ผู้ส่งออกไทย คาดปี 59 ขายข้าวตามเป้า 9.5 ล้านตัน มั่นใจแซงหน้าอินเดีย
สมาคมผู้ส่งออกข้าว เผย 1 ม.ค.-3 พ.ค.59 ไทยขึ้นเบอร์ 1 ส่งออกข้าวมากสุดในโลก คาด ทั้งปีส่งออกตามเป้า 9.5 ล้านตัน แซงหน้าอินเดียแน่นอน เหตุ เร่งส่งมอบสัญญาจีทูจี ขณะที่ กรมการค้าต่างประเทศ เปิดยื่นซองคุณสมบัติร่วมประมูลข้าว 10.2 ล้านตัน ผู้สนใจแห่ยื่นซองถึง 51 ราย...
วันที่ 17 พ.ค.59 นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-3 พ.ค.59 ไทยส่งออกข้าว 3.75 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 30.75% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นปริมาณส่งออกสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก มากกว่าอินเดียที่ส่งออกได้ 3.23 ล้านตัน ลดลง 20.78% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เวียดนามส่งออกได้ 2.16 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 14% และปากีสถานส่งออกได้ 1.72 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 14.94% คาดว่าปีนี้ไทยจะส่งออกได้ตามเป้าหมาย 9.5 ล้านตัน และกลับมาเป็นผู้ส่งออกข้าวที่มีปริมาณส่งออกมากเป็นอันดับ 1 ของโลก แซงหน้าอินเดีย ที่ปีก่อนเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ด้วยปริมาณ 10.9 ล้านตัน แต่ปีนี้คาดจะส่งออกได้เพียง 8-8.5 ล้านตันเท่านั้น เพราะภัยแล้งทำให้ผลผลิตข้าว และสต็อกข้าวลดลง ขณะที่เวียดนามคาดปีนี้จะส่งออกได้ 6.7-7 ล้านตัน
"สาเหตุที่ไทยส่งออกข้าวสูงมาก เพราะมีการส่งมอบข้าวตามคำสั่งซื้อแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่มีปริมาณรวมถึง 1 ล้านตัน หลังเดือน พ.ค.นี้ สัญญาส่งมอบดังกล่าวจะหมดลง ปริมาณการส่งออกข้าวจะค่อยๆ กลับสู่ภาวะปกติ แต่ช่วงปลายไตรมาส 2–3 ปีนี้ ตลาดจะกลับมาดีขึ้น จากผู้ซื้อรายใหญ่ๆ เช่น อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ จะเริ่มนำเข้าข้าว"
ส่วนการที่กรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมประมูลข้าวสารในสต็อกรัฐบาลเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 3/59 ปริมาณ 1.2 ล้านตัน ยื่นเอกสารเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ เมื่อวันที่ 17 พ.ค.59 และได้รับความสนใจจากผู้ส่งออก โรงสี และค้าข้าวในประเทศจำนวนมาก เพราะต้องการหาซื้อข้าวในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด ทำให้ราคาข้าวในภาพรวมปรับตัวสูงสุดในรอบ 2 ปี โดยราคาส่งออกข้าวหอมมะลิอยู่ที่ตันละ 795 เหรียญสหรัฐฯ ข้าวเหนียวตันละ 900 เหรียญสหรัฐฯ และข้าวขาวตันละ 439 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งหลังจากนี้ รัฐบาลควรเร่งระบายข้าวอีก 2-3 ครั้ง ก่อนที่ผลผลิตฤดูใหม่จะออกสู่ตลาด
ด้าน นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค.59 กรมฯ ได้เปิดให้ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมประมูลข้าวสารในสต็อกรัฐบาลเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 3/59 ปริมาณ 1.2 ล้านตัน ยื่นเอกสารเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ โดยมีผู้ประกอบการสนใจยื่นเอกสารรวม 51 ราย ถือว่าได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะขณะนี้ตลาดมีความต้องการข้าวเพิ่มขึ้น หลังจากที่ผลผลิตข้าวเปลือกในประเทศออกสู่ตลาดหมดแล้ว และแนวโน้มผลผลิตน่าจะลดลง จากปัญหาภัยแล้ง โดยจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติในวันที่ 19 พ.ค.59 และให้ยื่นซองเสนอราคาวันเดียวกัน
ขณะที่ การติดตามทวงค่าเสียหายจากการขายข้าวในรูปรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) จำนวน 4 สัญญา ปริมาณข้าว 6.2 ล้านตัน มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 หมื่นล้านบาท กับนักการเมืองและข้าราชการรวม 6 คน กรมฯ อยู่ระหว่างรอคำตอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่เป็นผู้ดำเนินการส่งหนังสือเรียกค่าเสียหายกับบุคคลที่เกี่ยวข้องว่าควรเป็นกระทรวงพาณิชย์หรือหน่วยอื่นๆ หรือจะต้องแยกการดำเนินการระหว่างข้าราชการเมืองกับข้าราชการประจำ หรือจะดำเนินการไปพร้อมกัน และประเด็นการนับอายุความว่าควรเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไร เพราะตามกฎหมายกำหนดไว้ 2 ปี เชื่อว่า กฤษฎีกาจะให้คำตอบเร็ว จากนั้นจะเร่งดำเนินการในทันที.
ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/621772 (ขนาดไฟล์: 167)