ลุ้นอาชีพอิสระเข้าคอก
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดเสวนาวิชาการ “ระบบประกันรายได้เพื่อการชราภาพ : โอกาสและความยั่งยืน” ว่า ทางกระทรวงการคลังและกระทรวงแรงงานมีเป้าหมายร่วมกันในการดูแลผู้ที่ประกอบ อาชีพอิสระให้ออมและรัฐสมทบให้เป็นเป้าหมายเดียวกัน และผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระควรจะได้รับสิทธิ์เทียบเคียงกับกรณีลูกจ้างในระบบ ที่มีนายจ้างช่วยจ่ายเงินสมทบให้ และในปัจจุบันเราก็มีระบบการออมเพื่อเตรียมตัวสำหรับผู้เกษียณอายุภายใต้ กฎหมายเดิม คือผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สำนักงานประกันสังคม แต่ดูเหมือนกลุ่มคนที่จะมีสิทธิ์ออมในระบบก็เป็นกลุ่มคนเดียวกับคนที่จะมี สิทธิ์ออมในระบบกองทุนการออมแห่ง ชาติ (กอช.) ที่เปิดให้ผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของกองทุนใดๆเริ่มออมตั้งแต่อายุ 15-60 ปี
ดัง นั้น กระทรวงแรงงานและกระทรวงการคลังเห็นตรงกันว่า ก่อนที่จะเริ่ม กอช. ควรที่จะทำตามมาตรา 40 ให้ชัดโดยเสนอเพิ่มทางเลือกที่ 3 เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลต้องสนับสนุนการออม คาดว่าจะเสนอแนวทางที่ 3 การออมภายใต้มาตรา 40 ให้ ครม.ได้พิจารณาเดือน เม.ย.นี้ หลักๆคือ สนับสนุนผู้ออมที่ทำอาชีพอิสระ โดยรัฐช่วยใส่เงินสมทบ ส่วนการแก้ไขเกี่ยวกับปัญหากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) นั้น ขณะนี้ได้มีแนวคิดที่จะต้องแก้ไข พ.ร.บ. กบข. ซึ่งมั่นใจว่าการแก้ไขดังกล่าวจะทำให้ผู้ที่เคยเลือกเข้าเป็นสมาชิก กบข.ตั้งแต่ตอนเริ่มจะไม่กลายเป็นผู้ที่เสียเปรียบ หรือเสียสิทธิประโยชน์ ส่วนวิธีการยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพื่อรอเสนอ ครม.และเสนอเข้าที่ประชุมสภาฯ.
ขอบคุณ http://www.thairath.co.th/content/eco/334215 (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดเสวนาวิชาการ “ระบบประกันรายได้เพื่อการชราภาพ : โอกาสและความยั่งยืน” ว่า ทางกระทรวงการคลังและกระทรวงแรงงานมีเป้าหมายร่วมกันในการดูแลผู้ที่ประกอบ อาชีพอิสระให้ออมและรัฐสมทบให้เป็นเป้าหมายเดียวกัน และผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระควรจะได้รับสิทธิ์เทียบเคียงกับกรณีลูกจ้างในระบบ ที่มีนายจ้างช่วยจ่ายเงินสมทบให้ และในปัจจุบันเราก็มีระบบการออมเพื่อเตรียมตัวสำหรับผู้เกษียณอายุภายใต้ กฎหมายเดิม คือผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สำนักงานประกันสังคม แต่ดูเหมือนกลุ่มคนที่จะมีสิทธิ์ออมในระบบก็เป็นกลุ่มคนเดียวกับคนที่จะมี สิทธิ์ออมในระบบกองทุนการออมแห่ง ชาติ (กอช.) ที่เปิดให้ผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของกองทุนใดๆเริ่มออมตั้งแต่อายุ 15-60 ปี ดัง นั้น กระทรวงแรงงานและกระทรวงการคลังเห็นตรงกันว่า ก่อนที่จะเริ่ม กอช. ควรที่จะทำตามมาตรา 40 ให้ชัดโดยเสนอเพิ่มทางเลือกที่ 3 เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลต้องสนับสนุนการออม คาดว่าจะเสนอแนวทางที่ 3 การออมภายใต้มาตรา 40 ให้ ครม.ได้พิจารณาเดือน เม.ย.นี้ หลักๆคือ สนับสนุนผู้ออมที่ทำอาชีพอิสระ โดยรัฐช่วยใส่เงินสมทบ ส่วนการแก้ไขเกี่ยวกับปัญหากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) นั้น ขณะนี้ได้มีแนวคิดที่จะต้องแก้ไข พ.ร.บ. กบข. ซึ่งมั่นใจว่าการแก้ไขดังกล่าวจะทำให้ผู้ที่เคยเลือกเข้าเป็นสมาชิก กบข.ตั้งแต่ตอนเริ่มจะไม่กลายเป็นผู้ที่เสียเปรียบ หรือเสียสิทธิประโยชน์ ส่วนวิธีการยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพื่อรอเสนอ ครม.และเสนอเข้าที่ประชุมสภาฯ. ขอบคุณ http://www.thairath.co.th/content/eco/334215
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)