กทม.ผุดโครงการแท็กซี่ผู้พิการนำร่อง ๒๐ คันได้ใช้สิ้นปีนี้

แสดงความคิดเห็น

สุขุมพันธุ์ โยนมหาดไทยระงับ ยันจะเดินหน้าก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ๕๖ พร้อมผุดโครงการแท็กซี่ผู้พิการนำร่อง ๒๐ คันได้ใช้สิ้นปีนี้ และภาพที่๒ รถแท็กซี่

เมื่อเวลา ๑๗.๓๐ น. วันที่ ๑๗ ก.ย. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กลุ่มปลดแอกมนุษย์ล้อ ซึ่งเป็นผู้พิการประมาณ ๕๐ คน พร้อมถือป้ายทวงถามสัญญาการก่อสร้างลิฟต์ในสถานีบีทีเอส นำโดยนายสุภร มงคลสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมการอิสรภาพเพื่อความเสมอภาค ได้ยื่นหนังสือถึง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. เพื่อทวงถามสัญญาดังกล่าวที่ผู้ว่าฯ กทม. รับปากว่าจะก่อสร้างลิฟต์ในทุกสถานีบีทีเอส รวม ๕๖ ตัว เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๓ แต่ผ่านมา ๒ ปี ก็ยังไม่มีการก่อสร้างเกิดขึ้น ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวได้รับการยับยั้งจากคณะกรรมการสัมปทานที่มีกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน โดยให้เหตุผลว่า หากพิจารณาจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนหรือไม่ ทำให้ต้องชะลอโครงการไป แต่หลังจากที่ตนรับหนังสือในครั้งนี้แล้ว จะเดินหน้าโครงการทันที โดยจะใช้ พ.ร.บ.ปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ที่ให้อำนาจผู้ว่าฯกทม.บริหารเมือง โดยตนไม่สนว่าจะถูกฟ้องร้อง และขอโทษผู้พิการทุกคนที่ดำเนินการล่าช้า โดยจะดำเนินการก่อสร้างให้เสร็จภายในสิ้นปีพ.ศ.๒๕๕๖

นอกจากนี้ตนจะทำแท็กซี่ผู้พิการ ซึ่งเป็นรถที่ดัดแปลงภายในให้รถวีลแชร์ของผู้พิการขึ้นโดยสารได้ โดยจะมีการปรับปรุงภายในและติดตั้งระบบไฮดรอลิก เป็นแผ่นกระดานยื่นออกมาแล้วเข็นรถผู้พิการเข้าไปแล้วรถก็ยกเข้าสู่ตัวรถแบบอัตโนมัติ โดยรถคนพิการจะมีขนาดใหญ่กว่ารถปกติทั่วไป ส่วนอัตราค่าโดยสารอยู่ระหว่างพิจารณา โดยมีทางเลือกว่าจะเก็บอัตราเดียวกันกับรถแท็กซี่ทั่วไป หรือเก็บค่าโดยสารครึ่งราคาที่เหลือกทม.เป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ โดยมอบหมายให้บริษัทกรุงเทพธนาคม (เคที) เป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อรถ โดยเบื้องต้นจะจัดซื้อรถจำนวน ๒๐ คัน ราคาคันละประมาณ ๑ ล้านบาท เป็นโครงการนำร่องก่อน ซึ่งจะเริ่มให้บริการในปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๕ และในอนาคตจะเพิ่มเป็น ๔๐-๕๐ คัน ให้เพียงพอกับความต้องการของคนพิการ นอกจากนี้ยังจะปรับปรุงห้องน้ำสาธารณะโดยนำร่องที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยกทม.จะทุบทิ้งและสร้างใหม่ทั้งหมด ๔ มุมของอนุสาวรีย์เนื่องจากหมดสัญญาสัมปทานแล้ว

ด้านคนพิการพอใจกับคำยืนยันของผู้ว่าฯกทม. แต่ขอให้กทม.ปรับปรุงศาลาว่าการกทม.ให้รองรับคนพิการด้วย ทั้งทางเข้าและห้องน้ำ โดยผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์ กล่าวว่า เป้าหมายเดิมนั้นจะย้ายที่ทำการของกทม.ไปยังดินแดง ในสิ้นปี พ.ศ.๒๕๕๕ แต่เมื่อยังไม่สามารถย้ายได้เพราะการก่อสร้างยังไม่เสร็จ และหากมีการปรับแผนจะอยู่นานกว่าเดิมก็จะปรับปรุงศาลาว่าการกทม.ให้รองรับ ผู้พิการด้วย

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๑๘ ก.ย.๕๕
วันที่โพสต์: 5/10/2555 เวลา 15:09:48

ชอบเรื่องนี้ไหม?

ยังไม่มีเรตติ้ง

แสดงความคิดเห็น

รายละเอียดกระทู้

ภาพที่๑ คนพิการบุกกทม.ทวงถามการก่อสร้างลิฟท์บีทีเอสทุกสถานีสุขุมพันธุ์ โยนมหาดไทยระงับ ยันจะเดินหน้าก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ๕๖ พร้อมผุดโครงการแท็กซี่ผู้พิการนำร่อง ๒๐ คันได้ใช้สิ้นปีนี้ และภาพที่๒ รถแท็กซี่ เมื่อเวลา ๑๗.๓๐ น. วันที่ ๑๗ ก.ย. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กลุ่มปลดแอกมนุษย์ล้อ ซึ่งเป็นผู้พิการประมาณ ๕๐ คน พร้อมถือป้ายทวงถามสัญญาการก่อสร้างลิฟต์ในสถานีบีทีเอส นำโดยนายสุภร มงคลสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมการอิสรภาพเพื่อความเสมอภาค ได้ยื่นหนังสือถึง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. เพื่อทวงถามสัญญาดังกล่าวที่ผู้ว่าฯ กทม. รับปากว่าจะก่อสร้างลิฟต์ในทุกสถานีบีทีเอส รวม ๕๖ ตัว เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๓ แต่ผ่านมา ๒ ปี ก็ยังไม่มีการก่อสร้างเกิดขึ้น ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวได้รับการยับยั้งจากคณะกรรมการสัมปทานที่มีกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน โดยให้เหตุผลว่า หากพิจารณาจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนหรือไม่ ทำให้ต้องชะลอโครงการไป แต่หลังจากที่ตนรับหนังสือในครั้งนี้แล้ว จะเดินหน้าโครงการทันที โดยจะใช้ พ.ร.บ.ปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ที่ให้อำนาจผู้ว่าฯกทม.บริหารเมือง โดยตนไม่สนว่าจะถูกฟ้องร้อง และขอโทษผู้พิการทุกคนที่ดำเนินการล่าช้า โดยจะดำเนินการก่อสร้างให้เสร็จภายในสิ้นปีพ.ศ.๒๕๕๖ นอกจากนี้ตนจะทำแท็กซี่ผู้พิการ ซึ่งเป็นรถที่ดัดแปลงภายในให้รถวีลแชร์ของผู้พิการขึ้นโดยสารได้ โดยจะมีการปรับปรุงภายในและติดตั้งระบบไฮดรอลิก เป็นแผ่นกระดานยื่นออกมาแล้วเข็นรถผู้พิการเข้าไปแล้วรถก็ยกเข้าสู่ตัวรถแบบอัตโนมัติ โดยรถคนพิการจะมีขนาดใหญ่กว่ารถปกติทั่วไป ส่วนอัตราค่าโดยสารอยู่ระหว่างพิจารณา โดยมีทางเลือกว่าจะเก็บอัตราเดียวกันกับรถแท็กซี่ทั่วไป หรือเก็บค่าโดยสารครึ่งราคาที่เหลือกทม.เป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ โดยมอบหมายให้บริษัทกรุงเทพธนาคม (เคที) เป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อรถ โดยเบื้องต้นจะจัดซื้อรถจำนวน ๒๐ คัน ราคาคันละประมาณ ๑ ล้านบาท เป็นโครงการนำร่องก่อน ซึ่งจะเริ่มให้บริการในปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๕ และในอนาคตจะเพิ่มเป็น ๔๐-๕๐ คัน ให้เพียงพอกับความต้องการของคนพิการ นอกจากนี้ยังจะปรับปรุงห้องน้ำสาธารณะโดยนำร่องที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยกทม.จะทุบทิ้งและสร้างใหม่ทั้งหมด ๔ มุมของอนุสาวรีย์เนื่องจากหมดสัญญาสัมปทานแล้ว ด้านคนพิการพอใจกับคำยืนยันของผู้ว่าฯกทม. แต่ขอให้กทม.ปรับปรุงศาลาว่าการกทม.ให้รองรับคนพิการด้วย ทั้งทางเข้าและห้องน้ำ โดยผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์ กล่าวว่า เป้าหมายเดิมนั้นจะย้ายที่ทำการของกทม.ไปยังดินแดง ในสิ้นปี พ.ศ.๒๕๕๕ แต่เมื่อยังไม่สามารถย้ายได้เพราะการก่อสร้างยังไม่เสร็จ และหากมีการปรับแผนจะอยู่นานกว่าเดิมก็จะปรับปรุงศาลาว่าการกทม.ให้รองรับ