ทำธุรกิจยุค 4.0 หวังขายอย่างเดียวอยู่ไม่รอด! ต้องดูแล “ลูกค้า” เติบโตไปด้วยกัน
เริ่มต้นธุรกิจครั้งแรกราวปี 2541 เมื่อครั้งหลังวิกฤต “ต้มยำกุ้ง” โดยปรับรูปแบบค้าขาย จากการสั่งโรงงานผลิตแล้วนำมาจำหน่ายต่อให้กับผู้ประกอบการเป็นล็อตใหญ่ เปลี่ยนมาเป็น “เท่าไหร่ก็ขาย” ให้กับพ่อค้าแม่ขายรายเล็ก-รายย่อย เหตุเพราะช่วงเวลานั้น มีหนุ่มสาวออฟฟิศจำต้อง “ตกงาน” จำนวนมาก ครั้นจะ “เปิดบิล” ขายให้แต่แบบขายส่ง หลายคนคงไม่มีทุนรอนพอจะมาซื้อเป็นแน่
และด้วยช่วงเวลานั้น รูปแบบการจำหน่ายดังว่ายังไม่มีใครทำมาก่อน ส่งผลให้ยอดจำหน่ายเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กระทั่งขึ้นแท่นเป็น “ขวัญใจ” เหล่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีน้อยใหญ่…มานับแต่นั้น
ปัจจุบัน บริษัท ยูนิแพค เซ็นเตอร์ จำกัด ผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์อาหาร, เครื่องดื่ม และเบเกอรี่ ประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง ได้เปิดร้านบรรจุภัณฑ์ PAK CENTER (แพค เซ็นเตอร์) บริการลูกค้า จำนวน 6 สาขา ครอบคลุมในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 5 สาขา คือ ศูนย์จำหน่ายวิภาวดีรังสิต 60, สาขาพาราไดซ์ พาร์ค ถนนศรีนครินทร์, สาขาดิ อเวนิว ถนนแจ้งวัฒนะ, สาขาเซียร์ รังสิต และสาขาแฮปปี้แลนด์เซ็นเตอร์ ถนนลาดพร้าว และให้บริการในเขตต่างจังหวัดอีก 1 สาขา ที่สาขาพัทยา-นาเกลือ จังหวัดชลบุรี
โดยร้านบรรจุภัณฑ์ PAK CENTER นั้น จำหน่ายสินค้าบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ทันสมัย รูปแบบหลากหลาย และมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมุ่งเน้นในการให้บริการที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า ภายใต้สโลแกน “สะดวก สบาย สนุก ทุกเวลาในการซื้อบรรจุภัณฑ์ ที่ ยูนิแพค เซ็นเตอร์”
ล่าสุดกิจการแห่งนี้ มีแนวคิดต้องการ “ต่อยอด” สร้างรายได้ ด้วยการเปิดคอร์สแบบลงมือทำจริง อบรมอาชีพน่าสนใจต่างๆ อย่าง การชงเครื่องดื่มอิตาเลียนโซดา การเปิดร้านกาแฟ การทำขนมเบเกอรี่ การทำอาหารจานเดียวดีลิเวอรี่ ฯลฯ ให้กับผู้สนใจทั่วไปและคู่ค้าน้อยใหญ่ทั้งหลาย
คุณสมัย (ซ้าย) ผู้บริหารยูนิแพค เซ็นเตอร์
คุณสมัย ศรีไพศาลเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิแพค เซ็นเตอร์ จำกัด เป็นตัวแทนผู้ให้ข้อมูลโครงการดีๆ ครั้งนี้ว่า ทุกวันนี้ตลาดผู้ค้าบรรจุภัณฑ์นั้นมีคู่แข่งหลายรายนับไม่ถ้วน จึงทำให้ต้องมีการปรับตัว ปรับรูปแบบการทำธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งสำคัญที่ยึดมาตลอด และทำให้ธุรกิจอยู่รอดมาได้ คือ การเป็นผู้ให้ ให้ลูกค้าอยู่ได้ด้วย ไม่ใช่คิดคาดหวังหรือคอยแต่ “จะเอา” แต่จากลูกค้า
“ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของกิจการจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แบบเรา คือ ผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อย ซึ่งถ้าพวกเขามีความมั่นคงแข็งแรงในอาชีพที่ทำ เขาก็จะกลับมาซื้อของจากเรา ฉะนั้น เราต้องดูแลลูกค้าให้เหมือนพ่อแม่ดูแลลูก คือ ทำให้พวกเขาเติบโตมีอนาคต ถ้าเรามีลูก 10 กว่าคน และลูกทุกคนมีรายได้ดี พ่อแม่สบายไม่เป็นภาระ ซึ่งก็เช่นเดียวกัน ถ้าเรามีลูกค้าที่เติบโตไป เขามาซื้อของเรา คนละนิดละหน่อยไม่ต้องเยอะ ธุรกิจเราอยู่ได้ดีแล้ว” คุณสมัย บอกจริงจัง
เหล่านี้นี่เอง คือที่มาของการเป็น “ผู้ให้” ในรูปแบบของความรู้ ที่ลูกค้าของ “ยูนิแพค เซ็นเตอร์” จะได้รับไป แบบแทบไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว
“เมื่อปลายปีที่แล้ว เปิดอบรมครั้งแรก วิชาเครื่องดื่มอิตาเลียนโซดา ให้กับลูกค้าที่สนใจราว 10 คน หลังจากนั้นไม่นานมีการบอกต่อ กระแสเรียกร้องให้เปิดคอร์สวิชาอื่นๆ จึงมีตามมา ล่าสุดห้องที่เคยใช้อบรมเริ่มคับแคบ เพราะคนสนใจกันมาก จึงลงทุนสร้างห้องอบรมให้ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับจำนวนคนและวิชาที่จะอบรมให้หลากหลายขึ้น” คุณสมัย เล่ามาอย่างนั้น
และนับแต่ต้นปีที่ผ่านมา ห้องอบรมที่กว้างขวางได้มาตรฐาน ได้ถูกใช้งานสำหรับการอบรมวิชาอาชีพให้กับผู้สนใจมาแล้วหลายร้อยชีวิต แบ่งเป็นคน 2 กลุ่มหลัก
กลุ่มแรก เป็นผู้ประกอบการรายเล็กๆ ที่ต้องการ “ความรู้ใหม่ๆ” ไปพัฒนาต่อยอดอาชีพที่ทำอยู่ และต้องการเมนูที่เป็น “ซิกเนเจอร์” ของตัวเองเพื่อไปแข่งขันกับผู้ประกอบการรายกลางและรายใหญ่ และ กลุ่มที่สอง คือ คนที่ยังไม่ได้เริ่ม แต่กำลังมองหาวิชาความรู้ด้านต่างๆ ไปประกอบการตัดสินใจว่าตัวเองชอบอะไร และจะลงทุนอย่างไรดี
“การอบรมอาชีพแบ่งออกเป็น 3 วิชา คือ เครื่องดื่ม อาหาร และเบเกอรี่ ทั้งนี้ จะมีการเชิญมืออาชีพจากแต่ละหมวดมาเป็นวิทยากรอบรม คอร์สหนึ่งรับได้ไม่เกิน 25 คน เป็นการอบรมครึ่งวันที่ได้ลงมือปฏิบัติจริง ใครยังไม่เข้าใจสามารถมาอบรมซ้ำได้ สำหรับค่าใช้จ่ายในการอบรมนั้น ส่วนใหญ่ไม่เก็บ แต่ถ้าเป็นคอร์สอาหาร อาจต้องขอเก็บบ้าง เพราะต้องมีการเตรียมอุปกรณ์หลายอย่าง แต่สุดท้ายจะคืนให้เป็นคูปองเงินสด สามารถนำไปใช้ลดราคาในการซื้อบรรจุภัณฑ์กับทางร้าน” คุณสมัย อธิบาย
และบอกด้วยว่า แนวคิดการสร้าง Knowledge Center ให้เกิดขึ้นครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของการทำธุรกิจในแบบของ “ยูนิแพค เซ็นเตอร์” ซึ่งจะไม่ใช่แค่ “ซื้อมา-ขายไป” แต่เป็นการให้ความรู้และพัฒนาให้ผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อย สามารถทำอาชีพให้ตลอดรอดฝั่งไปได้ในสังคมยุคปัจจุบัน
“ไทยแลนด์ 4.0 ผู้ประกอบการรายย่อยจะอยู่กันยังไง บางอย่างเทคโนโลยีไปไกลแล้วแต่ใช้ไม่ได้กับทุกธุรกิจ การไปพูดอะไรที่ล้ำเกินไปอาจยังห่างไกลชีวิตพวกเขาและถ้าคิดจะไปเชื่อมต่อกับโลกโซเชียล ที่ไม่หยุดนิ่ง ผู้ประกอบการคงต้องมีความแข็งแรงจากสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ก่อน เพราะถ้าคุณภาพสินค้ายังไม่ได้ ต่อให้เทคโนโลยีดียังไงก็คงไปต่อไม่ได้ ผมเชื่อว่าหากทุกหน่วยเล็กๆ ช่วยกันแบบนี้ ประเทศชาติคงไปรอด” คุณสมัย ฝากไว้อย่างนั้น
ผู้ประกอบการหรือใครที่กำลังมองหาอาชีพเสริม ต้องการเพิ่มเติมความรู้ด้านเครื่องดื่ม อาหาร และเบเกอรี่ กับทาง “ยูนิแพค เซ็นเตอร์”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-940-7577-9 Facebook/ UNIPAK CENTER และ https://www.unipakcentershop.com
ขอบคุณ... https://www.sentangsedtee.com/exclusive/article_45764