เร่งสร้างความเข้มแข็ง ให้เกษตรกรและสหกรณ์โคนม

เร่งสร้างความเข้มแข็ง ให้เกษตรกรและสหกรณ์โคนม

พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิด เผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจราชการสหกรณ์โคนมไทยมิลค์ อ.มวกเหล็ก ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญในการพัฒนาอาชีพการเลี้ยงโคนม ซึ่งเป็นอาชีพพระราชทาน

พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิด เผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจราชการสหกรณ์โคนมไทยมิลค์ อ.มวกเหล็ก ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญในการพัฒนาอาชีพการเลี้ยงโคนม ซึ่งเป็นอาชีพพระราชทาน

โดยสนับสนุนและสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร ผู้เลี้ยงโคนมและสหกรณ์ให้สามารถดำเนินธุรกิจโคนมอย่างยั่งยืน โดยการปรับโครงสร้างการผลิตสินค้าเกษตร และการลดต้นทุนการผลิต จึงได้ดำเนิน “โครงการเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิตน้ำนมโคครบวงจร ระยะที่ 1” ขึ้น ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิ กรมปศุสัตว์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ และองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อสค.) รวมทั้ง ธ.ก.ส. เพื่อพัฒนาอาชีพโคนมให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ สหกรณ์ยังได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทย และจังหวัดสระบุรีด้วย ซึ่งสหกรณ์โคนมไทยมิลค์ จำกัด เป็น 1 ใน 3 สหกรณ์ต้นแบบที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวนี้และมีผลสัมฤทธิ์จาก การดำเนินงานตามเป้าหมายการปรับโครงสร้างการผลิตและลดต้นทุนการผลิตน้ำนมโคของเกษตรกร

ทางด้าน นสพ.อยุทธ์ หรินทรานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า การดำเนินโครง การอยู่ภายใต้กิจกรรมหลัก 5 กิจกรรม

คือ 1. การปรับปรุงโครงการฟาร์มโคนมของเกษตรกร มีการติดตั้งระบบรีดนม และระบบถังเก็บนมพร้อมเครื่องทำความเย็น เพื่อพัฒนาคุณภาพการผลิตน้ำนมโคตามมาตรฐานฟาร์มโคนม (GAP) 2. การจัดตั้งศูนย์ผลิตอาหารโคนม และการทำแปลงหญ้าขนาดใหญ่ โดยสหกรณ์ผลิตอาหาร TMR (Total Mix Ration) และจัดส่งถึงฟาร์มของเกษตรโดยตรง เป็นการเพิ่มปริมาณและคุณภาพการผลิตน้ำนมโค และลดต้นทุนการผลิต 3. การจัดฟาร์มโคสาวทดแทนรวมของสหกรณ์ โดยเกษตรกรส่งลูกโคหย่านมมาเลี้ยงรวมกันที่ฟาร์มโคสาวทดแทนสหกรณ์ เพื่อลดต้นทุนการเลี้ยงลูกโค ที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ปี 4. การปรับปรุงการขนส่งน้ำนมดิบเพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์ โดยสหกรณ์จะดำเนินการรับน้ำนมดิบถึงหน้าฟาร์มของเกษตรกร ทุก 2-3 วัน จากเดิมที่ต้องส่งนมที่สหกรณ์เอง และ 5. จัดตั้งหน่วยพัฒนาสุขภาพและผลผลิตโคนม ระหว่างหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับสหกรณ์ เพื่อให้บริการดูแลสุขภาพของโคนมของเกษตรกร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของน้ำนมดิบให้มีมาตรฐานสากล

ด้าน นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า การส่งเสริมการเลี้ยงโคนมเพื่อผลิตน้ำนมดิบนี้จะส่งเสริมผ่านระบบสหกรณ์ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บรักษาน้ำนมดิบ และลดต้นทุนการขนส่งผลผลิต จะส่งเสริมผ่านระบบสหกรณ์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บรักษาคุณภาพน้ำนมดิบ และลดต้นทุนการ ขนส่งผลผลิต ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยแก้ไขปัญหาการเลี้ยงโคนมของเกษตรกรให้สามารถขายน้ำนมดิบได้ในราคาที่ดีขึ้น เกษตรกรสามารถประกอบอาชีพสานต่ออาชีพพระราชทานได้อย่างยั่งยืน

การดำเนินการผ่านระบบสหกรณ์ จะทำให้เกษตรกรได้รวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมของเกษตรกรที่ประกอบอาชีพอย่างเดียวกัน ซึ่งมีสหกรณ์โคนมมากกว่า 20 แห่ง สนใจที่จะขอเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ในระยะที่ 2

โดยรัฐบาลสนับสนุนเงินกู้ ผ่าน ธ.ก.ส. และหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมปศุสัตว์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ และ อสค. ให้การสนับสนุนเกษตรกรและสหกรณ์ในด้านเทคนิควิชาการการเลี้ยงโคนมและบริหารจัดการธุรกิจสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป

ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/agriculture/507335 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: sanook.com /มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 7 ก.ค.59
วันที่โพสต์: 7/07/2559 เวลา 09:14:50 ดูภาพสไลด์โชว์ เร่งสร้างความเข้มแข็ง ให้เกษตรกรและสหกรณ์โคนม