นวัตกรรมตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ (ทรู) "แอป" เพื่อสุขภาพและสังคม

แสดงความคิดเห็น

ผู้บริหารกลุ่มบริษัท ทรูแสดงแอพพริเคชั่นบนสมาทร์โฟน

เทคโนโลยีมีประโยชน์ถ้ารู้จักนำมาใช้ให้ถูกที่ถูกทาง สิ่งที่มาคู่กับสมาร์ทดีไวซ์ทั้งหลาย ก็คือบรรดา "แอปพลิเคชั่น" ซึ่งมีให้เลือกเพียบ จะฟรีหรือเสียตังค์ก็แล้วแต่ มี "แอป" ดี ๆ ที่พัฒนาโดยฝีมือคนไทยให้เห็นกันมากขึ้น ซึ่งเรื่องฝีมือเราไม่เป็นลองใคร ขาดแค่โอกาส และการสนับสนุน

เมื่อเร็ว ๆ นี้ กลุ่มทรูเปิดตัวแอปพลิเคชั่นน่าสนใจ โดย "ดร.กันทิมา กุญชร ณ อยุธยา" ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารองค์กร ประชาสัมพันธ์การตลาด และกิจกรรมองค์กร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า มองเห็นประโยชน์ของเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการสื่อสารที่จะมีส่วนช่วย พัฒนาการศึกษา และช่วยเหลือสังคมจึงได้ร่วมมือกับมูลนิธิออทิสติกแห่งประเทศไทย สร้างแอปพลิเคชั่นทางการศึกษาสำหรับเด็กออสทิสติก Autistic Application เน้นพัฒนาทักษะการเรียนรู้ เสริมสมรรถภาพทางร่างกายและสติปัญญาให้เด็กกลุ่มนี้พัฒนาตนเอง และดำรงชีวิตได้อย่างปกติ

"พิชิต ธันโยดม" หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัทเดียวกัน เสริมว่า Autistic Application เป็นแอปแรกในประเทศไทย เริ่มใช้งานจริงเมื่อ ส.ค.ปีที่แล้ว และประสบความสำเร็จอย่างสูง มียอดดาวน์โหลดติดอันดับ 1 ในแอปเพื่อการศึกษาของประเทศแถบตะวันออกกลาง ติด 1 ใน 10 แอปการศึกษาที่ได้รับความนิยมสูงสุดใน 25 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดมากถึง 198,200 ดาวน์โหลด ซึ่งต่อไปบริษัทจะพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อสังคมอื่น ๆ เช่น แอปช่วยคนตาบอด และชาวนา เป็นต้น

"ปรีดิ์ หวังเจริญ" นวัตกร ผู้ร่วมคิดค้น Autistic Application กล่าวว่า เห็นความสำคัญของแท็บแลตในการช่วยพัฒนาทักษะของเด็กออทิสติก ซึ่งในประเทศไทย ยังไม่มีใครเห็นความสำคัญจึงเริ่มพัฒนาแอป ใช้เวลาศึกษาทดลองกว่า 6 เดือนกับเด็กเกือบ 40 คน เพื่อให้เข้าใจปัญหา และความต้องการของเด็กเหล่านี้โดยได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิออทิสติก และผู้ปกครองเด็ก จนสำเร็จเป็น Autistic Application ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรก Daily Tasks สอนกิจวัตรประจำวัน เช่น การแปรงฟัน อาบน้ำ สระผม ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทักษะความมั่นใจ ทักษะกล้ามเนื้อมัดเล็ก และการลอกเลียนแบบ ส่วนที่ 2 Trace & Share สอนทักษะการลากเส้น ส่งเสริมให้รู้จักการรอคอยและการแบ่งปัน เพื่อช่วยในการพัฒนาทักษะด้านวิชาการและการเข้าสังคม สุดท้าย Communication สอนการสื่อสารและออกเสียงโดยใช้สมุดภาพ สามารถเพิ่มภาพที่ต้องการเข้าไปได้ช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะด้านภาษาและการสื่อสารกับบุคคลอื่น

"เรายัง พัฒนาแอปต่อเนื่องเพื่อให้ใช้งานได้มากขึ้น และพยายามแปลเป็นภาษาต่างประเทศกว่า 3 ภาษา คือ อังกฤษ จีน อาหรับ และหวังว่าแอปนี้จะเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตของเด็กเหล่านี้ได้"

ด้าน "อ.ชูศักดิ์ จันทยานนท์" ประธานมูลนิธิออทิสติก กล่าวว่า เด็กออทิสติกในประเทศไทยมีมากถึง 370,000 คน แต่มีบัตรคนพิการเพียง 4,000 คน ทำให้เด็กอีกเป็นจำนวนมากขาดความช่วยเหลือในการพัฒนาและฟื้นฟูสมรรถภาพ เนื่องจากค่าใช้จ่ายมีราคาแพง ขณะที่สื่อทางเลือกอื่นที่มีก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ได้เหมือน Autistic Application ที่ศึกษาจากเด็กจริง ๆ มีการทดลองหลายครั้งกว่าจะประสบผลสำเร็จ โดยเด็กที่ทดลองใช้งานมีพัฒนาการดีขึ้นและสามารถสื่อสารกับของคนรอบข้างได้ ดีกว่าเดิม

"มูลนิธิออทิสติกยังต้องการช่วยเหลือเด็กที่ขาดแคลนแท็บเลต แต่แม้การใช้แอปจะมีประโยชน์แต่ผู้ปกครองไม่ควรปล่อยให้เด็กใช้นานเกินไป ทั้งระหว่างใช้ควรมีผู้ใหญ่ให้คำแนะนำด้วย"

ล่าสุด "ทรูมูฟ เอช" ยังร่วมมือโรงพยาบาลในเครือสมิติเวช และบีเอ็นเอช เปิดตัวแอปพลิชั่น "Samitivej Connect by TrueMove H" และ "BNH Connect by TrueMove H" โดย "แพทย์หญิงสมสิริ สกลสัตยาทร"ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือโรงพยาบาลสมิติเวชและบีเอ็นเอช กล่าวว่า วิถีคนเมืองมีภารกิจรัดตัวเร่งรีบท่ามกลางจราจรติดขัด การมาโรงพยาบาลแต่ละครั้งไม่ได้ทำได้ง่าย มิติใหม่ของโรงพยาบาลสมิติเวชและบีเอ็นเอช คือออกไปหาคนไข้ไปดูแลให้เขาอุ่นใจเรื่องสุขภาพ ถือเป็น Innovative Personal Care โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้แนะนำขั้นตอนที่ถูกต้องเช่น ควรมาพบแพทย์ หรือส่ง ambulance ไปรับเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินทำให้คนไข้มั่นใจได้ว่า อยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญตลอดเวลา

"เราร่วมกับทรูมูฟเอชนำการส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์มาใช้กับทางการแพทย์ โดยพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพเพื่อเพิ่มความสามารถในการดูแลคนไข้ได้ดียิ่ง ขึ้น ผ่านแอปบนมือถือให้คนไข้ติดต่อแพทย์หรือพยาบาลได้ทุกที่ทุกเวลา เพราะความรวดเร็วในการดูแลรักษาอาการเจ็บป่วยสำคัญมาก เพียงเสี้ยววินาทีอาจหมายถึงชีวิต"

การนำเทคโนโลยีด้านไอทีมาเชื่อม โยงระบบงานโรงพยาบาลเพื่อการให้บริการแบบไร้ข้อจำกัด แอปล่าสุดถือเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ เปิดให้บริการมีฟังก์ชั่นดังนี้ ผู้ช่วยส่วนตัว Personalized Health Secretary มีทีมเจ้าหน้าที่รู้ใจตอบทุกคำถามเรื่องสุขภาพ 24 ชั่วโมงตลอด 7 วัน, โทร.หาเพื่อนรู้ใจของคุณหรือคนที่คอยดูแลคุณ เช่น สามี ภรรยา หรือ ลูก, เตือนนัดหมายแพทย์ และเรียกรถพยาบาลฉุกเฉิน โดยจะรู้ตำแหน่งของคุณได้ เฟสแรกให้สิทธิพิเศษผู้รับบริการโรงพยาบาลเครือสมิติเวช และบีเอ็นเอช กว่า 5,000 ราย เฟส 2 จะพัฒนาเพื่อดูแลกลุ่มคนไข้เฉพาะโรคที่ต้องเข้าถึงข้อมูล และการดูแลใกล้ชิด ได้แก่ โรคไต เบาหวาน และหัวใจ เป็นต้น

ขอบคุณ http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1366002642&grpid=&catid=06&subcatid=0603

ที่มา: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 15 เม.ย.56
วันที่โพสต์: 16/04/2556 เวลา 03:52:11 ดูภาพสไลด์โชว์ นวัตกรรมตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ (ทรู) "แอป" เพื่อสุขภาพและสังคม

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ผู้บริหารกลุ่มบริษัท ทรูแสดงแอพพริเคชั่นบนสมาทร์โฟน เทคโนโลยีมีประโยชน์ถ้ารู้จักนำมาใช้ให้ถูกที่ถูกทาง สิ่งที่มาคู่กับสมาร์ทดีไวซ์ทั้งหลาย ก็คือบรรดา "แอปพลิเคชั่น" ซึ่งมีให้เลือกเพียบ จะฟรีหรือเสียตังค์ก็แล้วแต่ มี "แอป" ดี ๆ ที่พัฒนาโดยฝีมือคนไทยให้เห็นกันมากขึ้น ซึ่งเรื่องฝีมือเราไม่เป็นลองใคร ขาดแค่โอกาส และการสนับสนุน เมื่อเร็ว ๆ นี้ กลุ่มทรูเปิดตัวแอปพลิเคชั่นน่าสนใจ โดย "ดร.กันทิมา กุญชร ณ อยุธยา" ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารองค์กร ประชาสัมพันธ์การตลาด และกิจกรรมองค์กร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า มองเห็นประโยชน์ของเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการสื่อสารที่จะมีส่วนช่วย พัฒนาการศึกษา และช่วยเหลือสังคมจึงได้ร่วมมือกับมูลนิธิออทิสติกแห่งประเทศไทย สร้างแอปพลิเคชั่นทางการศึกษาสำหรับเด็กออสทิสติก Autistic Application เน้นพัฒนาทักษะการเรียนรู้ เสริมสมรรถภาพทางร่างกายและสติปัญญาให้เด็กกลุ่มนี้พัฒนาตนเอง และดำรงชีวิตได้อย่างปกติ "พิชิต ธันโยดม" หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัทเดียวกัน เสริมว่า Autistic Application เป็นแอปแรกในประเทศไทย เริ่มใช้งานจริงเมื่อ ส.ค.ปีที่แล้ว และประสบความสำเร็จอย่างสูง มียอดดาวน์โหลดติดอันดับ 1 ในแอปเพื่อการศึกษาของประเทศแถบตะวันออกกลาง ติด 1 ใน 10 แอปการศึกษาที่ได้รับความนิยมสูงสุดใน 25 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดมากถึง 198,200 ดาวน์โหลด ซึ่งต่อไปบริษัทจะพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อสังคมอื่น ๆ เช่น แอปช่วยคนตาบอด และชาวนา เป็นต้น "ปรีดิ์ หวังเจริญ" นวัตกร ผู้ร่วมคิดค้น Autistic Application กล่าวว่า เห็นความสำคัญของแท็บแลตในการช่วยพัฒนาทักษะของเด็กออทิสติก ซึ่งในประเทศไทย ยังไม่มีใครเห็นความสำคัญจึงเริ่มพัฒนาแอป ใช้เวลาศึกษาทดลองกว่า 6 เดือนกับเด็กเกือบ 40 คน เพื่อให้เข้าใจปัญหา และความต้องการของเด็กเหล่านี้โดยได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิออทิสติก และผู้ปกครองเด็ก จนสำเร็จเป็น Autistic Application ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรก Daily Tasks สอนกิจวัตรประจำวัน เช่น การแปรงฟัน อาบน้ำ สระผม ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทักษะความมั่นใจ ทักษะกล้ามเนื้อมัดเล็ก และการลอกเลียนแบบ ส่วนที่ 2 Trace & Share สอนทักษะการลากเส้น ส่งเสริมให้รู้จักการรอคอยและการแบ่งปัน เพื่อช่วยในการพัฒนาทักษะด้านวิชาการและการเข้าสังคม สุดท้าย Communication สอนการสื่อสารและออกเสียงโดยใช้สมุดภาพ สามารถเพิ่มภาพที่ต้องการเข้าไปได้ช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะด้านภาษาและการสื่อสารกับบุคคลอื่น "เรายัง พัฒนาแอปต่อเนื่องเพื่อให้ใช้งานได้มากขึ้น และพยายามแปลเป็นภาษาต่างประเทศกว่า 3 ภาษา คือ อังกฤษ จีน อาหรับ และหวังว่าแอปนี้จะเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตของเด็กเหล่านี้ได้" ด้าน "อ.ชูศักดิ์ จันทยานนท์" ประธานมูลนิธิออทิสติก กล่าวว่า เด็กออทิสติกในประเทศไทยมีมากถึง 370,000 คน แต่มีบัตรคนพิการเพียง 4,000 คน ทำให้เด็กอีกเป็นจำนวนมากขาดความช่วยเหลือในการพัฒนาและฟื้นฟูสมรรถภาพ เนื่องจากค่าใช้จ่ายมีราคาแพง ขณะที่สื่อทางเลือกอื่นที่มีก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ได้เหมือน Autistic Application ที่ศึกษาจากเด็กจริง ๆ มีการทดลองหลายครั้งกว่าจะประสบผลสำเร็จ โดยเด็กที่ทดลองใช้งานมีพัฒนาการดีขึ้นและสามารถสื่อสารกับของคนรอบข้างได้ ดีกว่าเดิม "มูลนิธิออทิสติกยังต้องการช่วยเหลือเด็กที่ขาดแคลนแท็บเลต แต่แม้การใช้แอปจะมีประโยชน์แต่ผู้ปกครองไม่ควรปล่อยให้เด็กใช้นานเกินไป ทั้งระหว่างใช้ควรมีผู้ใหญ่ให้คำแนะนำด้วย" ล่าสุด "ทรูมูฟ เอช" ยังร่วมมือโรงพยาบาลในเครือสมิติเวช และบีเอ็นเอช เปิดตัวแอปพลิชั่น "Samitivej Connect by TrueMove H" และ "BNH Connect by TrueMove H" โดย "แพทย์หญิงสมสิริ สกลสัตยาทร"ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือโรงพยาบาลสมิติเวชและบีเอ็นเอช กล่าวว่า วิถีคนเมืองมีภารกิจรัดตัวเร่งรีบท่ามกลางจราจรติดขัด การมาโรงพยาบาลแต่ละครั้งไม่ได้ทำได้ง่าย มิติใหม่ของโรงพยาบาลสมิติเวชและบีเอ็นเอช คือออกไปหาคนไข้ไปดูแลให้เขาอุ่นใจเรื่องสุขภาพ ถือเป็น Innovative Personal Care โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้แนะนำขั้นตอนที่ถูกต้องเช่น ควรมาพบแพทย์ หรือส่ง ambulance ไปรับเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินทำให้คนไข้มั่นใจได้ว่า อยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญตลอดเวลา "เราร่วมกับทรูมูฟเอชนำการส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์มาใช้กับทางการแพทย์ โดยพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพเพื่อเพิ่มความสามารถในการดูแลคนไข้ได้ดียิ่ง ขึ้น ผ่านแอปบนมือถือให้คนไข้ติดต่อแพทย์หรือพยาบาลได้ทุกที่ทุกเวลา เพราะความรวดเร็วในการดูแลรักษาอาการเจ็บป่วยสำคัญมาก เพียงเสี้ยววินาทีอาจหมายถึงชีวิต" การนำเทคโนโลยีด้านไอทีมาเชื่อม โยงระบบงานโรงพยาบาลเพื่อการให้บริการแบบไร้ข้อจำกัด แอปล่าสุดถือเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ เปิดให้บริการมีฟังก์ชั่นดังนี้ ผู้ช่วยส่วนตัว Personalized Health Secretary มีทีมเจ้าหน้าที่รู้ใจตอบทุกคำถามเรื่องสุขภาพ 24 ชั่วโมงตลอด 7 วัน, โทร.หาเพื่อนรู้ใจของคุณหรือคนที่คอยดูแลคุณ เช่น สามี ภรรยา หรือ ลูก, เตือนนัดหมายแพทย์ และเรียกรถพยาบาลฉุกเฉิน โดยจะรู้ตำแหน่งของคุณได้ เฟสแรกให้สิทธิพิเศษผู้รับบริการโรงพยาบาลเครือสมิติเวช และบีเอ็นเอช กว่า 5,000 ราย เฟส 2 จะพัฒนาเพื่อดูแลกลุ่มคนไข้เฉพาะโรคที่ต้องเข้าถึงข้อมูล และการดูแลใกล้ชิด ได้แก่ โรคไต เบาหวาน และหัวใจ เป็นต้น ขอบคุณ … http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1366002642&grpid=&catid=06&subcatid=0603

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...