบองค์กรอิสระ มีเงินอยู่บ้าน ใช้เงินซื้อเสียง ใช้อำนาจไม่เป็นธรรมกับคู่แข่ง ก็มีคนมาคอยตรวจสอบ ไม่มีใครชอบคนจ้องจับผิดเรา มาถอดออกจากตำแหน่ง เวลาฟังคนอยู่ในอำนาจรัฐ หรือคนจะเขาไปในอำนาจรัฐ คนไทย พึงฟังและระลึกให้ได้ ต้องมีองค์กรตรวจสอบขึ้นมาเพื่อให้มาทำหน้าที่ที่หายไปจากระบบรัฐสภาไทย "สำหรับข้อบกพร่องและจุดอ่อนต้องปรับเปลี่ยนตลอดเวลาขององค์กรอิสระ คือความเป็นอิสระมากเกินไปจนไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและไม่มีใครไปกระตุ้นเตือนได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่องค์กรอิสระทำงานช้าเหลือเกิน หรือทำน้อยมาก การเข้าไปหาเหตุไม่มีเลย เพราะความเป็นอิสระจนไม่ต้องทำอะไรเลย ขอให้มีสำนึกอย่างไรต่อสังคม และมีจิตสำนึกตามรัฐธรรมนูญ การไม่ทำอะไรเลย ต้องมีแก้ไขไปบังคับด้วยวิธีใด เพื่อให้องค์กรเหล่านี้ทำงาน"นายสุรพล กล่าว นายสุรพลกล่าวต่อว่า นักกฎหมายชอบใช้ คำว่ารัฐธรรมนูญ 50 มาจากผลไม้พิษที่ต้นไม้เป็นพิษเพราะมาจากรัฐประหารปี49 แต่จริงๆแทบจะไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลยจากรัฐธรรมนูญ 40 และระบบรัฐสภาในปัจจุบันไม่ได้คาดหวังว่ าส.ส.จะทำได้ทุกเรื่อง แต่ให้มาทำเพียงสองเรื่องคือทำหน้าที่นิติบัญญัติและบริหารเท่านั้น ดังนั้นอย่าถูกนักการเมืิองหลอกในฐานะที่เรามีสติปัญญาและมีความหวังดีต่อชาติบ้านเมือง

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...