เปิดธนาคารสินค้าเกษตรของสหกรณ์

เปิดธนาคารสินค้าเกษตรของสหกรณ์

ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการ ธนาคารสินค้าเกษตรของสหกรณ์ ณ สหกรณ์การเกษตรดอนเจดีย์ จำกัด จ.สุพรรณบุรี วันที่ 23 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายยกระดับการให้บริการของสหกรณ์มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น

ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการ ธนาคารสินค้าเกษตรของสหกรณ์ ณ สหกรณ์การเกษตรดอนเจดีย์ จำกัด จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา ว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนนโยบายธนาคารสินค้าเกษตรในสถาบันเกษตรกร

โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับการให้บริการของสหกรณ์มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยให้สหกรณ์เปิดบริการรับฝาก-ถอน ให้ยืมและแลกเปลี่ยนปัจจัยการผลิต การตลาด รวมทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อบริการแก่สมาชิก

ปัจจุบันได้มีการจัดตั้งแล้วจำนวน 5 ธนาคาร ประกอบด้วย ธนาคารปุ๋ยอินทรีย์ ธนาคารโคกระบือเพื่อเกษตรกร ธนาคารเมล็ดพันธ์ุข้าวชุมชน ธนาคารโคนมทดแทน และธนาคารข้าวในสถาบันเกษตรกร และอยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบเพิ่มอีก 2 ธนาคาร คือธนาคารหม่อนไหมและธนาคารประมง นอกจากนี้ยังได้มีการจัดทำแผนการจัดตั้งธนาคารสินค้าเกษตรในสหกรณ์เพิ่มเติมอีกจังหวัดละ 1 ธนาคาร ภายใต้โครงการ 1 จังหวัด 1 ธนาคารสินค้าเกษตร ซึ่งสหกรณ์การเกษตรดอนเจดีย์ จำกัด จังหวัดสุพรรณบุรี นับเป็นสหกรณ์นำร่องที่ได้เริ่มดําเนินงานตามแผนธนาคารข้าวในสถาบันเกษตรกรฯ โดยมุ่งหวังที่จะช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ที่ขาดแคลนปัจจัยการผลิตสำหรับการเพาะปลูกข้าว

“วันนี้เราได้เริ่มเปิดตัวธนาคารสินค้าเกษตรในสถาบันเกษตรกรที่สหกรณ์การเกษตรดอนเจดีย์ จำกัด จ.สุพรรณบุรี ได้มีการมอบปัจจัยการผลิตแก่สมาชิก เช่น เมล็ดพันธุ์ข้าว ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืชและอุปกรณ์การเกษตร โดยเกษตรกรสามารถเอาเมล็ดพันธุ์มาแลกกับปัจจัยการผลิต รวมถึงสินค้าเพื่ออุปโภคและบริโภคตามที่ต้องการได้ ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้อุดหนุนเรื่องโครงการสร้างเมล็ดพันธุ์ดีในสหกรณ์ และเครื่องจักรกลทางการเกษตรเพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรที่จะทำการเพาะปลูกในฤดูการผลิตปี 2559 นี้ ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องการให้สหกรณ์มีความเข้มแข็ง ช่วยสมาชิกลดต้นทุนการผลิต สามารถเข้าถึงปัจจัยการผลิตและเมล็ดพันธุ์ดีที่มีคุณภาพ ภายใต้แนวทางการให้เกษตรกรได้มีการดูแลซึ่งกันและกัน และส่งเสริมสหกรณ์เป็นที่พึ่งให้กับเกษตรกรในการเริ่มต้นการทำการผลิตฤดูกาลนี้” ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว

ทางด้านนางสุมาลย์ เนตรสว่าง ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรดอนเจดีย์ จำกัด เปิดเผยว่า สหกรณ์การเกษตรดอนเจดีย์ จำกัด เห็นว่าโครงการนี้สามารถช่วยเหลือสมาชิกที่ขาดแคลนปัจจัยการผลิตสำหรับเพาะปลูกข้าว โดยไม่ต้องไปขอกู้เงินจากแหล่งเงินทุนภายนอกที่ต้องเสียอัตราดอกเบี้ยสูง นับเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร สำหรับแนวทางการดำเนินงานนั้น ทางคณะกรรมการดำเนินการโครงการสหกรณ์ ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์และชี้แจงให้สมาชิกทุกคนทราบในการประชุมกลุ่มตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา มีเกษตรกรสมาชิกสมัครใจเข้าร่วมโครงการแล้ว จำนวน 110 ราย มีพื้นที่ปลูกข้าวรวม จำนวน 2,744 ไร่

“สหกรณ์ได้สนับสนุนให้สมาชิกกู้ยืมปัจจัยการผลิต ตั้งแต่น้ำมันเชื้อเพลิง ใช้กับเครื่องจักรกลในการเตรียมดิน เมล็ดพันธุ์ข้าวดีสำหรับให้สมาชิกปลูก ปุ๋ยเพื่อบำรุงดินและพืช ยาปราบศัตรูพืช ไปจนถึงข้าวสารและสินค้าอุปโภค บริโภค โดยไม่คิดดอกเบี้ย เป็นเวลา 150 วัน และเมื่อถึงกำหนดเก็บเกี่ยวผลผลิต สหกรณ์จะมีรถบริการเกี่ยวข้าวให้กับสมาชิก โดยจะคิดค่าบริการต่ำกว่าทั่วไปไร่ละ 100 บาท เมื่อสมาชิกรวบรวมผลผลิตข้าวแล้วจะนำมาขายให้สหกรณ์ และส่งคืนค่าปัจจัยการผลิตตามจำนวนที่ยืม ส่วนเงินที่เหลือจะฝากไว้ตามโครงการกับธนาคารข้าว เป็นเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ อัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 1 ในระยะเวลา 90 วัน ซึ่งเงินฝากดังกล่าวจะเตรียมไว้สำหรับจัดหาปัจจัยการผลิตในฤดูต่อไป” ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรดอนเจดีย์ จำกัด กล่าว

ขณะนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ลงพื้นที่เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงาน ตั้งแต่ระดับตำบล และระดับอำเภอ หากสหกรณ์การเกษตรหรือเกษตรกรสนใจจะเข้าร่วมโครงการ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศ.

ขอบคุณ http://www.dailynews.co.th/agriculture/510078 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 21 ก.ค.59
วันที่โพสต์: 21/07/2559 เวลา 11:14:44 ดูภาพสไลด์โชว์ เปิดธนาคารสินค้าเกษตรของสหกรณ์