นักธุรกิจอังกฤษถูกตัดสินผิดจริงขายเครื่องตรวจระเบิดปลอมให้ไทย
นักธุรกิจอังกฤษที่ขายเครื่องตรวจระเบิดปลอมหลายรุ่น รวมถึง GT200 ให้กับหลายประเทศ
รวมทั้งไทย ถูกศาลอังกฤษตัดสินว่ากระทำผิดจริงและอาจต้องโทษจำคุกถึง 10 ปี
ศาลอาญากลางในกรุงลอนดอนของอังกฤษ มีคำตัดสินเมื่อวานว่า นายเจมส์ แมคคอร์มิค
นักธุรกิจชาวอังกฤษวัย 56 ปี เจ้าของบริษัท ATSC มีความผิดจริงข้อหาฉ้อฉล 3 กระทงจาก
การจำหน่ายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดที่ใช้งานไม่ได้จริงและไม่มีพื้นฐานของหลักวิทยาศาสตร์
ให้กับหลายประเทศ รวมถึง อิรัก จอร์เจีย อียิปต์และไทย โดยจำหน่ายในราคาเครื่องละประมาณ
40,000 ดอลลาร์หรือ กว่า 1 ล้าน 1 แสนบาท
เขารู้ดีว่าอุปกรณ์ของเขาที่มีหลายรุ่นใช้งานไม่ได้ แต่ก็อ้างประสิทธิภาพว่าสามารถตรวจจับ
วัตถุระเบิดได้ทุกชนิดไม่ว่าจะอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 1 กม. เหนือพื้นดิน 5 กม. และลึกลงไปใต้น้ำ
ลึก 31 ม. รวมทั้งตรวจหาวัตถุอื่นๆได้ เช่น ยาเสพติด งาช้าง หรือ แม้แต่ธนบัตร แต่ปรากฏว่า
ในความเป็นจริง อุปกรณ์ของเขามีเพียงเสาอากาศ ที่คล้ายเสาอากาศวิทยุ และไม่ได้เชื่อมต่อ
อิเล็กทรอนิกส์ หรือมีแหล่งพลังงานใดๆในตัวเครื่อง เขาทำรายได้จากการขายอุปกรณ์เหล่านี้
ให้กับอิรักเพียงประเทศเดียว 6,000 เครื่องคิดเป็นเงินกว่า 40 ล้านดอลลาร์ช่วงระหว่างปี
2551-2553 บาท
เครื่องตรวจระเบิดที่บริษัทของเขาผลิตและจำหน่ายมีหลายรุ่น เช่น เครื่อง ADE651 และ GT200
ซึ่งรุ่น GT200 เป็นรุ่นที่ทางการไทยซื้อมาและนำไปใช้ในพื้นที่ภาคใต้ และพบว่ามีปัญหาการทุจริต
จัดซื้อในราคาแพง และสินค้าไม่มีประสิทธิภาพที่จะใช้ได้จริง
ศาลอังกฤษนัดฟังคำตัดสินลงโทษแมคคอร์มิคในวันที่ 2 พ.ค.และเขาอาจต้องโทษจำคุกนานถึง
10 ปีสำหรับการก่ออาชญากรรมที่ขาดจิตสำนึกถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งานที่หวังพึ่งอุปกรณ์
ตัวนี้ในการปกป้องและรักษาความปลอดภัยในชีวิตของตัวเอง
เดิมในปี 2551 มีคนส่งเอกสารแจ้งเตือนถึงทางการอังกฤษว่า แมคคอร์มิคจำหน่ายเครื่องตรวจ
ระเบิดปลอม ที่อาจทำให้ผู้ใช้งานเสี่ยงได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่กลับไม่ได้รับความสนใดๆ
จนกระทั่งในปี 2543 จึงมีการสั่งระงับการส่งออกอุปกรณ์ดังกล่าวไปยังอัฟกานิสถานและอิรัก
และนายแมคคอร์มิคถูกจับกุม
ขอบคุณ... http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=679084&lang=&cat=
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
นักธุรกิจอังกฤษที่ขายเครื่องตรวจระเบิดปลอมหลายรุ่น รวมถึง GT200 ให้กับหลายประเทศ รวมทั้งไทย ถูกศาลอังกฤษตัดสินว่ากระทำผิดจริงและอาจต้องโทษจำคุกถึง 10 ปี ศาลอาญากลางในกรุงลอนดอนของอังกฤษ มีคำตัดสินเมื่อวานว่า นายเจมส์ แมคคอร์มิค นักธุรกิจชาวอังกฤษวัย 56 ปี เจ้าของบริษัท ATSC มีความผิดจริงข้อหาฉ้อฉล 3 กระทงจาก การจำหน่ายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดที่ใช้งานไม่ได้จริงและไม่มีพื้นฐานของหลักวิทยาศาสตร์ ให้กับหลายประเทศ รวมถึง อิรัก จอร์เจีย อียิปต์และไทย โดยจำหน่ายในราคาเครื่องละประมาณ 40,000 ดอลลาร์หรือ กว่า 1 ล้าน 1 แสนบาท เขารู้ดีว่าอุปกรณ์ของเขาที่มีหลายรุ่นใช้งานไม่ได้ แต่ก็อ้างประสิทธิภาพว่าสามารถตรวจจับ วัตถุระเบิดได้ทุกชนิดไม่ว่าจะอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 1 กม. เหนือพื้นดิน 5 กม. และลึกลงไปใต้น้ำ ลึก 31 ม. รวมทั้งตรวจหาวัตถุอื่นๆได้ เช่น ยาเสพติด งาช้าง หรือ แม้แต่ธนบัตร แต่ปรากฏว่า ในความเป็นจริง อุปกรณ์ของเขามีเพียงเสาอากาศ ที่คล้ายเสาอากาศวิทยุ และไม่ได้เชื่อมต่อ อิเล็กทรอนิกส์ หรือมีแหล่งพลังงานใดๆในตัวเครื่อง เขาทำรายได้จากการขายอุปกรณ์เหล่านี้ ให้กับอิรักเพียงประเทศเดียว 6,000 เครื่องคิดเป็นเงินกว่า 40 ล้านดอลลาร์ช่วงระหว่างปี 2551-2553 บาท เครื่องตรวจระเบิดที่บริษัทของเขาผลิตและจำหน่ายมีหลายรุ่น เช่น เครื่อง ADE651 และ GT200 ซึ่งรุ่น GT200 เป็นรุ่นที่ทางการไทยซื้อมาและนำไปใช้ในพื้นที่ภาคใต้ และพบว่ามีปัญหาการทุจริต จัดซื้อในราคาแพง และสินค้าไม่มีประสิทธิภาพที่จะใช้ได้จริง ศาลอังกฤษนัดฟังคำตัดสินลงโทษแมคคอร์มิคในวันที่ 2 พ.ค.และเขาอาจต้องโทษจำคุกนานถึง 10 ปีสำหรับการก่ออาชญากรรมที่ขาดจิตสำนึกถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งานที่หวังพึ่งอุปกรณ์ ตัวนี้ในการปกป้องและรักษาความปลอดภัยในชีวิตของตัวเอง เดิมในปี 2551 มีคนส่งเอกสารแจ้งเตือนถึงทางการอังกฤษว่า แมคคอร์มิคจำหน่ายเครื่องตรวจ ระเบิดปลอม ที่อาจทำให้ผู้ใช้งานเสี่ยงได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่กลับไม่ได้รับความสนใดๆ จนกระทั่งในปี 2543 จึงมีการสั่งระงับการส่งออกอุปกรณ์ดังกล่าวไปยังอัฟกานิสถานและอิรัก และนายแมคคอร์มิคถูกจับกุม ขอบคุณ... http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=679084&lang=&cat=
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)