"ปู" แจงยุทธศาสตร์ 4 ด้านต่อนักธุรกิจไทย-จีน
ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/politics/186516 (ขนาดไฟล์: 167)
เดลินิวส์ออนไลน์วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 16:48 น.
เน้นพัฒนาโครงการรถไฟ 4 เส้นทาง ยาหอมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของไทย-จีนไม่มีการเมืองแอบแฝง มีแต่ความไว้เนื้อเชื้อใจกัน เพราะจีน-ไทยไม่ใช่อื่นไกล เราคือพี่น้องกัน
เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 23 ก.พ. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในการเป็นองค์ปาฐกกิตติมศักดิ์ "ขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์ประเทศ" ที่ห้องประชุมกวงฮั่วตึ้งชั้น 9 อาคาร หอการค้าไทย-จีน(ไทยซีซี) เขตสาทร ให้กับผู้บริหาร สมาชิก หอการค้าไทย-จีนและ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยที่มารับฟังแน่นห้องประชุม
โดยนายกรัฐมนนตรี เล่าย้อนถึงต้นตระกูลชินวัตร ที่มีคุณปู่ทวดเป็นคนจีนแคะ และทราบว่าคุณปู่ทวด อาศัยที่มณฑลกวางตุ้ง เดินทางมาพำนักในไทย สมัยรัชกาลที่ 5 ปีพ.ศ. 2403 และมาทำการค้าขายที่ จ.จันทบุรี และย้ายมาตลาดน้อย ในเขตบางรัก กทม. และจากนั้นได้ย้ายไปที่อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และได้แต่งงานกับคุณย่าทวดของตนจนมีบุตร 9 คน
จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า ทุกประเทศยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่าเอเชียเป็นแกนของเศรษฐกิจที่มีความแข็งแกร่ง และตนชื่นชมเศรษฐกิจของจีนว่ามีความแข็งแกร่งที่มีมูลค่า จากสินค้าไทยไปจีนกว่า 8.3 แสนล้านบาท และมีมูลค่าการค้ารวม 2.9 ล้านล้านบาท แม้เศรษฐกิจซบเซาแต่การค้ายังสูงขนาดนี้ เชื่อว่าหอการค้าไทย-จีนจะเป็นคนสำคัญในการ สร้างเสริมเศรษฐกิจของสองชาติ
ทั้งนี้ตัวเลขของนักท่องเที่ยวจีนที่มาไทยปีที่แล้วมากที่สุด คือ 2.8 ล้านคน โตขึ้น 57% และตนอยากเห็นจำนวนของการท่องเที่ยวขยายตัวเพิ่ม ขึ้น 20% การค้าลงทุน 15% ในทุกๆปี และปีที่ผ่านมาที่คาดว่าจีดีพีของไทยจะอยู่ที่ 4.5-5.5 เนื่องจากน้ำท่วมใหญ่ แต่ทว่าคนจีน รัฐบาลจีน บริษัทไทย-จีน ช่วยเหลือเราในยามยากในการกอบกู้สถานการณ์ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจ กลับมาขยายตัวที่ 6.4% และจบไตรมาส 4 เศรษฐกิจขยาย 18.9%
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับยุทธศาสตร์ของประเทศ มี 4 ด้าน คือ1. การสร้างความ สามารถในการ แข่งขัน ที่จะมีเรื่องการทำเกษตรโซนนิ่งและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่า 2.2 ล้านล้านบาทนั้น จะเป็นการลด ต้นทุนขนส่งระยะยาวและเชื่อมโยงภูมิภาคกับประเทศเพื่อนบ้านเข้าด้วยกัน รวมทั้ง เชื่อมประเทศจีนด้วย โดยจะมีการจะพัฒนาโครงการรถไฟ 4 เส้นทา ง คือ กทม.-เชียงใหม่ และอยากเห็นต่อไปคือจาก เชียงใหม่ไปยังเชียงของ- จีน , กทม. – นครราชสีมา-หนองคาย ,กทม.-พัทยา-ระยอง และกทม. – หัวหิน- ปาดังเบซาร์ 2.การลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งต้องมี การสร้างรายได้ให้ประชาชน 3.การเติบโตทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการลด มลภาวะ ให้สังคมเป็นสีเขียว และ 4.การปรับความสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการ
"ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของไทยและจีนไม่มีการเมืองแอบแฝง มีแต่ความไว้เนื้อเชื้อใจกัน เพราะจีน-ไทยไม่ใช่อื่นไกล เราคือพี่น้องกัน" นายก กล่าว
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/politics/186516 เดลินิวส์ออนไลน์วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 16:48 น. เน้นพัฒนาโครงการรถไฟ 4 เส้นทาง ยาหอมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของไทย-จีนไม่มีการเมืองแอบแฝง มีแต่ความไว้เนื้อเชื้อใจกัน เพราะจีน-ไทยไม่ใช่อื่นไกล เราคือพี่น้องกัน เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 23 ก.พ. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในการเป็นองค์ปาฐกกิตติมศักดิ์ "ขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์ประเทศ" ที่ห้องประชุมกวงฮั่วตึ้งชั้น 9 อาคาร หอการค้าไทย-จีน(ไทยซีซี) เขตสาทร ให้กับผู้บริหาร สมาชิก หอการค้าไทย-จีนและ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยที่มารับฟังแน่นห้องประชุม โดยนายกรัฐมนนตรี เล่าย้อนถึงต้นตระกูลชินวัตร ที่มีคุณปู่ทวดเป็นคนจีนแคะ และทราบว่าคุณปู่ทวด อาศัยที่มณฑลกวางตุ้ง เดินทางมาพำนักในไทย สมัยรัชกาลที่ 5 ปีพ.ศ. 2403 และมาทำการค้าขายที่ จ.จันทบุรี และย้ายมาตลาดน้อย ในเขตบางรัก กทม. และจากนั้นได้ย้ายไปที่อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และได้แต่งงานกับคุณย่าทวดของตนจนมีบุตร 9 คน จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า ทุกประเทศยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่าเอเชียเป็นแกนของเศรษฐกิจที่มีความแข็งแกร่ง และตนชื่นชมเศรษฐกิจของจีนว่ามีความแข็งแกร่งที่มีมูลค่า จากสินค้าไทยไปจีนกว่า 8.3 แสนล้านบาท และมีมูลค่าการค้ารวม 2.9 ล้านล้านบาท แม้เศรษฐกิจซบเซาแต่การค้ายังสูงขนาดนี้ เชื่อว่าหอการค้าไทย-จีนจะเป็นคนสำคัญในการ สร้างเสริมเศรษฐกิจของสองชาติ ทั้งนี้ตัวเลขของนักท่องเที่ยวจีนที่มาไทยปีที่แล้วมากที่สุด คือ 2.8 ล้านคน โตขึ้น 57% และตนอยากเห็นจำนวนของการท่องเที่ยวขยายตัวเพิ่ม ขึ้น 20% การค้าลงทุน 15% ในทุกๆปี และปีที่ผ่านมาที่คาดว่าจีดีพีของไทยจะอยู่ที่ 4.5-5.5 เนื่องจากน้ำท่วมใหญ่ แต่ทว่าคนจีน รัฐบาลจีน บริษัทไทย-จีน ช่วยเหลือเราในยามยากในการกอบกู้สถานการณ์ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจ กลับมาขยายตัวที่ 6.4% และจบไตรมาส 4 เศรษฐกิจขยาย 18.9% นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับยุทธศาสตร์ของประเทศ มี 4 ด้าน คือ1. การสร้างความ สามารถในการ แข่งขัน ที่จะมีเรื่องการทำเกษตรโซนนิ่งและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่า 2.2 ล้านล้านบาทนั้น จะเป็นการลด ต้นทุนขนส่งระยะยาวและเชื่อมโยงภูมิภาคกับประเทศเพื่อนบ้านเข้าด้วยกัน รวมทั้ง เชื่อมประเทศจีนด้วย โดยจะมีการจะพัฒนาโครงการรถไฟ 4 เส้นทา ง คือ กทม.-เชียงใหม่ และอยากเห็นต่อไปคือจาก เชียงใหม่ไปยังเชียงของ- จีน , กทม. – นครราชสีมา-หนองคาย ,กทม.-พัทยา-ระยอง และกทม. – หัวหิน- ปาดังเบซาร์ 2.การลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งต้องมี การสร้างรายได้ให้ประชาชน 3.การเติบโตทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการลด มลภาวะ ให้สังคมเป็นสีเขียว และ 4.การปรับความสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการ "ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของไทยและจีนไม่มีการเมืองแอบแฝง มีแต่ความไว้เนื้อเชื้อใจกัน เพราะจีน-ไทยไม่ใช่อื่นไกล เราคือพี่น้องกัน" นายก กล่าว
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)