มจธ.สุดเจ๋งคว้า ๒ รางวัล งาน iCREATe ๒๐๑๒ นวัตกรรมเพื่อคนพิการและสูงอายุ

แสดงความคิดเห็น

ภาพที่๑ ผลงาน Sound Story และผลงาน Merit Award ประเภท Design Category ที่คว้ารางวัล จากงาน iCREATe ๒๐๑๒ นักศึกษาไทยจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) คว้า ๒ รางวัลในงานประชุมนานาชาติ ด้านวิศวกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพและเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ ๒๐๑๒ หรือ ไอ-ครีเอท ๒๐๑๒ ที่ประเทศสิงคโปร์ หลังสร้างผลงานตอบโจทย์ยึดผู้ใช้เป็นศูนย์กลางผสานเทคโนโลยีขั้นสูงสู่ชีวิต ที่ดีและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

น.ส.ภณิดา ตันเจริญ หรือน้องแพลน นักศึกษาชั้นปีที่ ๕ สาขาออกแบบอุตสาหกรรม (Industrial Design) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เปิดเผยถึง Sound Story ผลงานการออกแบบภายใต้โปรเจกต์ Toy for visually impaired children ว่า ผลงานดังกล่าวใช้เวลาคิดพัฒนาประมาณ ๑ ปี และได้ส่งเข้าประกวด Student Design Challenge ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานประชุมวิชาการนานาชาติ ด้านวิศวกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพและเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ ๒๐๑๒ (International Convention for Rehabilitation Engineering & Assistive Technology ๒๐๑๒ หรือ iCREATe๒๐๑๒ (ไอ-ครีเอท) ภายใต้หัวข้อ “Assistive & Rehabilitation Technology (ART) in an Inclusive Community” ที่มีโจทย์ว่าต้องคำนึงถึงผู้ใช้เป็นศูนย์กลางผสมผสานกับเทคโนโลยีเพื่อทำ ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ การดำรงชีวิตที่ดี และสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ iCREATe๒๐๑๒ จัดขึ้นเป็นปีที่ ๖ ณ ประเทศสิงคโปร์ และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเปิดงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นิสิตนักศึกษาสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นนวัตกรรมช่วย เหลือคนพิการและผู้สูงอายุ แบ่งการแข่งขันเป็น ๒ ประเภท ได้แก่ Design Category และ Technology Category ซึ่งผลงานของภณิดาที่ได้รับรางวัลเป็นรางวัลชมเชย Merit Award จัดอยู่ในประเภท Design Category

“Sound Story เป็นของเล่น Universal toy ที่ออกแบบมาเพื่อกลุ่มเด็กผู้พิการทางสายตา แต่เด็กปกติก็สามารถเล่นด้วยได้ เหมาะกับเด็กอายุ ๓-๕ ปี ซึ่งทำให้เขาจินตนาการภาพของสิ่งที่มองไม่เห็น ด้วยการกระตุ้นประสาทสัมผัสผ่านทางการได้ยิน เพราะเด็กพวกนี้จะมีความสามารถพิเศษทางหูดีกว่าคนอื่น ช่วยพัฒนาด้านจินตนาการได้อย่างไม่รู้จบ ความคิดสร้างสรรค์ ให้เด็กสามารถสร้างจินตนาการของเขาเองได้ ด้วยการรับรู้ประสบการณ์ชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริง ผ่านทางของเล่นนั่นเอง”

Sound Story เป็นเซตของเล่นมีด้วยกัน ๓ ชุด คือ ชุดเมือง ทะเล และป่า มีลักษณะเป็นเมืองจำลองขนาดย่อมๆ มีรถ บ้าน คอนโด วัด มีทั้งหมด ๗ ชิ้นมีเสียงที่แตกต่างกันไป และแผ่นกระดาน ๑ แผ่นสำหรับเล่นร่วมกัน โดยผู้เล่นสามารถนำของเล่นทั้ง ๗ ชิ้น วางตรงไหนก็ได้ที่ผู้เล่นต้องการ โดยสังเกตจากผิวสัมผัสด้วยการเขย่า ซึ่งแรงเขย่าจะเป็นตัวกำหนดความดังของเสียง แต่หากนำของเล่นพวกนี้มาเล่นนอกแผ่นกระดานจะไม่มีเสียงอะไร โดยแผ่นกระดานจะมีผิวสัมผัสที่แตกต่างกันไปตามสถานที่ ซึ่งนอกจากความสนุกสนานแล้วยังเป็นการฝึกพัฒนาการด้านการสัมผัส การพัฒนากล้ามเนื้อมือ และพัฒนาการทางด้านสังคมของเด็กด้วย เนื่องจากกระบวนการเล่นต้องการเล่นร่วมกับผู้อื่น

ขณะที่น้องหมอ-กิตติกร วรวิทยาการ และ นายนรุตม์ปิติทรงสวัสดิ์ หรือน้องดุ๊กดิ๊ก นักศึกษาชั้นปีที่ ๕ สาขาออกแบบอุตสาหกรรม (Industrial Design) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ (มจธ.) สามารถคว้ารางวัลชมเชย Merit Award ประเภท Design Category จากเวที iCREATe ๒๐๑๒ เช่นกัน จากผลงานที่มีชื่อว่า JAI ออกแบบภายใต้โปรเจกต์ Independent Living Devices for disability and elderly โดย นายกิตติกรกล่าวว่า JAI เป็นโปรเจกต์เกี่ยวกับคนพิการ ตนและเพื่อนเริ่มลงพื้นที่พูดคุยเก็บข้อมูลกับคนพิการและอัมพาต มาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นปีที่ ๓ หลังได้รับโจทย์ว่าอุปกรณ์ที่สามารถช่วยเหลือคนพิการที่เป็นอัมพาตได้

“หลังจากได้รับโจทย์เราได้ไปพบกับผู้พิการ จริงๆ เพื่อศึกษาข้อมูลเบื้องต้นว่าเขามีปัญหาอะไรในการใช้ชีวิต ผู้พิการที่เราทำมี ๒ กรณี คือ อัมพาตครึ่งล่าง และอัมพาตครึ่งซีก ซึ่งโปรเจกต์นี้เราทำคู่กับ NECTEC ซึ่งมีเทคโนโลยีที่รองรับคนกลุ่มนี้อยู่แล้ว แต่อุปกรณ์ของเราจะเข้าไปช่วยพัฒนาต่อยอดงานของ NECTEC ให้เหมาะกับผู้ใช้มากขึ้น แทนที่ผู้พิการจะใช้รีโมทพัดลม ทีวี แอร์ ครั้งละ ๓-๔ อัน เรานำมารวมไว้อยู่อันเดียวกันและเปลี่ยนจากปุ่มเป็นพื้นที่สัมผัส ใช้ส่วนหนึ่งของมือแตะลงไปก็ทำงานได้เลย”

ทั้งนี้ ผลงาน JAI มีอุปกรณ์ ๒ ชิ้นใช้คู่กัน คือ Display และรีโมท พ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยรีโมท ๑ อันจะมีระบบฉุกเฉิน ๒ แบบ ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ ขณะที่ในโหมดฉุกเฉิน (Emergency Mode) ได้มีการพัฒนาฟังชั่นเพิ่มเติม เช่น การทุบรีโมท จะมีการเชื่อมสัญญาณในบ้านเป็นระดับให้ดังเป็นเสียงกริ่ง แต่หากเกิดฉุกเฉินกว่านั้น การเตือนจะเพิ่มเป็นอีกระดับหนึ่ง เช่น ส่งสัญญาณเตือนคนในบ้าน หรือการส่งข้อความไปหาเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง เป็นต้น

ด้านนายนรุตม์ กล่าวเสริมว่า อยากให้มีการต่อยอดอุปกรณ์ชิ้นนี้ไปถึงมือผู้ป่วยจริงๆ ในแบบ User Centered Design ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุดทั้งทางด้านรูปแบบ ร่างกาย จิตใจ และสังคม ไม่ใช่แค่การออกแบบเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และแม้ว่าปัจจุบันอุปกรณ์ชิ้นนี้ยังไม่ได้ผลิตออกมาใช้กับผู้พิการทั่วไป เนื่องจากต้องนำโปรแกรมไปใส่ในระบบของ NECTEC และพัฒนาให้สอดคล้องกับการใช้งานของผู้พิการ ซึ่งตนเชื่อว่าอีกไม่นานผู้พิการจะมีโอกาสใช้นวัตกรรมเหล่านี้เพื่อพัฒนา คุณภาพชีวิตต่อไป

ที่มา: บ้านเมืองออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๑๖ ก.ย.๕๕
วันที่โพสต์: 5/10/2555 เวลา 15:07:53 ดูภาพสไลด์โชว์ มจธ.สุดเจ๋งคว้า ๒ รางวัล งาน iCREATe ๒๐๑๒ นวัตกรรมเพื่อคนพิการและสูงอายุ

ชอบเรื่องนี้ไหม? ชอบ ไม่ชอบ ไม่มีความเห็น

สถิติความสนใจ

ชอบ: 1 คน (100%)

ไม่ชอบ: 0 คน (0%)

ไม่มีความเห็น: 0 คน (0%)

จำนวนคนโหวตทั้งหมด: 1 คน (100%)

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ภาพที่๑ ผลงาน Sound Story และผลงาน Merit Award ประเภท Design Category ที่คว้ารางวัล จากงาน iCREATe ๒๐๑๒นักศึกษาไทยจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) คว้า ๒ รางวัลในงานประชุมนานาชาติ ด้านวิศวกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพและเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ ๒๐๑๒ หรือ ไอ-ครีเอท ๒๐๑๒ ที่ประเทศสิงคโปร์ หลังสร้างผลงานตอบโจทย์ยึดผู้ใช้เป็นศูนย์กลางผสานเทคโนโลยีขั้นสูงสู่ชีวิต ที่ดีและสะดวกสบายยิ่งขึ้น น.ส.ภณิดา ตันเจริญ หรือน้องแพลน นักศึกษาชั้นปีที่ ๕ สาขาออกแบบอุตสาหกรรม (Industrial Design) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เปิดเผยถึง Sound Story ผลงานการออกแบบภายใต้โปรเจกต์ Toy for visually impaired children ว่า ผลงานดังกล่าวใช้เวลาคิดพัฒนาประมาณ ๑ ปี และได้ส่งเข้าประกวด Student Design Challenge ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานประชุมวิชาการนานาชาติ ด้านวิศวกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพและเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ ๒๐๑๒ (International Convention for Rehabilitation Engineering & Assistive Technology ๒๐๑๒ หรือ iCREATe๒๐๑๒ (ไอ-ครีเอท) ภายใต้หัวข้อ “Assistive & Rehabilitation Technology (ART) in an Inclusive Community” ที่มีโจทย์ว่าต้องคำนึงถึงผู้ใช้เป็นศูนย์กลางผสมผสานกับเทคโนโลยีเพื่อทำ ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ การดำรงชีวิตที่ดี และสะดวกสบายยิ่งขึ้น ทั้งนี้ iCREATe๒๐๑๒ จัดขึ้นเป็นปีที่ ๖ ณ ประเทศสิงคโปร์ และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเปิดงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นิสิตนักศึกษาสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นนวัตกรรมช่วย เหลือคนพิการและผู้สูงอายุ แบ่งการแข่งขันเป็น ๒ ประเภท ได้แก่ Design Category และ Technology Category ซึ่งผลงานของภณิดาที่ได้รับรางวัลเป็นรางวัลชมเชย Merit Award จัดอยู่ในประเภท Design Category “Sound Story เป็นของเล่น Universal toy ที่ออกแบบมาเพื่อกลุ่มเด็กผู้พิการทางสายตา แต่เด็กปกติก็สามารถเล่นด้วยได้ เหมาะกับเด็กอายุ ๓-๕ ปี ซึ่งทำให้เขาจินตนาการภาพของสิ่งที่มองไม่เห็น ด้วยการกระตุ้นประสาทสัมผัสผ่านทางการได้ยิน เพราะเด็กพวกนี้จะมีความสามารถพิเศษทางหูดีกว่าคนอื่น ช่วยพัฒนาด้านจินตนาการได้อย่างไม่รู้จบ ความคิดสร้างสรรค์ ให้เด็กสามารถสร้างจินตนาการของเขาเองได้ ด้วยการรับรู้ประสบการณ์ชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริง ผ่านทางของเล่นนั่นเอง” Sound Story เป็นเซตของเล่นมีด้วยกัน ๓ ชุด คือ ชุดเมือง ทะเล และป่า มีลักษณะเป็นเมืองจำลองขนาดย่อมๆ มีรถ บ้าน คอนโด วัด มีทั้งหมด ๗ ชิ้นมีเสียงที่แตกต่างกันไป และแผ่นกระดาน ๑ แผ่นสำหรับเล่นร่วมกัน โดยผู้เล่นสามารถนำของเล่นทั้ง ๗ ชิ้น วางตรงไหนก็ได้ที่ผู้เล่นต้องการ โดยสังเกตจากผิวสัมผัสด้วยการเขย่า ซึ่งแรงเขย่าจะเป็นตัวกำหนดความดังของเสียง แต่หากนำของเล่นพวกนี้มาเล่นนอกแผ่นกระดานจะไม่มีเสียงอะไร โดยแผ่นกระดานจะมีผิวสัมผัสที่แตกต่างกันไปตามสถานที่ ซึ่งนอกจากความสนุกสนานแล้วยังเป็นการฝึกพัฒนาการด้านการสัมผัส การพัฒนากล้ามเนื้อมือ และพัฒนาการทางด้านสังคมของเด็กด้วย เนื่องจากกระบวนการเล่นต้องการเล่นร่วมกับผู้อื่น ขณะที่น้องหมอ-กิตติกร วรวิทยาการ และ นายนรุตม์ปิติทรงสวัสดิ์ หรือน้องดุ๊กดิ๊ก นักศึกษาชั้นปีที่ ๕ สาขาออกแบบอุตสาหกรรม (Industrial Design) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ (มจธ.) สามารถคว้ารางวัลชมเชย Merit Award ประเภท Design Category จากเวที iCREATe ๒๐๑๒ เช่นกัน จากผลงานที่มีชื่อว่า JAI ออกแบบภายใต้โปรเจกต์ Independent Living Devices for disability and elderly โดย นายกิตติกรกล่าวว่า JAI เป็นโปรเจกต์เกี่ยวกับคนพิการ ตนและเพื่อนเริ่มลงพื้นที่พูดคุยเก็บข้อมูลกับคนพิการและอัมพาต มาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นปีที่ ๓ หลังได้รับโจทย์ว่าอุปกรณ์ที่สามารถช่วยเหลือคนพิการที่เป็นอัมพาตได้ “หลังจากได้รับโจทย์เราได้ไปพบกับผู้พิการ จริงๆ เพื่อศึกษาข้อมูลเบื้องต้นว่าเขามีปัญหาอะไรในการใช้ชีวิต ผู้พิการที่เราทำมี ๒ กรณี คือ อัมพาตครึ่งล่าง และอัมพาตครึ่งซีก ซึ่งโปรเจกต์นี้เราทำคู่กับ NECTEC ซึ่งมีเทคโนโลยีที่รองรับคนกลุ่มนี้อยู่แล้ว แต่อุปกรณ์ของเราจะเข้าไปช่วยพัฒนาต่อยอดงานของ NECTEC ให้เหมาะกับผู้ใช้มากขึ้น แทนที่ผู้พิการจะใช้รีโมทพัดลม ทีวี แอร์ ครั้งละ ๓-๔ อัน เรานำมารวมไว้อยู่อันเดียวกันและเปลี่ยนจากปุ่มเป็นพื้นที่สัมผัส ใช้ส่วนหนึ่งของมือแตะลงไปก็ทำงานได้เลย” ทั้งนี้ ผลงาน JAI มีอุปกรณ์ ๒ ชิ้นใช้คู่กัน คือ Display และรีโมท พ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยรีโมท ๑ อันจะมีระบบฉุกเฉิน ๒ แบบ ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ ขณะที่ในโหมดฉุกเฉิน (Emergency Mode) ได้มีการพัฒนาฟังชั่นเพิ่มเติม เช่น การทุบรีโมท จะมีการเชื่อมสัญญาณในบ้านเป็นระดับให้ดังเป็นเสียงกริ่ง แต่หากเกิดฉุกเฉินกว่านั้น การเตือนจะเพิ่มเป็นอีกระดับหนึ่ง เช่น ส่งสัญญาณเตือนคนในบ้าน หรือการส่งข้อความไปหาเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง เป็นต้น ด้านนายนรุตม์ กล่าวเสริมว่า อยากให้มีการต่อยอดอุปกรณ์ชิ้นนี้ไปถึงมือผู้ป่วยจริงๆ ในแบบ User Centered Design ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุดทั้งทางด้านรูปแบบ ร่างกาย จิตใจ และสังคม ไม่ใช่แค่การออกแบบเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และแม้ว่าปัจจุบันอุปกรณ์ชิ้นนี้ยังไม่ได้ผลิตออกมาใช้กับผู้พิการทั่วไป เนื่องจากต้องนำโปรแกรมไปใส่ในระบบของ NECTEC และพัฒนาให้สอดคล้องกับการใช้งานของผู้พิการ ซึ่งตนเชื่อว่าอีกไม่นานผู้พิการจะมีโอกาสใช้นวัตกรรมเหล่านี้เพื่อพัฒนา

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...