เดินหน้าอุตสาหกรรมโคนมยุคใหม่

เดินหน้าอุตสาหกรรมโคนมยุคใหม่

เดินหน้าอุตสาหกรรมโคนมยุคใหม่ ปัจจุบันอุตสาหกรรมนมไทยได้ก้าวหน้าไปมาก องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย หรือ อ.ส.ค. มีนโยบายยกระดับความสามารถของบุคลากรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันอุตสาหกรรมนมไทยได้ก้าวหน้าไปมาก องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย หรือ อ.ส.ค. มีนโยบายยกระดับความสามารถของบุคลากรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรทุกระดับตั้งแต่ระดับผู้บริหารและพนักงานให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ (Brand) และการสื่อสารแบรนด์ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถสร้างแบรนด์นมไทย-เดนมาร์คให้เป็นที่ยอมรับและครองใจผู้บริโภคอย่างยั่งยืน

ล่าสุด อ.ส.ค.ได้ระดมทีมจัดทำแผน การตลาดและการขายปี 59 มุ่งขยายตลาดและเพิ่มยอดขายนมไทย-เดนมาร์คสูงขึ้นทั้งภายในและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดใหม่อย่างประเทศเมียนมาซึ่งกำลังไปได้สวยและได้รับการตอบรับดี พร้อมวางแผนขยายตลาดในเวียดนาม และมาเลเซีย โดยตั้งเป้ายอดขายรวมอยู่ที่ 8,482 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังได้วางแผนยุทธศาสตร์พัฒนาแบรนด์ ปี 2560-2564 เพื่อผลักดันให้แบรนด์นมไทย-เดนมาร์คเป็นแบรนด์นมแห่งชาติให้ได้ภายใน 6 ปีข้างหน้าอีกด้วย

นายณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผอ.ส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ยอดขายกลุ่มสินค้านมของ อ.ส.ค.เติบโตอย่าง ต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2558 นี้ ยอดขายก็เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 7,900 ล้านบาท โดยอัตราการเติบโตของตลาดในประเทศ อยู่ที่ 10% ส่วนยอดขายในต่างประเทศโตขึ้น ประมาณ 20% ซึ่งมีบางประเทศที่โตขึ้นเกือบ 30 % มีตลาดส่งออกหลัก คือ ประเทศกัมพูชา และ สปป.ลาว “การที่ อ.ส.ค.ได้เร่งพัฒนาบุคลากรและระดมทีมตลาดและฝ่ายขายร่วมพัฒนากลยุทธ์การสร้างแบรนด์ คาดว่าจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับ อ.ส.ค. สามารถชิงส่วนแบ่งและครองตลาดนมพร้อมดื่มในประเทศได้เพิ่มมากขึ้น พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดนมพร้อมดื่มของประเทศในอนาคตอันใกล้นี้” นายณรงค์ฤทธิ์ กล่าว

เดินหน้าอุตสาหกรรมโคนมยุคใหม่

อย่างไรก็ตาม การที่อุตสาหกรรมโคนมของไทยมีความเติบโตมาถึงทุกวันนี้ ก็เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนมให้แก่ปวงชนชาวไทย ซึ่งหลังจากพระองค์เสด็จประพาสทวีปยุโรปในปีพุทธศักราช 2503 ทรงสนพระทัยในกิจการฟาร์มโคนมของชาวเดนมาร์กเป็นอย่างมาก ด้วยทรงเห็นว่าอาชีพการเลี้ยงโคนมน่าจะเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรและประเทศไทย

หลังจากเสด็จนิวัติประเทศไทย รัฐบาลเดนมาร์กจึงได้ถวายโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมเป็นของขวัญแด่ล้นเกล้า ทั้งสองพระองค์ เพื่อให้ดำเนินโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมในประเทศไทยบรรลุตามเจตนารมณ์ที่ตั้งไว้โดยได้ดำเนินการจัดตั้ง “ฟาร์มโคนม” และ “ศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนมไทย-เดนมาร์ค” ขึ้นที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี และพระองค์ท่านพร้อมด้วย พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 9 แห่งประเทศเดนมาร์ก ได้เสด็จฯ เปิดฟาร์มโคนม เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2505 จากนั้นมาคณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้ วันที่ 17 ม.ค. เป็นวันโคนมแห่งชาติจึงถือเป็นวันสำคัญยิ่ง ต่ออาชีพการเลี้ยงโคนมในประเทศไทย

เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ อ.ส.ค. จึงจัดเทศกาลโคนมแห่งชาติ เป็นประจำทุกปี ซึ่งเป็นการแสดงความก้าวหน้าของวิทยาการด้านการเลี้ยงโคนมและอุตสาหกรรมโคนมของประเทศระหว่างวันที่ 27 ม.ค.-2 ก.พ. ที่ผ่านมา ภายใต้แนวคิด “สืบ สานพระราชปณิธาน อุตสาหกรรมโคนมไทยยุคใหม่สู่นมแห่งชาติ

ซึ่งภายในงานได้รับความสนใจจากเกษตร กรผู้เลี้ยงโคนมและประชาชนมาร่วมงาน และเข้าร่วมอบรมใน หัวข้อต่าง ๆ เป็นจำนวน มาก.

ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/agriculture/378483 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 10 ก.พ.59
วันที่โพสต์: 17/02/2559 เวลา 11:19:03 ดูภาพสไลด์โชว์ เดินหน้าอุตสาหกรรมโคนมยุคใหม่