เลี้ยงแมงสะดิ้ง อาชีพเสริมชาวนา จ.นครสวรรค์ ทางออกในยุคจำนำข้าว
เวลานี้ถ้าไม่พูดถึงชาวนาก็ คงจะเหมือนตกเทรนด์ วันนี้จึงอยากนำเสนออาชีพเสริมของชาวนาท่านหนึ่ง “ลุงดำ กุมภาพันธ์” ลุงดำมีอาชีพหลักคือทำนา แต่รายได้จากการทำนาไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงครอบครัว จึงหันมาเลี้ยงแมงสะดิ้ง หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในชื่อของ จิ้งหรีดขาว
ลุงดำเล่าว่า เดิมประกอบอาชีพทำนาเพียงอย่างเดียว มีรายได้พออยู่พอกิน กระทั่งลูกเขยได้จุดประกายแนะนำให้เลี้ยงแมงสะดิ้ง เนื่องจากทราบข่าวว่าเกษตรกรในหลายพื้นที่ภาคอีสานต่างมีรายได้อย่างงามจาก การเลี้ยงแมลงนี้ จึงได้เริ่มศึกษา และไปซื้อพันธุ์มาทดลองเลี้ยงในลังไม้ เริ่ม ต้นจาก 3 ลัง จนปัจจุบันมีแมงสะดิ้งเลี้ยงไว้ทั้งหมด 8 ลัง และสามารถสร้างรายได้จากการขายต่อ 1 รอบการเก็บ ในระยะเวลา 2 เดือน ประมาณ 15,000 บาท
สำหรับการขายจะนำแมลงมาทอด และนำมาบรรจุใส่ถุงพลาสติก ก่อนที่จะนำไปตระเวนขายเองตามท้องตลาด วันหนึ่งขายได้ประมาณ 30 ถุง ราคาถุงละ 20 บาท
ลุงดำเล่าถึงขั้นตอนการเลี้ยงแมงสะดิ้ง หรือจิ้งหรีดขาว ว่า ขั้น ตอนการเลี้ยงไม่มีอะไรยุ่งยาก ไม่จำเป็นต้องดูแลอะไรมาก แต่ต้องจัดตั้งสถานที่เลี้ยงให้ดี โดยที่เลี้ยงจะต้องป้องกันแสงแดดและฝนได้ ส่วนอาหารจะให้รำ หัวอาหารสัตว์ รวมถึงอาหารเสริมอย่างพืชผักและผลไม้เป็นหลัก ส่วนระยะเวลาในการเลี้ยงจะใช้เวลาตั้งแต่เริ่มฟักไข่ไปจนถึง 2 เดือนแมงสะดิ้งจึงจะโตเต็มวัย และเริ่มจับนำไปทอดขายได้ ซึ่งช่วงดังกล่าวจะสามารถจับได้ประมาณ 60 วัน เพราะหลังจากนั้นแมงสะดิ้งจะตายหมดเนื่องจากเต็มอายุขัยของมัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากหมดรอบการจับไปแล้ว จะนำไข่ของแมงสะดิ้งที่ทิ้งไว้ในขันมาทำการเพาะเลี้ยงต่อไป ซึ่งแต่ละปีสามารถเลี้ยงได้ 4-5 รุ่น และแต่ละรุ่น จะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 10,000 บาทถึง 15,000 บาท ซึ่งถือว่ารายได้ดีกว่าอาชีพทำนาเพราะนอกจากจะสามารถนำไปทำเป็นอาหาร ยังสามารถนำมูลของมันไปทำปุ๋ยขายได้อีกด้วย
“หากเกษตรกรในพื้นที่รายไหนต้องการจะหันมาเลี้ยงแมงสะดิ้งเพื่อ เสริมรายได้หรือให้เป็นอาชีพหลักสามารถปรึกษาได้ ผมยินดีให้คำแน่ะนำโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย รับรองว่าจะมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด” นายดำกล่าว
สำหรับลุงดำ เป็น เกษตรกรอยู่ที่ตำบลห้วยน้ำหอม อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ มีอาชีพเสริมด้วยการเลี้ยงแมงสะดิ้งมานานหลายปี ด้วยการเลี้ยงในลังไม้ขนาด 3x1 เมตร จำนวน 8 ลัง ซึ่งใช้ตาข่ายโปร่งมาคลุมทับ เพื่อป้องกัน จิ้งจก ตุ๊กแก เข้ามาลักขโมยกิน และป้องกันแมลงไต่ออกมานอกลัง ภายในลังจะบรรจุแกลบไว้สำหรับวางไข่ และมีแผงไข่หลายสิบอันวางไว้เป็นแหล่งอาศัยของแมงสะดิ้งด้วย จุดเด่นของแมงสะดิ้งคือ เป็นอาหารที่ให้โปรตีนสูง จึงได้รับความนิยมจากคนทั่วไป
ขอบคุณ… http://manager.co.th/iBizchannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000016998 (ขนาดไฟล์: 172)
(manager.co.th ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 17 ก.พ.57 )
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ลุงดำ กุมภาพันธ์ เจ้าของฟาร์มแมงสะดิ้ง เวลานี้ถ้าไม่พูดถึงชาวนาก็ คงจะเหมือนตกเทรนด์ วันนี้จึงอยากนำเสนออาชีพเสริมของชาวนาท่านหนึ่ง “ลุงดำ กุมภาพันธ์” ลุงดำมีอาชีพหลักคือทำนา แต่รายได้จากการทำนาไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงครอบครัว จึงหันมาเลี้ยงแมงสะดิ้ง หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในชื่อของ จิ้งหรีดขาว เลี้ยงในขัน เพื่อให้แมลงลงไปไข่ ลุงดำเล่าว่า เดิมประกอบอาชีพทำนาเพียงอย่างเดียว มีรายได้พออยู่พอกิน กระทั่งลูกเขยได้จุดประกายแนะนำให้เลี้ยงแมงสะดิ้ง เนื่องจากทราบข่าวว่าเกษตรกรในหลายพื้นที่ภาคอีสานต่างมีรายได้อย่างงามจาก การเลี้ยงแมลงนี้ จึงได้เริ่มศึกษา และไปซื้อพันธุ์มาทดลองเลี้ยงในลังไม้ เริ่ม ต้นจาก 3 ลัง จนปัจจุบันมีแมงสะดิ้งเลี้ยงไว้ทั้งหมด 8 ลัง และสามารถสร้างรายได้จากการขายต่อ 1 รอบการเก็บ ในระยะเวลา 2 เดือน ประมาณ 15,000 บาท สำหรับการขายจะนำแมลงมาทอด และนำมาบรรจุใส่ถุงพลาสติก ก่อนที่จะนำไปตระเวนขายเองตามท้องตลาด วันหนึ่งขายได้ประมาณ 30 ถุง ราคาถุงละ 20 บาท เลี้ยงในขัน เพื่อให้แมลงลงไปไข่ ลุงดำเล่าถึงขั้นตอนการเลี้ยงแมงสะดิ้ง หรือจิ้งหรีดขาว ว่า ขั้น ตอนการเลี้ยงไม่มีอะไรยุ่งยาก ไม่จำเป็นต้องดูแลอะไรมาก แต่ต้องจัดตั้งสถานที่เลี้ยงให้ดี โดยที่เลี้ยงจะต้องป้องกันแสงแดดและฝนได้ ส่วนอาหารจะให้รำ หัวอาหารสัตว์ รวมถึงอาหารเสริมอย่างพืชผักและผลไม้เป็นหลัก ส่วนระยะเวลาในการเลี้ยงจะใช้เวลาตั้งแต่เริ่มฟักไข่ไปจนถึง 2 เดือนแมงสะดิ้งจึงจะโตเต็มวัย และเริ่มจับนำไปทอดขายได้ ซึ่งช่วงดังกล่าวจะสามารถจับได้ประมาณ 60 วัน เพราะหลังจากนั้นแมงสะดิ้งจะตายหมดเนื่องจากเต็มอายุขัยของมัน อย่างไรก็ตาม หลังจากหมดรอบการจับไปแล้ว จะนำไข่ของแมงสะดิ้งที่ทิ้งไว้ในขันมาทำการเพาะเลี้ยงต่อไป ซึ่งแต่ละปีสามารถเลี้ยงได้ 4-5 รุ่น และแต่ละรุ่น จะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 10,000 บาทถึง 15,000 บาท ซึ่งถือว่ารายได้ดีกว่าอาชีพทำนาเพราะนอกจากจะสามารถนำไปทำเป็นอาหาร ยังสามารถนำมูลของมันไปทำปุ๋ยขายได้อีกด้วย ขึงตาข่าย ป้องกันแมลงไต่ออกจิ้งจก ตุ๊กแก “หากเกษตรกรในพื้นที่รายไหนต้องการจะหันมาเลี้ยงแมงสะดิ้งเพื่อ เสริมรายได้หรือให้เป็นอาชีพหลักสามารถปรึกษาได้ ผมยินดีให้คำแน่ะนำโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย รับรองว่าจะมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด” นายดำกล่าว สำหรับลุงดำ เป็น เกษตรกรอยู่ที่ตำบลห้วยน้ำหอม อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ มีอาชีพเสริมด้วยการเลี้ยงแมงสะดิ้งมานานหลายปี ด้วยการเลี้ยงในลังไม้ขนาด 3x1 เมตร จำนวน 8 ลัง ซึ่งใช้ตาข่ายโปร่งมาคลุมทับ เพื่อป้องกัน จิ้งจก ตุ๊กแก เข้ามาลักขโมยกิน และป้องกันแมลงไต่ออกมานอกลัง ภายในลังจะบรรจุแกลบไว้สำหรับวางไข่ และมีแผงไข่หลายสิบอันวางไว้เป็นแหล่งอาศัยของแมงสะดิ้งด้วย จุดเด่นของแมงสะดิ้งคือ เป็นอาหารที่ให้โปรตีนสูง จึงได้รับความนิยมจากคนทั่วไป แมงสะดิ้ง ขอบคุณ… http://manager.co.th/iBizchannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000016998 (manager.co.th ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 17 ก.พ.57 )
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)