'ไซโคฟิสิกส์' เครื่องมือใหม่อ่านใจนักชอป
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
I snap Biz Creation 3 เม.ย.เทคนิคการวิจัยรูปแบบใหม่การค้นหาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าโดยใช้หลักการของ "ไซโคฟิสิกส์"
ปัจจุบันการทำวิจัยที่ใช้ศาสตร์ว่าด้วยประสาทวิทยา เข้ามามีบทบาทแทนวิธีการวิจัยแบบเดิมๆ เพื่อค้นหาข้อมูลเชิงลึกที่แท้จริงของผู้บริโภค เป็นผลให้วงการวิจัยการตลาดต้องตื่นตัว เหตุผลนี้เอง เทคนิคการวิจัยรูปแบบใหม่ช่วง 2 ปีมานี้ จึงพุ่งเป้าไปที่การค้นหาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าโดยใช้หลักการของ "ไซโคฟิสิกส์" (Psychophysics : จิตวิทยาบวกไอทีคอมพิวเตอร์) วิเคราะห์การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าหรือบริการ จากเดิมที่รับรู้ได้ผิวเผินเท่านั้นเพราะผู้บริโภคมักใช้เหตุผลและอารมณ์ตอบ คำถามแบบตรงไปตรงมา
ธภัทร ยุวบูรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไอเดีย 360 จำกัด ธุรกิจที่ปรึกษาด้านการตลาด งบบัญชี การเงิน ร่วมกับ โฮเวิร์ด มอสโควิทส์ หนึ่งในนักวิจัยที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยวาร์ตัน (Wharton Business School) สหรัฐอเมริกา เพื่อใช้หลัก Mind Genomics หรือการศึกษาประเภทของความคิดและการตอบสนองของมนุษย์ เป็นเครื่องมือใหม่สำหรับการวิจัยทางการตลาด
เพราะในความเป็นจริง 95% เป็นการตัดสินใจที่มาจากความคิด ความเชื่อ จากจิตใต้สำนึกโดยที่ผู้บริโภคไม่รู้ตัวว่า เหตุผลอะไรที่ทำให้ตัดสินใจเลือกซื้อแบรนด์นี้ สิ่งเหล่านี้เกิดจากประสบการณ์ที่สั่งสมผ่านสภาพแวดล้อมและประสาทสัมผัสทั้ง 5 (สัมผัส รูป รส กลิ่น เสียง) ทำให้หลายครั้งผู้บริโภคเองก็ไม่สามารถสื่อความต้องการของตนออกมาได้อย่าง แท้จริง จึงต้องมีเครื่องมือในการวัดผลอีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อล้วงลึกไปถึงความต้องการที่แท้จริงด้วยการรวมเอาหลายศาสตร์มาใช้
ยกตัวอย่าง บริษัทน้ำมันเครื่องต้องการออกแบรนด์ใหม่ ต้องทำอย่างไรให้สินค้าใหม่แข่งขันได้ท่ามกลางยักษ์ใหญ่อย่าง ปตท บางจาก เชลล์ งานวิจัยจึงต้องเจาะลึกถึงความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มใช้น้ำมันเครื่องว่า ยังมีอะไรอีกเหนือจากการปกป้องเครื่องยนต์ ผลการวิจัยพบคำตอบคือ ความแรงที่เกี่ยวการแซงให้ขาด เมื่อกลุ่มเป้าหมายคนขับรถบรรทุกเกิดจากจิตใต้สำนึกที่มีความกลัวว่า เวลาที่แซงอาจเกิดอุบัติเหตุได้ถ้าเครื่องไม่แรงพอ หากเป็นการสัมภาษณ์ทั่วไป ข้อมูลที่ได้รับจะไม่ลงลึกขนาดนี้ แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายว่า การทำวิจัยในแบบเดิมๆ ใช้ไม่ได้ แต่ยังใช้ได้ในกรณีค้นหาข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น
ด้วยหตุนี้ ไอเดียแมพจึงทำให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าใจผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้งและตรง กับความต้องการ สามารถลดความเสี่ยงและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุนพัฒนาสินค้าหรือการทำ การตลาด โดยที่วิธีการอื่นๆ ไม่สามารถครอบคลุมและไม่เข้าถึง
ที่มา: บ้านเมืองออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3 เม.ย.56
วันที่โพสต์: 3/04/2556 เวลา 04:45:57 
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ I snap Biz Creation 3 เม.ย.เทคนิคการวิจัยรูปแบบใหม่การค้นหาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าโดยใช้หลักการของ "ไซโคฟิสิกส์" ปัจจุบันการทำวิจัยที่ใช้ศาสตร์ว่าด้วยประสาทวิทยา เข้ามามีบทบาทแทนวิธีการวิจัยแบบเดิมๆ เพื่อค้นหาข้อมูลเชิงลึกที่แท้จริงของผู้บริโภค เป็นผลให้วงการวิจัยการตลาดต้องตื่นตัว เหตุผลนี้เอง เทคนิคการวิจัยรูปแบบใหม่ช่วง 2 ปีมานี้ จึงพุ่งเป้าไปที่การค้นหาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าโดยใช้หลักการของ "ไซโคฟิสิกส์" (Psychophysics : จิตวิทยาบวกไอทีคอมพิวเตอร์) วิเคราะห์การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าหรือบริการ จากเดิมที่รับรู้ได้ผิวเผินเท่านั้นเพราะผู้บริโภคมักใช้เหตุผลและอารมณ์ตอบ คำถามแบบตรงไปตรงมา ธภัทร ยุวบูรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไอเดีย 360 จำกัด ธุรกิจที่ปรึกษาด้านการตลาด งบบัญชี การเงิน ร่วมกับ โฮเวิร์ด มอสโควิทส์ หนึ่งในนักวิจัยที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยวาร์ตัน (Wharton Business School) สหรัฐอเมริกา เพื่อใช้หลัก Mind Genomics หรือการศึกษาประเภทของความคิดและการตอบสนองของมนุษย์ เป็นเครื่องมือใหม่สำหรับการวิจัยทางการตลาด เพราะในความเป็นจริง 95% เป็นการตัดสินใจที่มาจากความคิด ความเชื่อ จากจิตใต้สำนึกโดยที่ผู้บริโภคไม่รู้ตัวว่า เหตุผลอะไรที่ทำให้ตัดสินใจเลือกซื้อแบรนด์นี้ สิ่งเหล่านี้เกิดจากประสบการณ์ที่สั่งสมผ่านสภาพแวดล้อมและประสาทสัมผัสทั้ง 5 (สัมผัส รูป รส กลิ่น เสียง) ทำให้หลายครั้งผู้บริโภคเองก็ไม่สามารถสื่อความต้องการของตนออกมาได้อย่าง แท้จริง จึงต้องมีเครื่องมือในการวัดผลอีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อล้วงลึกไปถึงความต้องการที่แท้จริงด้วยการรวมเอาหลายศาสตร์มาใช้ ยกตัวอย่าง บริษัทน้ำมันเครื่องต้องการออกแบรนด์ใหม่ ต้องทำอย่างไรให้สินค้าใหม่แข่งขันได้ท่ามกลางยักษ์ใหญ่อย่าง ปตท บางจาก เชลล์ งานวิจัยจึงต้องเจาะลึกถึงความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มใช้น้ำมันเครื่องว่า ยังมีอะไรอีกเหนือจากการปกป้องเครื่องยนต์ ผลการวิจัยพบคำตอบคือ ความแรงที่เกี่ยวการแซงให้ขาด เมื่อกลุ่มเป้าหมายคนขับรถบรรทุกเกิดจากจิตใต้สำนึกที่มีความกลัวว่า เวลาที่แซงอาจเกิดอุบัติเหตุได้ถ้าเครื่องไม่แรงพอ หากเป็นการสัมภาษณ์ทั่วไป ข้อมูลที่ได้รับจะไม่ลงลึกขนาดนี้ แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายว่า การทำวิจัยในแบบเดิมๆ ใช้ไม่ได้ แต่ยังใช้ได้ในกรณีค้นหาข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ด้วยหตุนี้ ไอเดียแมพจึงทำให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าใจผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้งและตรง กับความต้องการ สามารถลดความเสี่ยงและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุนพัฒนาสินค้าหรือการทำ การตลาด โดยที่วิธีการอื่นๆ ไม่สามารถครอบคลุมและไม่เข้าถึง ขอบคุณ http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130403/498529/ไซโคฟิสิกส์-เครื่องมือใหม่อ่านใจนักชอป.html
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)
