เปิดตัวผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอางจากหม่อน
นางสมหญิง ชูประยูร ผู้เชี่ยวชาญด้านส่งเสริมการผลิตและจัดการผลิตหม่อนไหม กรมหม่อนไหม เปิดเผยว่า จากการที่กรมหม่อนไหมและสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ร่วมดำเนินโครงการพัฒนาไฟโบรอินไฮโดรไลเสทและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
นางสมหญิง ชูประยูร ผู้เชี่ยวชาญด้านส่งเสริมการผลิตและจัดการผลิตหม่อนไหม กรมหม่อนไหม เปิดเผยว่า จากการที่กรมหม่อนไหมและสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ร่วมดำเนินโครงการพัฒนาไฟโบรอินไฮโดรไลเสทและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
ขณะนี้โครงการฯดังกล่าวได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนากระบวนการผลิตไฟโบรอินไฮโดรไลเสทจากไหมพันธุ์ไทยพื้นบ้านและพันธุ์ไทยลูกผสม ซึ่งได้ไฟโบรอินไฮโดรไลเสทสีขาวหม่น ไม่มีกลิ่น สามารถละลายน้ำได้ดี และมีสมบัติเทียบเท่ากับไฟโบรอินไฮโดรไลเสททางการค้า โดยได้จดอนุสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันยังพัฒนากระบวนการผลิตน้ำมันดักแด้ไหม ได้น้ำมันดักแด้ที่มีลักษณะใส สีเหลืองอ่อน มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสและมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ สามารถพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพื่อสุขภาพผิว จำนวน 4 ผลิตภัณฑ์
ได้แก่ โลชั่นบำรุงผิว ครีมบำรุงผิวหน้ากลางคืนหรือไนท์ครีม (Night Cream) ครีมบำรุงมือ และลิปกลอส ซึ่งได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว
ผลงานวิจัยนี้เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของกรมหม่อนไหม ที่ได้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางใหม่ที่มีส่วนประกอบของโปรตีนรังไหมและน้ำมันดักแด้ไหม 4 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นอาหารผิวช่วยบำรุงผิวพรรณและเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค ทั้งยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับรังไหม และเพิ่มความหลากหลายในการใช้ประโยชน์จากไหมนอกเหนือจากการผลิตเส้นไหม ผลิตภัณฑ์สิ่งทอและผ้าไหม คาดว่า สามารถที่จะพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น และขยายผลไปสู่เชิงพาณิชย์ได้ในอนาคต ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมรังสีเหลืองที่มีกว่า 95% ของเกษตรกรทั้งหมด รวมถึงกลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการภายในประเทศ ส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
“โลชั่นบำรุงผิว ไนท์ครีม ครีมบำรุงมือ และลิปกลอส ที่มีส่วนของไฟโบรอินไฮโดรไลเสทและน้ำมันดักแด้ไหม มีจุดเด่น คือ มีความสามารถในการดูดซับน้ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น บำรุงผิวพรรณให้นุ่มขึ้น เนียนเรียบ ชะลอการเกิดรอยเหี่ยวย่น ช่วยปรับสภาพผิวและลดปัญหาหมองคล้ำของผิวได้ ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากธรรมชาติและมีความปลอดภัย ซึ่งมีโอกาสทางการตลาดสูงทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากตรงกับความต้องการของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มหันมาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติมากขึ้น ทำให้อัตราการเติบโตของตลาดเครื่องสำอางประเภทนี้ยังขยายตัวได้อีกมาก ซึ่งมีช่องว่างในการเข้าไปทำการตลาดได้ ที่สำคัญผลงานวิจัยนี้ยังช่วยสร้างคุณค่าและมูลค่าให้กับวงการหม่อนไหมไทยได้อย่างชัดเจน” นางสมหญิงกล่าว
ด้าน นายสมภพ จงรวยทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม กรมหม่อนไหม หัวหน้าโครงการขยายผลเพื่อสำรวจและทดสอบตลาดของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากไฟโบรอินไฮโดรไลเสทและน้ำมันดักแด้ไหม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ได้สนับสนุนงบประมาณให้กรมหม่อนไหม ดำเนินโครงการขยายผลเพื่อสำรวจและทดสอบตลาดของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางฯดังกล่าว
ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์โลชั่นบำรุงผิว ครีมบำรุงผิวหน้ากลางคืน ครีมบำรุงมือ และลิปกลอสที่ผลิตจากไฟโบรอินไฮโดรไลเสทและน้ำมันดักแด้ไหมให้ได้รับการยอมรับมากขึ้น และมีการทดสอบตลาดพร้อมเตรียมแผนขยายผลส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอกชนนำไปผลิตในเชิงพาณิชย์ต่อไป
ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/agriculture/529413 (ขนาดไฟล์: 167)
ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 12 ต.ค.59
วันที่โพสต์: 12/10/2559 เวลา 09:33:47 
