ดูอบรมหลังกำแพงสูง‘โอกาสอาชีพ’รหัสล็อก‘กันผิดซ้ำ’
ดูอบรมหลังกำแพงสูง‘โอกาสอาชีพ’รหัสล็อก‘กันผิดซ้ำ’
วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2556 เวลา 00:00 น.
ประเทศไทยในปัจจุบันมีจำนวน ผู้ต้องขัง รวมราว 260,000 คน และมีอัตราที่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยคดียาเสพติด ต้องโทษซ้ำคดียาเสพติด กำลังเป็นปัญหาใหญ่ กระทบต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ และเรื่องผู้ต้องขังในภาพรวมก็ยังมีกรณีต่อเนื่องคือ ไม่ได้รับการยอมรับกลับสู่สังคมเมื่อพ้นโทษ โดยเฉพาะกับการเข้าสู่การจ้างงานในสถานประกอบการต่าง ๆ ซึ่งการว่างงานของคนกลุ่มนี้ก็ส่งผลให้เกิดปัญหาวนเวียนซ้ำ ๆ
กับการจะทำอาชีพอะไร...ก็มักจะมีปัญหา
เพราะ...ส่วนใหญ่จัดการเรื่องเงินได้ไม่ดี!!!
ทั้งนี้ มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุว่าปัญหาว่างงานหลังพ้นโทษจนเกิดปัญหาวนเวียนนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการ ขาดความรู้ทางการเงิน ทำให้ไม่สามารถตั้งเป้าหมายการลงทุนทำอาชีพ การออม และการจัดการหนี้สิน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการจัดกิจกรรม “อบรมความรู้ทางการเงินให้กับผู้ต้องขังหญิง” กลุ่มหนึ่ง กิจกรรมนี้ก็น่าจะมีส่วนช่วยให้ผู้ต้องขังหญิงที่พ้นโทษที่ได้รับการอบรม มีโอกาสมีที่ยืนทางอาชีพในสังคมได้เพิ่มขึ้น ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวนี้เกิดขึ้นสืบเนื่องจากโครงการ “ผู้หญิงฉลาดออม ฉลาดใช้ (Financial Literacy Training)” ที่เริ่มมีตั้งแต่ปี 2551 โดยความร่วมมือระหว่างสถาบันคีนันแห่งเอเชีย กับมูลนิธิซิตี้ ประเทศไทย
กลุ่มเป้าหมายโครงการนี้คือผู้หญิงกลุ่มที่มีความเสี่ยงด้านรายได้และอาชีพ อาทิ ผู้หญิงในชุมชนแออัด ผู้หญิงทำงานกลางคืน รวมถึงผู้ต้องขังหญิง ดำเนินการโดยความร่วมมือกับฝ่ายต่าง ๆ เช่น ศูนย์พัฒนาและบริการคลองเตย มูลนิธิดวงประทีป ไนต์คลับซอยคาวบอย สำนักคุ้มครองสวัสดิภาพหญิงและเด็ก กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม โดยอบรมให้ผู้หญิงแล้วกว่า 1,000 คน
ในส่วนของผู้ต้องขังหญิงนั้น หัสญา หาสิตะพันธุ์ รองผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร ธนาคารซิตี้แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุว่า... โครงการนี้ได้ร่วมกับทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิงตั้งแต่ปี 2554 โดยปี 2554 และ 2555 มีการอบรมปีละ 4 รุ่น มีจำนวนผู้ร่วมอบรม 301 คน และ 249 คน ตามลำดับ โดย เนื้อหาที่อบรมก็มีเรื่องการตั้งเป้าหมายในชีวิต การออมเงิน การจัดการค่าใช้จ่าย การลงบัญชี ในขณะที่ปี 2556 มีการอบรมแล้ว 2 รุ่น ๆ ละ 80 คน โดยที่มีการเพิ่มเนื้อหาในเรื่อง การทำธุรกิจ หลักสูตรผู้ประกอบการ ด้วย
การสร้างรายรับ การลงทุน การทำแผนธุรกิจ แผนบริหาร แผนการเงิน ...นี่ก็เป็นสิ่งที่ผู้อบรมจะได้เรียนรู้เช่นกัน ตามคำบอกเล่าของ 2 วิทยากร คือ อัชวัต ชุณหกสิการ และ วิวัฒน์ ชุติวณิชยกุล ซึ่งผู้อบรมจะระดมความคิดเห็นกัน ส่วนวิทยากรจะทำหน้าที่คอยแนะนำและให้ข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อผู้เข้าอบรมมีข้อสงสัย
เมื่อ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ได้ส่งทีมเข้าสังเกตการณ์การอบรมให้ผู้ต้องขังหญิง ซึ่งในวันนั้นก็มี ดร.สายสวรรค์ วัฒนพานิช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาโครงการ สถาบัน
คีนันฯ อยู่ด้วย โดยผู้เข้าอบรมต่างก็มีความตั้งใจ มีการซักถามข้อสงสัยจากวิทยากร เพื่อที่จะเขียนแผนธุรกิจของตัวเองให้ได้ แต่ละคนมีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำธุรกิจอย่างจริงจัง ซึ่งก็สะท้อนได้ชัดถึงการอยากคืนสู่สังคมปกติ
ยอมรับคนกลุ่มนี้...เป็นสิ่งที่สังคมควรให้โอกาส
“หลังจากอบรมทำให้รู้ว่าในอดีตที่เงินไม่พอใช้มาจากไม่ประหยัด ฟุ่มเฟือย หลังอบรมแล้วทำให้มีเงินเหลือจากที่ญาติส่งมาให้ใช้เดือนละ 300-400 บาท พอมีเงินเก็บได้ ก็ทำให้มีความหวัง มีกำลังใจ เมื่อพ้นโทษไป ก็อยากจะทำธุรกิจเล็ก ๆ สักอย่าง” ...เป็นเสียงของผู้ต้องขังหญิงรายหนึ่ง ขณะที่ผู้เคยเข้าอบรมอีก
รายบอกว่า...
“ได้รับความรู้หลายเรื่องจากการอบรม โดยเฉพาะการออม การรู้จักทำบัญชีออม ทำรายรับ-รายจ่าย อยู่ที่นี่มีรายรับจากเงินที่ญาติส่งมาให้ทุกเดือน และรายได้จากการเย็บผ้า ตอนนี้มีบัญชีฝากกับธนาคาร มีเงินเก็บ ต่างจากสมัยก่อนที่ไม่เคยออมเงิน ใช้เงินแบบไม่ค่อยคิดเหมือนเงินหามาง่าย เมื่อมีเงินออมแล้ว พอพ้นโทษไปก็จะได้มีเงินไปลงทุนทำอาชีพส่วนตัวต่อไปในอนาคต ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร แต่คิดว่าจะต้องทำแน่ ๆ”
ทั้งนี้ นอกเหนือจากที่ว่ามาแล้ว กับเสียงของ ฑิฆัมพร วิเชียรเชื้อ ผู้อำนวยการทัณฑสถานบําบัดพิเศษหญิง ก็เป็นเสียงที่สังคมควรรับรู้-รับฟัง นั่นคือ... ผู้ต้องขังในทัณฑสถานนี้จะได้รับการฝึก มีการอบรมต่าง ๆ ทั้งให้เรียนหนังสือ อบรมคุณธรรมจริยธรรม มารยาท รวมถึงการฝึกอาชีพ แต่แม้จะมีความรู้ ความสามารถ ทักษะอาชีพ ก็ยังไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากสังคม ผู้ประกอบการยังไม่ค่อยจะยอมจ้างงานผู้ต้องขังที่พ้นโทษ ทำให้ส่วนหนึ่งขาดโอกาสที่จะมีอาชีพสุจริต ทำให้ต้องเข้าสู่วงจรเดิม ๆ กระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ’อยากวิงวอนขอโอกาสอาชีพแก่ผู้ต้องขังที่พ้นโทษออกไปด้วย ซึ่งท่านก็จะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือสังคม“
’โอกาส“ นี่ดูจะเป็นหนึ่งในกุญแจดอกสำคัญ
เป็นกุญแจช่วยล็อกประตู ’กันการเดินผิดซ้ำ“
ที่สังคมนอกทัณฑสถานน่าจะ ’มีให้“ เยอะ ๆ.
ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/article/223/223393 (ขนาดไฟล์: 167)
เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3 ส.ค.56
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ดูอบรมหลังกำแพงสูง‘โอกาสอาชีพ’รหัสล็อก‘กันผิดซ้ำ’ ดูอบรมหลังกำแพงสูง‘โอกาสอาชีพ’รหัสล็อก‘กันผิดซ้ำ’ วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2556 เวลา 00:00 น. ประเทศไทยในปัจจุบันมีจำนวน ผู้ต้องขัง รวมราว 260,000 คน และมีอัตราที่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยคดียาเสพติด ต้องโทษซ้ำคดียาเสพติด กำลังเป็นปัญหาใหญ่ กระทบต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ และเรื่องผู้ต้องขังในภาพรวมก็ยังมีกรณีต่อเนื่องคือ ไม่ได้รับการยอมรับกลับสู่สังคมเมื่อพ้นโทษ โดยเฉพาะกับการเข้าสู่การจ้างงานในสถานประกอบการต่าง ๆ ซึ่งการว่างงานของคนกลุ่มนี้ก็ส่งผลให้เกิดปัญหาวนเวียนซ้ำ ๆ กับการจะทำอาชีพอะไร...ก็มักจะมีปัญหา เพราะ...ส่วนใหญ่จัดการเรื่องเงินได้ไม่ดี!!! ทั้งนี้ มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุว่าปัญหาว่างงานหลังพ้นโทษจนเกิดปัญหาวนเวียนนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการ ขาดความรู้ทางการเงิน ทำให้ไม่สามารถตั้งเป้าหมายการลงทุนทำอาชีพ การออม และการจัดการหนี้สิน อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการจัดกิจกรรม “อบรมความรู้ทางการเงินให้กับผู้ต้องขังหญิง” กลุ่มหนึ่ง กิจกรรมนี้ก็น่าจะมีส่วนช่วยให้ผู้ต้องขังหญิงที่พ้นโทษที่ได้รับการอบรม มีโอกาสมีที่ยืนทางอาชีพในสังคมได้เพิ่มขึ้น ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวนี้เกิดขึ้นสืบเนื่องจากโครงการ “ผู้หญิงฉลาดออม ฉลาดใช้ (Financial Literacy Training)” ที่เริ่มมีตั้งแต่ปี 2551 โดยความร่วมมือระหว่างสถาบันคีนันแห่งเอเชีย กับมูลนิธิซิตี้ ประเทศไทย กลุ่มเป้าหมายโครงการนี้คือผู้หญิงกลุ่มที่มีความเสี่ยงด้านรายได้และอาชีพ อาทิ ผู้หญิงในชุมชนแออัด ผู้หญิงทำงานกลางคืน รวมถึงผู้ต้องขังหญิง ดำเนินการโดยความร่วมมือกับฝ่ายต่าง ๆ เช่น ศูนย์พัฒนาและบริการคลองเตย มูลนิธิดวงประทีป ไนต์คลับซอยคาวบอย สำนักคุ้มครองสวัสดิภาพหญิงและเด็ก กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม โดยอบรมให้ผู้หญิงแล้วกว่า 1,000 คน ในส่วนของผู้ต้องขังหญิงนั้น หัสญา หาสิตะพันธุ์ รองผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร ธนาคารซิตี้แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุว่า... โครงการนี้ได้ร่วมกับทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิงตั้งแต่ปี 2554 โดยปี 2554 และ 2555 มีการอบรมปีละ 4 รุ่น มีจำนวนผู้ร่วมอบรม 301 คน และ 249 คน ตามลำดับ โดย เนื้อหาที่อบรมก็มีเรื่องการตั้งเป้าหมายในชีวิต การออมเงิน การจัดการค่าใช้จ่าย การลงบัญชี ในขณะที่ปี 2556 มีการอบรมแล้ว 2 รุ่น ๆ ละ 80 คน โดยที่มีการเพิ่มเนื้อหาในเรื่อง การทำธุรกิจ หลักสูตรผู้ประกอบการ ด้วย การสร้างรายรับ การลงทุน การทำแผนธุรกิจ แผนบริหาร แผนการเงิน ...นี่ก็เป็นสิ่งที่ผู้อบรมจะได้เรียนรู้เช่นกัน ตามคำบอกเล่าของ 2 วิทยากร คือ อัชวัต ชุณหกสิการ และ วิวัฒน์ ชุติวณิชยกุล ซึ่งผู้อบรมจะระดมความคิดเห็นกัน ส่วนวิทยากรจะทำหน้าที่คอยแนะนำและให้ข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อผู้เข้าอบรมมีข้อสงสัย เมื่อ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ได้ส่งทีมเข้าสังเกตการณ์การอบรมให้ผู้ต้องขังหญิง ซึ่งในวันนั้นก็มี ดร.สายสวรรค์ วัฒนพานิช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาโครงการ สถาบัน คีนันฯ อยู่ด้วย โดยผู้เข้าอบรมต่างก็มีความตั้งใจ มีการซักถามข้อสงสัยจากวิทยากร เพื่อที่จะเขียนแผนธุรกิจของตัวเองให้ได้ แต่ละคนมีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำธุรกิจอย่างจริงจัง ซึ่งก็สะท้อนได้ชัดถึงการอยากคืนสู่สังคมปกติ ยอมรับคนกลุ่มนี้...เป็นสิ่งที่สังคมควรให้โอกาส “หลังจากอบรมทำให้รู้ว่าในอดีตที่เงินไม่พอใช้มาจากไม่ประหยัด ฟุ่มเฟือย หลังอบรมแล้วทำให้มีเงินเหลือจากที่ญาติส่งมาให้ใช้เดือนละ 300-400 บาท พอมีเงินเก็บได้ ก็ทำให้มีความหวัง มีกำลังใจ เมื่อพ้นโทษไป ก็อยากจะทำธุรกิจเล็ก ๆ สักอย่าง” ...เป็นเสียงของผู้ต้องขังหญิงรายหนึ่ง ขณะที่ผู้เคยเข้าอบรมอีก รายบอกว่า... “ได้รับความรู้หลายเรื่องจากการอบรม โดยเฉพาะการออม การรู้จักทำบัญชีออม ทำรายรับ-รายจ่าย อยู่ที่นี่มีรายรับจากเงินที่ญาติส่งมาให้ทุกเดือน และรายได้จากการเย็บผ้า ตอนนี้มีบัญชีฝากกับธนาคาร มีเงินเก็บ ต่างจากสมัยก่อนที่ไม่เคยออมเงิน ใช้เงินแบบไม่ค่อยคิดเหมือนเงินหามาง่าย เมื่อมีเงินออมแล้ว พอพ้นโทษไปก็จะได้มีเงินไปลงทุนทำอาชีพส่วนตัวต่อไปในอนาคต ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร แต่คิดว่าจะต้องทำแน่ ๆ” ทั้งนี้ นอกเหนือจากที่ว่ามาแล้ว กับเสียงของ ฑิฆัมพร วิเชียรเชื้อ ผู้อำนวยการทัณฑสถานบําบัดพิเศษหญิง ก็เป็นเสียงที่สังคมควรรับรู้-รับฟัง นั่นคือ... ผู้ต้องขังในทัณฑสถานนี้จะได้รับการฝึก มีการอบรมต่าง ๆ ทั้งให้เรียนหนังสือ อบรมคุณธรรมจริยธรรม มารยาท รวมถึงการฝึกอาชีพ แต่แม้จะมีความรู้ ความสามารถ ทักษะอาชีพ ก็ยังไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากสังคม ผู้ประกอบการยังไม่ค่อยจะยอมจ้างงานผู้ต้องขังที่พ้นโทษ ทำให้ส่วนหนึ่งขาดโอกาสที่จะมีอาชีพสุจริต ทำให้ต้องเข้าสู่วงจรเดิม ๆ กระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ’อยากวิงวอนขอโอกาสอาชีพแก่ผู้ต้องขังที่พ้นโทษออกไปด้วย ซึ่งท่านก็จะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือสังคม“ ’โอกาส“ นี่ดูจะเป็นหนึ่งในกุญแจดอกสำคัญ เป็นกุญแจช่วยล็อกประตู ’กันการเดินผิดซ้ำ“ ที่สังคมนอกทัณฑสถานน่าจะ ’มีให้“ เยอะ ๆ. ขอบคุณ...http://www.dailynews.co.th/article/223/223393 เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)