สำรวจตลาด 3 เมืองใหญ่ในจีน สำหรับข้าวคุณภาพพิเศษเพื่อตลาดเฉพาะ

ประเทศไทยนับเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการผลิตข้าว ด้วยมีจุดแข็งที่มีความหลากหลายทางพันธุกรรมข้าว เช่น ข้าวหอม ข้าวขาว และข้าวที่มีคุณภาพพิเศษ

แต่ด้วยสภาพปัญหาราคาข้าวที่ขึ้นอยู่กับพ่อค้าคนกลางเป็นผู้กำหนดราคา และผันแปรตามสถานการณ์ของตลาดข้าวโลก ในขณะที่ชาวนามีต้นทุนการผลิตข้าวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปัจจัยต้นทุนการผลิต และมีความเสี่ยงด้านภัยธรรมชาติ ทั้งน้ำท่วม ฝนแล้ง เนื่องจากพื้นที่นาอีกจำนวนไม่น้อยอยู่นอกเขตชลประทาน ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวหันมาให้ความสนใจในการผลิตข้าวที่มีคุณภาพพิเศษเพื่อตลาดเฉพาะเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวอินทรีย์ ข้าวพื้นเมืองที่มีเอกลักษณ์บ่งชี้ทางภูมิศาตร์ GI ข้าวที่มีโภชนาการสูง และข้าว Q

โดยเน้นคุณภาพผลผลิตมากกว่าปริมาณ ด้วยกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐาน ทำให้ผลผลิตที่ได้นั้นมีราคาสูงกว่าข้าวทั่วไปเฉลี่ย 20% ในขณะที่ข้าว GI นั้นมีมูลค่าสูงกว่าข้าวสารปกติ 100% ปัจจุบันนี้มีผลผลิตข้าวคุณภาพพิเศษเพื่อตลาดเฉพาะไม่น้อยกว่า 60,000 ตันต่อปี

ดร.กฤษณพงศ์ ศรีพงษ์พันธุ์กุล โฆษกกรมการข้าว เปิดเผยว่า กรมการข้าวซึ่งมีบทบาทในการส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาผลิตข้าวคุณภาพพิเศษเพื่อตลาดเฉพาะ ควบคู่กับส่งเสริมการเชื่อมโยงตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ เพื่อให้เกษตรกรที่ผลิตข้าวคุณภาพได้รับผลประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วย จากการเป็นผู้กำหนดราคาข้าว และลดขั้นตอนของพ่อค้าคนกลางให้มาเชื่อมโยงตลาดเอง จึงมองเห็นศักยภาพของตลาดข้าวในประเทศจีนซึ่งเป็นคู่ค้าที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอาเซียน

โดยที่ผ่านมาได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตร เมื่อปี พ.ศ. 2558 ซึ่งทางการจีนได้แสดงเจตจำนงในการซื้อสินค้าเกษตรของไทย โดยเฉพาะข้าว และยาง

พารา รวมทั้งจะเพิ่มปริมาณสินค้าเกษตรอื่น ๆ จากไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อ

การพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศและเศรษฐกิจของภูมิภาคในระยะยาว และจะทำให้ประเทศไทยมีโอกาสมากขึ้นในตลาดผลิตภัณฑ์การเกษตร โดยเฉพาะข้าวที่มีคุณภาพพิเศษเพื่อตลาดเฉพาะ (Niche Market)

ดังนั้น กรมการข้าวจึงทำการสำรวจข้อมูลตลาดข้าวคุณภาพพิเศษเพื่อตลาดเฉพาะในสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเพิ่มโอกาสของสินค้าข้าวไทยในระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน–5 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 โดยพบปะผู้ประกอบการจากบริษัทนำเข้าข้าวในนครกว่างโจว ซึ่งจะมีการหารือถึงแนวทางความร่วมมือการนำเข้าข้าวที่มีคุณภาพ พร้อมสำรวจภัตตาคาร ร้านอาหารไทย และผู้บริโภคในนครกว่างโจว และเข้าร่วมงาน International Food Exhibition and Guangzhou Import Food Exhibition 2016 เพื่อสำรวจผู้บริโภคและร้านอาหาร ซึ่งจัดขึ้น ณ นครกว่างโจวด้วย

จากนั้นไปพบกับผู้ประกอบการตลาดค้าปลีกสมัยใหม่ และผู้ประกอบการตลาดค้าส่ง และบริษัทกระจายสินค้า ณ เมืองเซินเจิ้น พร้อมสำรวจภัตตาคาร ร้านอาหารไทย และผู้บริโภคในเมืองเซินเจิ้น และพบปะผู้ประกอบการจากบริษัทนำเข้าข้าวในนครหนานหนิง เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือการนำเข้าข้าวที่มีคุณภาพพบผู้ประกอบการตลาดค้าปลีกสมัยใหม่ ผู้ประกอบการตลาดค้าส่ง และบริษัทกระจายสินค้าด้วย

ทั้งนี้เพื่อผลักดันและเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการตลาดสินค้าข้าวเฉพาะให้แพร่หลายและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคในต่างประเทศ อันจะทำให้สามารถจำหน่ายสินค้าได้อย่างกว้างขวางและเพิ่มปริมาณมากขึ้น

“ข้อมูลในการสำรวจตลาดครั้งนี้จะเอื้อต่อการกำหนดทิศทางในการส่งเสริมและสนับสนุนการเพาะปลูกข้าวตลาดเฉพาะให้กับเกษตรกรไทยจากกรมการข้าวได้อย่างเป็นรูปธรรม และมีทิศทางที่สามารถมองเห็นอนาคตได้เป็นอย่างดี” โฆษกกรมการข้าวกล่าว

ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/agriculture/505379 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 28 มิ.ย.59
วันที่โพสต์: 28/06/2559 เวลา 09:47:16