กลุ่มผู้พิการยื่นฟ้องแพ่ง กทม.ไม่สร้างลิฟต์ขึ้น BTS 23 สถานี ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด

แสดงความคิดเห็น

กลุ่มคนพิการนั่งวีลแชร์ฟ้องแพ่ง กทม.ไม่สร้างลิฟต์อำนวยความสะดวกผู้การขึ้น BTS ให้ครบทั้ง 23 สถานี

ผู้พิการนั่งวีลแชร์ฟ้องแพ่ง กทม.ไม่สร้างลิฟต์อำนวยความสะดวกผู้การขึ้น BTS ให้ครบทั้ง 23 สถานี หลังศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ชนะคดีและ กทม.ต้องสร้างเสร็จภายในปี 59 ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก วันที่ (20 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. นายสุพรธรรม มงคลสวัสดิ์ อายุ 50 ปี ผู้พิการเหลือร่างกายท่อนบน ครูและเลขานุการโรงเรียนวัดมหาไถ่ พร้อมด้วยกลุ่มพิการรวม 98 คนได้เดินทางมาโดยรถวีลแชร์จากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ลาดพร้าว มายังศาล เพื่อยื่นฟ้องกรุงเทพมหานครเป็นจำเลยเรื่องกระทำละเมิด เรียกค่าเสียหายจากกรณีที่กรุงเทพมหานครไม่ดำเนินการสร้างลิฟต์อำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการในการใช้บริการรถไฟฟ้า BTS โดยเร็วตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ขณะที่ยื่นฟ้องครั้งนี้ กลุ่มผู้พิการยังยื่นคำร้องขอยกเว้นการวางเงินค่าธรรมเนียมศาลด้วยโดยอ้างสิทธิตามพ.ร.บ.คนพิการ

โดยคำฟ้องบรรยายพฤติการณ์ความเสียหายสรุปว่า นายสุพรชัย โจทก์ พิการเป็นโปลิโอ ขาอ่อนแรงต้องตัดขาทั้งสองออก เป็นคนพิการตามนัยของ พ.ร.บ.คนพิการฯ ที่มีข้อจำกัดไม่อาจใช้ชีวิตประจำวันเหมือนคนทั่วไป ส่วนกรุงเทพมหานคร จำเลย มีอำนาจหน้าที่ในการจัดวิศวกรรมจราจร การขนส่ง การควบคุมอาคาร สาธารณูปโภค มี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นผู้ว่าการฯ ซึ่งจำเลยได้จัดให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ บริการสาธารณะ คือรถไฟฟ้า BTS โดยโจทก์เรียกร้องให้จัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกแก่คนพิการ เช่น ลิฟต์ เพื่อเป็นหลักประกันในสิทธิ เสรีภาพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จะได้ใช้ชีวิตเท่าเทียมคนทั่วไปเพราะโจทก์เดือดร้อน ทั้งนี้ก็เพราะไม่มีการทำลิฟต์รับส่งคนพิการให้ครบ 23 สถานี และไม่จัดทำอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแก่ความพิการ

กลุ่มคนพิการนั่งวีลแชร์ฟ้องแพ่ง กทม.ไม่สร้างลิฟต์อำนวยความสะดวกผู้การขึ้น BTS ให้ครบทั้ง 23 สถานี

โจทก์เคยฟ้องคดีต่อศาลปกครอง และศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้จัดทำลิฟต์และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ภายใน 1 ปีนับแต่วันมีคำพิพากษา ซึ่งครบกำหนด 21 ม.ค. 59 ทั้งนี้ เมื่อศาลปกครองมีคำพิพากษาแล้ว ทำให้เกิดการรับรองสิทธิของโจทก์ตามกฎหมาย แต่จำเลยก็ยังไม่ปฏิบัติ ซึ่งมีลิฟต์ที่ใช้ได้เพียง 3 สถานี ที่เหลือไม่มีและไม่ครบถ้วน อีกทั้งยังไม่จัดให้มีจุดจอดรถคนพิการ โดยจำเลยเพิกเฉยไม่เห็นความสำคัญของการแก้ปัญหา ทั้งที่เป็นหน่วยงานรัฐมีอำนาจบังคับแก่หน่วยสาธารณูปโภคต่างให้ปฏิบัติกลับละเลย ถือว่าเป็นการจงใจละเมิดโจทก์ ที่ต้องเสียหายจากการมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การไม่ได้รับความสะดวกต่างๆ ที่คำนวณเป็นเงินวันละ 1,000 บาท รวม 361,000บาท ต่อ 1 คน โจทก์จึงมาฟ้องคดีเพื่อขอให้ศาลบังคับจำเลยตามฟ้องด้วย

ภายหลังนายวรกร ไหลหรั่ง ทนายความโจทก์เปิดเผยว่า ตนป่วยเป็นโรคขาอ่อนแรง ต้องใช้ชีวิตบนรถเข็น จึงรวมตัวกันมาได้ 98 คน จาก 200 คน เดินทางมาศาลแพ่งเพื่อยื่นฟ้องคดี ด้านนายสนธิพงศ์ มงคลสวัสดิ์ ทีมทนายความ กล่าวว่า คดีนี้ยื่นฟ้อง เป็นคดีแบบกลุ่มหรือคลาสแอ็กชัน เป็นวิธีการใหม่ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง คือ ไม่ต้องฟ้องทั้ง 98 คน หรือ 200 คน แต่ยื่นฟ้องไปคนเดียวก่อน ถ้าศาลรับฟ้องแล้วค่อยร่วมเป็นโจทก์ต่อไปเพราะมูลความแห่งคดีเหมือนกัน

โดยศาลแพ่งรับไว้เป็นคดีดำ ที่ พ.246/2560 และนัดไต่สวนการยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลวันเดียวกับวันนัดสืบพยานวันที่ 30 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ซึ่งการไต่สวนขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล เราจะอ้างเหตุตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมสุขภาพคนพิการ ทั้งนี้ปัจจุบันมีคนพิการทั่วประเทศ 2 ล้านคนที่รอรับการดำเนินการจากรัฐในเรื่องความสะดวกในการใช้ชีวิตทัดเทียมคนทั่วไป

ด้านนายธีรยุทธ สุคนธวิท ประธานเครือข่ายขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้ (Transport for All) เปิดเผยว่า เครือข่ายคนพิการรวมตัวฟ้อง กทม.ต่อศาลแพ่ง กรณีที่กรุงเทพมหานาคร ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง ที่ระบุให้มีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการ โดยเฉพาะการสร้างลิฟต์จำนวน 23 สถานีภายในเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 58 ซึ่งจากระยะเวลาตอนนี้ครบ 2 ปีแล้ว แต่สิ่งที่เห็นคือ โครงร่างการก่อสร้างเท่านั้น โดยเมื่อปีที่แล้วหลังครบเวลาคำสั่งศาล เครือข่ายฯ ได้สอบถามไปยัง กทม.เคยประกาศว่าจะสร้างให้เสร็จภายในเดือน ก.ย. 59 แต่ก็ไม่ได้มีความคืบหน้ามากนัก และ กทม.กลับไม่เร่งดำเนินการจึงรวมตัวมาทวงถามอีกครั้งเพราะมันคือความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างยาวนาน

อย่างไรก็ตาม เครือข่ายฯ ต้องการสื่อไปถึงผู้บริหาร กทม.ว่า ลิฟต์เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะคนพิการหรือคนที่ต้องใช้รถเข็นไม่สามารถนำรถเข็นขึ้นบันไดได้ จึงอยากให้ กทม.เร่งแก้ปัญหาดังกล่าว เพราะเป็นปัญหาที่ค้างคามานานมากตั้งแต่ปี 2538 ที่มีการสร้างรถไฟฟ้า (BTS) และในวันนี้ทางเครือข่ายฯจะเดินทางไปยังศาลแพ่ง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายวันละ 1,000 บาทต่อคนต่อวัน หากชนะคดีจะนำเงินที่ได้ไปไว้เพื่อใช้สร้างสาธารณูปโภคเพื่อคนพิการต่อไป

ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9600000006765 (ขนาดไฟล์: 166)

ที่มา: manager.co.thออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 20 ม.ค.60
วันที่โพสต์: 23/01/2560 เวลา 09:47:09 ดูภาพสไลด์โชว์ กลุ่มผู้พิการยื่นฟ้องแพ่ง กทม.ไม่สร้างลิฟต์ขึ้น BTS 23 สถานี ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

กลุ่มคนพิการนั่งวีลแชร์ฟ้องแพ่ง กทม.ไม่สร้างลิฟต์อำนวยความสะดวกผู้การขึ้น BTS ให้ครบทั้ง 23 สถานี ผู้พิการนั่งวีลแชร์ฟ้องแพ่ง กทม.ไม่สร้างลิฟต์อำนวยความสะดวกผู้การขึ้น BTS ให้ครบทั้ง 23 สถานี หลังศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ชนะคดีและ กทม.ต้องสร้างเสร็จภายในปี 59 ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก วันที่ (20 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. นายสุพรธรรม มงคลสวัสดิ์ อายุ 50 ปี ผู้พิการเหลือร่างกายท่อนบน ครูและเลขานุการโรงเรียนวัดมหาไถ่ พร้อมด้วยกลุ่มพิการรวม 98 คนได้เดินทางมาโดยรถวีลแชร์จากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ลาดพร้าว มายังศาล เพื่อยื่นฟ้องกรุงเทพมหานครเป็นจำเลยเรื่องกระทำละเมิด เรียกค่าเสียหายจากกรณีที่กรุงเทพมหานครไม่ดำเนินการสร้างลิฟต์อำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการในการใช้บริการรถไฟฟ้า BTS โดยเร็วตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ขณะที่ยื่นฟ้องครั้งนี้ กลุ่มผู้พิการยังยื่นคำร้องขอยกเว้นการวางเงินค่าธรรมเนียมศาลด้วยโดยอ้างสิทธิตามพ.ร.บ.คนพิการ โดยคำฟ้องบรรยายพฤติการณ์ความเสียหายสรุปว่า นายสุพรชัย โจทก์ พิการเป็นโปลิโอ ขาอ่อนแรงต้องตัดขาทั้งสองออก เป็นคนพิการตามนัยของ พ.ร.บ.คนพิการฯ ที่มีข้อจำกัดไม่อาจใช้ชีวิตประจำวันเหมือนคนทั่วไป ส่วนกรุงเทพมหานคร จำเลย มีอำนาจหน้าที่ในการจัดวิศวกรรมจราจร การขนส่ง การควบคุมอาคาร สาธารณูปโภค มี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นผู้ว่าการฯ ซึ่งจำเลยได้จัดให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ บริการสาธารณะ คือรถไฟฟ้า BTS โดยโจทก์เรียกร้องให้จัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกแก่คนพิการ เช่น ลิฟต์ เพื่อเป็นหลักประกันในสิทธิ เสรีภาพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จะได้ใช้ชีวิตเท่าเทียมคนทั่วไปเพราะโจทก์เดือดร้อน ทั้งนี้ก็เพราะไม่มีการทำลิฟต์รับส่งคนพิการให้ครบ 23 สถานี และไม่จัดทำอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแก่ความพิการ กลุ่มคนพิการนั่งวีลแชร์ฟ้องแพ่ง กทม.ไม่สร้างลิฟต์อำนวยความสะดวกผู้การขึ้น BTS ให้ครบทั้ง 23 สถานี โจทก์เคยฟ้องคดีต่อศาลปกครอง และศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้จัดทำลิฟต์และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ภายใน 1 ปีนับแต่วันมีคำพิพากษา ซึ่งครบกำหนด 21 ม.ค. 59 ทั้งนี้ เมื่อศาลปกครองมีคำพิพากษาแล้ว ทำให้เกิดการรับรองสิทธิของโจทก์ตามกฎหมาย แต่จำเลยก็ยังไม่ปฏิบัติ ซึ่งมีลิฟต์ที่ใช้ได้เพียง 3 สถานี ที่เหลือไม่มีและไม่ครบถ้วน อีกทั้งยังไม่จัดให้มีจุดจอดรถคนพิการ โดยจำเลยเพิกเฉยไม่เห็นความสำคัญของการแก้ปัญหา ทั้งที่เป็นหน่วยงานรัฐมีอำนาจบังคับแก่หน่วยสาธารณูปโภคต่างให้ปฏิบัติกลับละเลย ถือว่าเป็นการจงใจละเมิดโจทก์ ที่ต้องเสียหายจากการมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การไม่ได้รับความสะดวกต่างๆ ที่คำนวณเป็นเงินวันละ 1,000 บาท รวม 361,000บาท ต่อ 1 คน โจทก์จึงมาฟ้องคดีเพื่อขอให้ศาลบังคับจำเลยตามฟ้องด้วย ภายหลังนายวรกร ไหลหรั่ง ทนายความโจทก์เปิดเผยว่า ตนป่วยเป็นโรคขาอ่อนแรง ต้องใช้ชีวิตบนรถเข็น จึงรวมตัวกันมาได้ 98 คน จาก 200 คน เดินทางมาศาลแพ่งเพื่อยื่นฟ้องคดี ด้านนายสนธิพงศ์ มงคลสวัสดิ์ ทีมทนายความ กล่าวว่า คดีนี้ยื่นฟ้อง เป็นคดีแบบกลุ่มหรือคลาสแอ็กชัน เป็นวิธีการใหม่ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง คือ ไม่ต้องฟ้องทั้ง 98 คน หรือ 200 คน แต่ยื่นฟ้องไปคนเดียวก่อน ถ้าศาลรับฟ้องแล้วค่อยร่วมเป็นโจทก์ต่อไปเพราะมูลความแห่งคดีเหมือนกัน โดยศาลแพ่งรับไว้เป็นคดีดำ ที่ พ.246/2560 และนัดไต่สวนการยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลวันเดียวกับวันนัดสืบพยานวันที่ 30 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ซึ่งการไต่สวนขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล เราจะอ้างเหตุตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมสุขภาพคนพิการ ทั้งนี้ปัจจุบันมีคนพิการทั่วประเทศ 2 ล้านคนที่รอรับการดำเนินการจากรัฐในเรื่องความสะดวกในการใช้ชีวิตทัดเทียมคนทั่วไป ด้านนายธีรยุทธ สุคนธวิท ประธานเครือข่ายขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้ (Transport for All) เปิดเผยว่า เครือข่ายคนพิการรวมตัวฟ้อง กทม.ต่อศาลแพ่ง กรณีที่กรุงเทพมหานาคร ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง ที่ระบุให้มีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการ โดยเฉพาะการสร้างลิฟต์จำนวน 23 สถานีภายในเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 58 ซึ่งจากระยะเวลาตอนนี้ครบ 2 ปีแล้ว แต่สิ่งที่เห็นคือ โครงร่างการก่อสร้างเท่านั้น โดยเมื่อปีที่แล้วหลังครบเวลาคำสั่งศาล เครือข่ายฯ ได้สอบถามไปยัง กทม.เคยประกาศว่าจะสร้างให้เสร็จภายในเดือน ก.ย. 59 แต่ก็ไม่ได้มีความคืบหน้ามากนัก และ กทม.กลับไม่เร่งดำเนินการจึงรวมตัวมาทวงถามอีกครั้งเพราะมันคือความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม เครือข่ายฯ ต้องการสื่อไปถึงผู้บริหาร กทม.ว่า ลิฟต์เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะคนพิการหรือคนที่ต้องใช้รถเข็นไม่สามารถนำรถเข็นขึ้นบันไดได้ จึงอยากให้ กทม.เร่งแก้ปัญหาดังกล่าว เพราะเป็นปัญหาที่ค้างคามานานมากตั้งแต่ปี 2538 ที่มีการสร้างรถไฟฟ้า (BTS) และในวันนี้ทางเครือข่ายฯจะเดินทางไปยังศาลแพ่ง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายวันละ 1,000 บาทต่อคนต่อวัน หากชนะคดีจะนำเงินที่ได้ไปไว้เพื่อใช้สร้างสาธารณูปโภคเพื่อคนพิการต่อไป ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9600000006765

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...