จ่อแฉ 20 นักธุรกิจดังอยู่เบื้องหลัง 'โล้นคำ'

แสดงความคิดเห็น

นายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ ประธานสำนักพุทธชยันตี มอบทนายฟ้องแพ่ง บ.บริหารสินทรัพย์กรุงศรีฯ เรียกค่าเสียหาย 2.5 ล้านบาท กรณีลวงขายที่ดิน 55 ล้านบาท เสนอวางมัดจำ 5 แสนบาท อ้างสนิทอดีตเณรคำช่วยเจรจาจ่ายยอดที่เหลือ ด้านทนายเตรียมแฉรายชื่อ 20 นักธุรกิจดังลอตสุดท้าย อยู่เบื้องหลังอดีตเณรคำ ...

ที่ศาลแพ่ง กรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 ก.ค. พระธีรธนัชณฤทธา เสาวภาค์โชติรส ประธานสำนักปฏิบัติธรรมพุทธชยันตี มอบอำนาจให้ นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายรวมพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ในฐานะทนายความ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องบริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงศรีอยุธยา จำกัด เป็นจำเลย เรื่องละเมิด ทำให้เสียหาย กรณีถูกลวงให้ซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างซึ่งมีการวางเงินมัดจำไปแล้ว 5 แสนบาท และได้ดำเนินการปรับปรุงก่อสร้างสาธารณูปโภค มูลค่า 2 ล้านบาท จึงขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายทั้งสิ้น 2.5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี

โดยโจทก์ยื่นฟ้องระบุว่า เมื่อประมาณต้นปี 2555 พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลย ได้มาเสนอขายที่ดินโฉนดเลขที่ 8342, 33685, 8340-41, 35673-80 ถ.พุทธมณฑลสาย 3 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตตลิ่งชัน กทม. เนื้อที่ 14 ไร่ 22 ตารางวา พร้อมสิ่งปลูกสร้างร้างในราคา 55,000,000 บาท ให้โจทก์ที่กำลังปฏิบัติธรรมโดยปักกลดธุดงค์บริเวณใกล้เคียงกับที่ดินดัง กล่าว แต่เนื่องจากโจทก์ไม่มีเงิน พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยจึงได้อ้างว่ามีความสนิทสนมพิเศษกับ นายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ โดยนายวิรพล สามารถออกเงินซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้ได้ แต่ขอให้โจทก์หาเงินมาวางเพื่อมัดจำ 500,000 บาท กระทั่งวันที่ 29 พ.ค.55 โจทก์ มอบให้นางสมศรี รัตนประภาศชลา และนางนงนุช มลศิริ ซึ่งเป็นโยมอุปถัมภ์ เป็นตัวแทนลงชื่อในเอกสารสัญญาขอเสนอซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลย พร้อมทั้งชำระเงินให้จำเลย 500,000 บาท ที่ระบุหากจำเลยอนุมัติการขาย นายวิรพล จะเป็นผู้ชำระเงินส่วนที่เหลือทั้งหมด ภายหลังชำระเงินมัดจำแล้ว จำเลยได้ยินยอมให้โจทก์เข้าไปใช้ที่ดินดังกล่าว ซึ่งโจทก์ก็ได้ทำการพัฒนาแผ้วถาง ซ่อมแซม ต่อเติม ก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อให้เป็นสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจของพระภิกษุ สามเณร และพุทธศาสนิกชนโดยไม่คิดมูลค่าใดๆ จนใกล้ถึงกำหนดตามสัญญา โจทก์ได้ติดตามทวงถามตัวแทนของจำเลย และนายวิรพลให้ดำเนินการชำระเงินส่วนที่เหลือตามข้อตกลงโดยตลอด แต่ก็ได้ผัดผ่อนเรื่อยมา จนเมื่อวันที่ 2 พ.ย.55 จำเลยได้มีหนังสือขอให้โจทก์ออกจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การที่จำเลยและตัวแทนของจำเลย ได้รับเงินมัดจำ 500,000 บาท ที่เป็นเงินซึ่งโจทก์ได้รับบริจาคไป โดยมีเงื่อนไขและทราบโดยตลอดว่า นายวิรพล บุคคลภายนอก จะเป็นผู้ชำระเงินซื้อที่ดินที่เหลือให้แทน แต่กลับกำหนดให้โจทก์ชำระเงินที่สูงถึง 54,500,000 บาท และกำหนดให้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินภายในระยะเวลาอันสั้น เป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์

ทั้งนี้ศาลได้รับฟ้องไว้เป็นคดีดำ หมายเลข ผบ.954/2556 และนัดชี้สองสถานเพื่อกำหนดประเด็นพิจารณาในวันที่ 26 ส.ค.นี้ เวลา 13.30 น.

ด้าน นายสงกรานต์ ทนายความ กล่าวว่า เมื่อต้นปี 2555 พนักงานของจำเลยได้เสนอขายที่ดินย่านพุทธมณฑลสาย 3 และแนะนำให้รู้จักกับอดีตเณรคำ โดยอ้างว่าสามารถออกเงินซื้อที่ดินดังกล่าวเพื่อสร้างเป็นสำนักปฏิบัติธรรม ได้ ทำให้พระธีรธนัชณฤทธา หลงเชื่อ เพราะขณะนั้นอดีตเณรคำ เป็นพระที่มีชื่อเสียงมาก และรู้จักกับเจ้าหน้าที่บริษัทหลายแห่ง ทั้งนี้หากคดีมีการไกล่เกลี่ยโดยจำเลยยินยอมคืนเงินมัดจำและค่าเสียหายจาก การปลูกสร้างเรายินดีจะยุติเรื่อง เพราะที่นำมาฟ้องเพื่อต้องการนำเงินไปคืนให้กับผู้บริจาคทั้งหมด

นาย สงกรานต์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีของ อดีตเณรคำ ตนจะนำรายชื่อชุดสุดท้ายที่เกี่ยวข้องจำนวน 20 คน ซึ่งเป็นนักธุรกิจชื่อดัง ไปยื่นให้เลขาธิการ ป.ป.ง. ในวันที่ 16 ก.ค. เวลา 11.00 น. เพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยรายชื่อดังกล่าวได้มาจากลูกศิษย์คนสนิทของอดีตเณรคำ.

ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/region/357312

ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 16 ก.ค.56

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 16 ก.ค.56
วันที่โพสต์: 11/11/2563 เวลา 18:33:03 ดูภาพสไลด์โชว์ จ่อแฉ 20 นักธุรกิจดังอยู่เบื้องหลัง 'โล้นคำ'

1 Sharkins 11/11/2563 18:33:03

ครั้งหนึ่งนั่งอยู่ที่บ้านฉันตระหนักว่าการทำงานประจำฉันไม่ได้รับความพึงพอใจจากมันและไม่ได้รับเงิน หลังจากที่ฉันตัดสินใจที่จะหาคาสิโนออนไลน์ที่ดีฉันก็รู้ว่านี่เป็นงานที่ค่อนข้างยากเมื่อเลือกกลยุทธ์บางอย่างสำหรับเกมเหล่านั้นที่ฉันรู้สึกมั่นใจฉันจึงตัดสินใจที่เว็บไซต์นี้ - https://www.lnwasiaslot99.com/ ความง่ายในการลงทะเบียนและเกมทุกประเภทที่มีให้เลือกมากมายเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบหลักของเว็บไซต์นี้

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

นายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ ประธานสำนักพุทธชยันตี มอบทนายฟ้องแพ่ง บ.บริหารสินทรัพย์กรุงศรีฯ เรียกค่าเสียหาย 2.5 ล้านบาท กรณีลวงขายที่ดิน 55 ล้านบาท เสนอวางมัดจำ 5 แสนบาท อ้างสนิทอดีตเณรคำช่วยเจรจาจ่ายยอดที่เหลือ ด้านทนายเตรียมแฉรายชื่อ 20 นักธุรกิจดังลอตสุดท้าย อยู่เบื้องหลังอดีตเณรคำ ... ที่ศาลแพ่ง กรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 ก.ค. พระธีรธนัชณฤทธา เสาวภาค์โชติรส ประธานสำนักปฏิบัติธรรมพุทธชยันตี มอบอำนาจให้ นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายรวมพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ในฐานะทนายความ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องบริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงศรีอยุธยา จำกัด เป็นจำเลย เรื่องละเมิด ทำให้เสียหาย กรณีถูกลวงให้ซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างซึ่งมีการวางเงินมัดจำไปแล้ว 5 แสนบาท และได้ดำเนินการปรับปรุงก่อสร้างสาธารณูปโภค มูลค่า 2 ล้านบาท จึงขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายทั้งสิ้น 2.5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยโจทก์ยื่นฟ้องระบุว่า เมื่อประมาณต้นปี 2555 พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลย ได้มาเสนอขายที่ดินโฉนดเลขที่ 8342, 33685, 8340-41, 35673-80 ถ.พุทธมณฑลสาย 3 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตตลิ่งชัน กทม. เนื้อที่ 14 ไร่ 22 ตารางวา พร้อมสิ่งปลูกสร้างร้างในราคา 55,000,000 บาท ให้โจทก์ที่กำลังปฏิบัติธรรมโดยปักกลดธุดงค์บริเวณใกล้เคียงกับที่ดินดัง กล่าว แต่เนื่องจากโจทก์ไม่มีเงิน พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยจึงได้อ้างว่ามีความสนิทสนมพิเศษกับ นายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ โดยนายวิรพล สามารถออกเงินซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้ได้ แต่ขอให้โจทก์หาเงินมาวางเพื่อมัดจำ 500,000 บาท กระทั่งวันที่ 29 พ.ค.55 โจทก์ มอบให้นางสมศรี รัตนประภาศชลา และนางนงนุช มลศิริ ซึ่งเป็นโยมอุปถัมภ์ เป็นตัวแทนลงชื่อในเอกสารสัญญาขอเสนอซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลย พร้อมทั้งชำระเงินให้จำเลย 500,000 บาท ที่ระบุหากจำเลยอนุมัติการขาย นายวิรพล จะเป็นผู้ชำระเงินส่วนที่เหลือทั้งหมด ภายหลังชำระเงินมัดจำแล้ว จำเลยได้ยินยอมให้โจทก์เข้าไปใช้ที่ดินดังกล่าว ซึ่งโจทก์ก็ได้ทำการพัฒนาแผ้วถาง ซ่อมแซม ต่อเติม ก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อให้เป็นสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจของพระภิกษุ สามเณร และพุทธศาสนิกชนโดยไม่คิดมูลค่าใดๆ จนใกล้ถึงกำหนดตามสัญญา โจทก์ได้ติดตามทวงถามตัวแทนของจำเลย และนายวิรพลให้ดำเนินการชำระเงินส่วนที่เหลือตามข้อตกลงโดยตลอด แต่ก็ได้ผัดผ่อนเรื่อยมา จนเมื่อวันที่ 2 พ.ย.55 จำเลยได้มีหนังสือขอให้โจทก์ออกจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การที่จำเลยและตัวแทนของจำเลย ได้รับเงินมัดจำ 500,000 บาท ที่เป็นเงินซึ่งโจทก์ได้รับบริจาคไป โดยมีเงื่อนไขและทราบโดยตลอดว่า นายวิรพล บุคคลภายนอก จะเป็นผู้ชำระเงินซื้อที่ดินที่เหลือให้แทน แต่กลับกำหนดให้โจทก์ชำระเงินที่สูงถึง 54,500,000 บาท และกำหนดให้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินภายในระยะเวลาอันสั้น เป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ ทั้งนี้ศาลได้รับฟ้องไว้เป็นคดีดำ หมายเลข ผบ.954/2556 และนัดชี้สองสถานเพื่อกำหนดประเด็นพิจารณาในวันที่ 26 ส.ค.นี้ เวลา 13.30 น. ด้าน นายสงกรานต์ ทนายความ กล่าวว่า เมื่อต้นปี 2555 พนักงานของจำเลยได้เสนอขายที่ดินย่านพุทธมณฑลสาย 3 และแนะนำให้รู้จักกับอดีตเณรคำ โดยอ้างว่าสามารถออกเงินซื้อที่ดินดังกล่าวเพื่อสร้างเป็นสำนักปฏิบัติธรรม ได้ ทำให้พระธีรธนัชณฤทธา หลงเชื่อ เพราะขณะนั้นอดีตเณรคำ เป็นพระที่มีชื่อเสียงมาก และรู้จักกับเจ้าหน้าที่บริษัทหลายแห่ง ทั้งนี้หากคดีมีการไกล่เกลี่ยโดยจำเลยยินยอมคืนเงินมัดจำและค่าเสียหายจาก การปลูกสร้างเรายินดีจะยุติเรื่อง เพราะที่นำมาฟ้องเพื่อต้องการนำเงินไปคืนให้กับผู้บริจาคทั้งหมด นาย สงกรานต์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีของ อดีตเณรคำ ตนจะนำรายชื่อชุดสุดท้ายที่เกี่ยวข้องจำนวน 20 คน ซึ่งเป็นนักธุรกิจชื่อดัง ไปยื่นให้เลขาธิการ ป.ป.ง. ในวันที่ 16 ก.ค. เวลา 11.00 น. เพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยรายชื่อดังกล่าวได้มาจากลูกศิษย์คนสนิทของอดีตเณรคำ. ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/region/357312 ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 16 ก.ค.56

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...