อาชีพ CSR ในอนาคต
โดย วีรญา ปรียาพันธ์ สถาบันไทยพัฒน์
ในบริบทการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนทุกวันนี้ มีแนวคิดและวิธีการใหม่ ๆ เกิดขึ้นเพื่อรองรับกับปัจจัยและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ภาษาหรือคำศัพท์ใหม่ที่ได้ยินจนเริ่มเป็นที่คุ้นหูในปัจจุบัน ได้แก่ ความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการ (CSR) การพัฒนาที่ยั่งยืน (SD) หรือเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม-สังคม-ธรรมาภิบาล (ESG) ซึ่งล้วนแต่เป็นแนวคิดที่ผลักดันให้ภาคธุรกิจขยายโอกาส บทบาท และความรับผิดชอบ เพื่อตอบสนองความคาดหวังของสังคมและประโยชน์ของผู้มีส่วนได้
ส่วน เสียในมุมมองที่กว้างขึ้น อันนำไปสู่ความยั่งยืนในระยะยาวองค์กรธุรกิจที่มีจุดมุ่งหมายในการพัฒนา กิจการสู่ความยั่งยืน ไม่สามารถใช้ข้ออ้างอิงที่ตนเองถือปฏิบัติตามกฎหมายได้เพียงอย่างเดียวอีก ต่อไปแล้ว
การสร้างพันธสัญญาทางสังคม (Social Contract) หรือการได้รับฉันทานุมัติ
จาก สังคม หรือชุมชนที่อยู่รายรอบในการประกอบการ (License to Operate) หรือการได้รับโอกาสในการเข้าถึงตลาด (Access to Markets) ล้วนเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือกรอบของกฎหมาย แต่เป็นความสัมพันธ์ที่ถูกสานขึ้นระหว่างธุรกิจกับสังคม ซึ่งธุรกิจจำต้องรักษาให้คงอยู่ ในฐานะผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในการใช้ทรัพยากรและมีส่วนในการสร้างผลกระทบต่อ สังคมนั้นไม่มากก็น้อย
ความริเริ่มหนึ่งในการตอบโจทย์การพัฒนาที่ ยั่งยืนและการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการ คือการเปิดเผยวิธีการดำเนินงาน การกำกับดูแล แนวการบริหารจัดการ และผลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง ให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง ในรูปของการรายงานความยั่งยืน (Sustainability Report)
ซึ่งองค์กร ธุรกิจทั่วโลกได้ใช้แนวทางการรายงานความยั่งยืน ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยองค์การแห่งความริเริ่มว่าด้วยการรายงานสากล (Global Reporting Initiative : GRI) เป็นกรอบในการจัดทำรายงานโดยปัจจุบัน มีรายงานความยั่งยืนที่จัดทำและเผยแพร่โดยองค์กรธุรกิจแล้วกว่า 5,000 แห่งทั่วโลก มีรายงานนับเป็นหมื่นฉบับที่ได้จัดทำตามกรอบของ GRI เป็นที่คาดการณ์กันว่าในอนาคต
อันใกล้นี้ รายงานความยั่งยืนจะทวีจำนวนขึ้นอย่างก้าวกระโดด จนกลายเป็นเรื่องปกติที่องค์กรจะดำเนินการจัดทำ เนื่องจากภาครัฐและหน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศ ได้มีการประกาศเป็นกฎหมายและข้อบังคับให้องค์กรธุรกิจ โดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทมหาชน ต้องเปิดเผยข้อมูล
ผลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม หรือจัดทำรายงานที่แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมในลักษณะดังกล่าว เผยแพร่ต่อสาธารณะ
ด้วยปัจจัยดังกล่าวนี้ ทำให้สถาบันอุดมศึกษาในหลายประเทศได้มีการเตรียมความพร้อมในการผลิตบัณฑิตให้มีความรู้ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน
ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการ รวมทั้งทักษะในการเขียนและจัดทำรายงานความยั่งยืน พัฒนาเป็นวิชาชีพ
ในอีกด้านหนึ่ง สถาบันอุดมศึกษาหลายแห่งในจำนวนนั้นได้มีความตื่นตัวที่จะริเริ่มจัดทำรายงานความยั่งยืนของสถาบัน
โดย มีวัตถุประสงค์ที่จะพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืนเองด้วย โดยใช้การจัดทำรายงานความยั่งยืนเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน ขณะที่บางสถาบันก็เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ใช้ตัวสถาบันและข้อมูลการดำเนิน งานของสถาบัน เป็นสนามฝึกหัดในการเขียนรายงานความยั่งยืนเพิ่มเติม
จาก การสำรวจข้อมูลมหาวิทยาลัยที่ได้จัดทำรายงานความยั่งยืน เผยแพร่ผ่านฐานข้อมูลของ GRI พบว่า มีอยู่จำนวน 56 แห่ง โดยมาจากทวีปยุโรป 28 แห่ง จากทวีปอเมริกาเหนือ 12 แห่ง จากละตินอเมริกา 7 แห่ง จากทวีปเอเชีย 5 แห่ง และจากทวีปออสเตรเลีย 4 แห่ง (ข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม 2556)
ตัวอย่าง ของสถาบันอุดมศึกษาที่ได้มีการจัดทำและเผยแพร่รายงานความยั่งยืนของสถาบัน ได้แก่ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (สหรัฐอเมริกา) วิทยาลัย-มหาวิทยาลัยบรัสเซลส์ (เบลเยียม) มหาวิทยาลัย
โกเธนเบิร์ก (สวีเดน) มหาวิทยาลัยลาโทรบ (ออสเตรเลีย) มหาวิทยาลัยฮ่องกง (เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน) และมหาวิทยาลัยแห่งเอเชียและแปซิฟิก (ฟิลิปปินส์) เป็นต้น
กรณี ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด รายงานความยั่งยืนฉบับแรกจัดทำขึ้นโดยสถาบันแพทยศาสตร์แห่งฮาร์วาร์ด เมื่อปี พ.ศ. 2549 ซึ่งเป็นรายงานระดับสถาบัน (School-Specific Report) จากนั้นก็เป็นรายงานระดับคณะ (Department-Specific Report) ซึ่งจัดทำโดยคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ในปี พ.ศ. 2551และเพิ่งจะยกระดับเป็นรายงานระดับมหาวิทยาลัย (University-Wide Report) ในปี พ.ศ. 2555 ที่ผ่านมา
เชื่อแน่ว่านักศึกษาที่มีส่วนร่วมในการจัดทำรายงานความยั่งยืนของมหาวิทยาลัย หรือมีโอกาสฝึกการเขียนรายงานความยั่งยืน
ให้แก่มหาวิทยาลัยในช่วงเวลาที่ศึกษาอยู่ เมื่อสำเร็จการศึกษาออกมาแล้ว จะมีบริษัทจองตัวกันเป็นทิวแถว
ขอบคุณ http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1373274189
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ตุ๊กตากระดาษ ยืนจับมือเรียงกัน โดย วีรญา ปรียาพันธ์ สถาบันไทยพัฒน์ ในบริบทการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนทุกวันนี้ มีแนวคิดและวิธีการใหม่ ๆ เกิดขึ้นเพื่อรองรับกับปัจจัยและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ภาษาหรือคำศัพท์ใหม่ที่ได้ยินจนเริ่มเป็นที่คุ้นหูในปัจจุบัน ได้แก่ ความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการ (CSR) การพัฒนาที่ยั่งยืน (SD) หรือเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม-สังคม-ธรรมาภิบาล (ESG) ซึ่งล้วนแต่เป็นแนวคิดที่ผลักดันให้ภาคธุรกิจขยายโอกาส บทบาท และความรับผิดชอบ เพื่อตอบสนองความคาดหวังของสังคมและประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ ส่วน เสียในมุมมองที่กว้างขึ้น อันนำไปสู่ความยั่งยืนในระยะยาวองค์กรธุรกิจที่มีจุดมุ่งหมายในการพัฒนา กิจการสู่ความยั่งยืน ไม่สามารถใช้ข้ออ้างอิงที่ตนเองถือปฏิบัติตามกฎหมายได้เพียงอย่างเดียวอีก ต่อไปแล้ว การสร้างพันธสัญญาทางสังคม (Social Contract) หรือการได้รับฉันทานุมัติ จาก สังคม หรือชุมชนที่อยู่รายรอบในการประกอบการ (License to Operate) หรือการได้รับโอกาสในการเข้าถึงตลาด (Access to Markets) ล้วนเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือกรอบของกฎหมาย แต่เป็นความสัมพันธ์ที่ถูกสานขึ้นระหว่างธุรกิจกับสังคม ซึ่งธุรกิจจำต้องรักษาให้คงอยู่ ในฐานะผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในการใช้ทรัพยากรและมีส่วนในการสร้างผลกระทบต่อ สังคมนั้นไม่มากก็น้อย ความริเริ่มหนึ่งในการตอบโจทย์การพัฒนาที่ ยั่งยืนและการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการ คือการเปิดเผยวิธีการดำเนินงาน การกำกับดูแล แนวการบริหารจัดการ และผลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง ให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง ในรูปของการรายงานความยั่งยืน (Sustainability Report) ซึ่งองค์กร ธุรกิจทั่วโลกได้ใช้แนวทางการรายงานความยั่งยืน ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยองค์การแห่งความริเริ่มว่าด้วยการรายงานสากล (Global Reporting Initiative : GRI) เป็นกรอบในการจัดทำรายงานโดยปัจจุบัน มีรายงานความยั่งยืนที่จัดทำและเผยแพร่โดยองค์กรธุรกิจแล้วกว่า 5,000 แห่งทั่วโลก มีรายงานนับเป็นหมื่นฉบับที่ได้จัดทำตามกรอบของ GRI เป็นที่คาดการณ์กันว่าในอนาคต อันใกล้นี้ รายงานความยั่งยืนจะทวีจำนวนขึ้นอย่างก้าวกระโดด จนกลายเป็นเรื่องปกติที่องค์กรจะดำเนินการจัดทำ เนื่องจากภาครัฐและหน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศ ได้มีการประกาศเป็นกฎหมายและข้อบังคับให้องค์กรธุรกิจ โดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทมหาชน ต้องเปิดเผยข้อมูล ผลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม หรือจัดทำรายงานที่แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมในลักษณะดังกล่าว เผยแพร่ต่อสาธารณะ ด้วยปัจจัยดังกล่าวนี้ ทำให้สถาบันอุดมศึกษาในหลายประเทศได้มีการเตรียมความพร้อมในการผลิตบัณฑิตให้มีความรู้ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการ รวมทั้งทักษะในการเขียนและจัดทำรายงานความยั่งยืน พัฒนาเป็นวิชาชีพ ในอีกด้านหนึ่ง สถาบันอุดมศึกษาหลายแห่งในจำนวนนั้นได้มีความตื่นตัวที่จะริเริ่มจัดทำรายงานความยั่งยืนของสถาบัน โดย มีวัตถุประสงค์ที่จะพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืนเองด้วย โดยใช้การจัดทำรายงานความยั่งยืนเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน ขณะที่บางสถาบันก็เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ใช้ตัวสถาบันและข้อมูลการดำเนิน งานของสถาบัน เป็นสนามฝึกหัดในการเขียนรายงานความยั่งยืนเพิ่มเติม จาก การสำรวจข้อมูลมหาวิทยาลัยที่ได้จัดทำรายงานความยั่งยืน เผยแพร่ผ่านฐานข้อมูลของ GRI พบว่า มีอยู่จำนวน 56 แห่ง โดยมาจากทวีปยุโรป 28 แห่ง จากทวีปอเมริกาเหนือ 12 แห่ง จากละตินอเมริกา 7 แห่ง จากทวีปเอเชีย 5 แห่ง และจากทวีปออสเตรเลีย 4 แห่ง (ข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม 2556) ตัวอย่าง ของสถาบันอุดมศึกษาที่ได้มีการจัดทำและเผยแพร่รายงานความยั่งยืนของสถาบัน ได้แก่ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (สหรัฐอเมริกา) วิทยาลัย-มหาวิทยาลัยบรัสเซลส์ (เบลเยียม) มหาวิทยาลัย โกเธนเบิร์ก (สวีเดน) มหาวิทยาลัยลาโทรบ (ออสเตรเลีย) มหาวิทยาลัยฮ่องกง (เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน) และมหาวิทยาลัยแห่งเอเชียและแปซิฟิก (ฟิลิปปินส์) เป็นต้น กรณี ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด รายงานความยั่งยืนฉบับแรกจัดทำขึ้นโดยสถาบันแพทยศาสตร์แห่งฮาร์วาร์ด เมื่อปี พ.ศ. 2549 ซึ่งเป็นรายงานระดับสถาบัน (School-Specific Report) จากนั้นก็เป็นรายงานระดับคณะ (Department-Specific Report) ซึ่งจัดทำโดยคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ในปี พ.ศ. 2551และเพิ่งจะยกระดับเป็นรายงานระดับมหาวิทยาลัย (University-Wide Report) ในปี พ.ศ. 2555 ที่ผ่านมา เชื่อแน่ว่านักศึกษาที่มีส่วนร่วมในการจัดทำรายงานความยั่งยืนของมหาวิทยาลัย หรือมีโอกาสฝึกการเขียนรายงานความยั่งยืน ให้แก่มหาวิทยาลัยในช่วงเวลาที่ศึกษาอยู่ เมื่อสำเร็จการศึกษาออกมาแล้ว จะมีบริษัทจองตัวกันเป็นทิวแถว ขอบคุณ http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1373274189
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)