'โคราช' นำร่องจะเป็นเมืองที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อผู้สูงวัย-ผู้พิการ
[/p]
[b]เมื่อ 'โคราช' นำร่องจะเป็นเมืองที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ออกแบบเพื่อทุกคน ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้พิการและผู้สูงอายุ โดย สสส. ได้ความร่วมมือจากผู้แทนจากรัฐบาล ท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ร่วมลงนาม MOU ในพิธีคิกออฟโครงการ "เมืองต้นแบบอารยสถาปัตย์ เมืองกีฬา และเมืองท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล"[/b]
"จะเข้าตัวเมืองที ต้องโทรเรียกรถพิเศษ ค่ารถพันห้าร้อย" ควง คำถี ผู้พิการที่ต้องใช้รถวีลแชร์ สะท้อนถึงอุปสรรคในชีวิตที่เขาต้องเผชิญ "ไม่ใช่เพราะอยากเสียค่ารถแพงๆ แต่เราไม่มีทางเลือก"
การเดินทางที่ควรจะเป็นเรื่องง่ายกลับกลายเป็นภาระมหาศาลสำหรับใครบางคน นั่นเพราะคนเรามีต้นทุนชีวิตที่ไม่เท่ากันเลยทำให้บางคนต้องแบก "ต้นทุน" ในการดำเนินชีวิตที่มากกว่าคนอื่นๆ ในวันที่ประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมสูงวัยเต็มตัวประชากรอายุเกิน 60 ปี มีแล้วกว่า 14 ล้านคน และมีผู้พิการกว่า 2.2 ล้านคน แต่โครงสร้างเมือง ถนน บ้าน และระบบขนส่งส่วนใหญ่ยังออกแบบด้วยสมมติฐานว่า "ทุกคนเดินได้ ปกติ แข็งแรง"
[b]เสียงสะท้อนจากโคราช[/b]
เมื่อพูดถึง นครราชสีมา หลายคนอาจคิดถึงเมืองใหญ่ของภาคอีสานที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯ กับพื้นที่อีสานตอนเหนือและตอนใต้เมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีสัญลักษณ์ที่คนรู้จักกันดีอย่าง ลานย่าโม และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ตามประสาหัวเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนคึกคัก หลายคนจึงมองว่าคุณภาพชีวิตคนพิการที่โคราชน่าจะดีกว่าเมืองเล็กๆ ที่ห่างไกลความเจริญ
หากแต่ข้อเท็จจริงบางมุมยังพบว่าผู้พิการในจังหวัดนครราชสีมาต้องเผชิญความยากลำบาก ไม่ต่างกับผู้พิการที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลมากนัก "ควง" เป็น ผู้พิการทางการเคลื่อนไหว เป็นผู้บอกเล่าในเรื่องนี้ เขาให้ข้อมูลว่าในจังหวัดนครราชสีมา มีผู้พิการรวม 15,419 คน เป็นผู้พิการทั้งหมด 7 ประเภท แต่มีผู้พิการทางการเคลื่อนไหว (ใช้รถเข็น) มีจำนวนมากที่สุด รองลงมาคือผู้พิการทางสายตา นอกจากนี้ยังมีผู้พิการทางการได้ยินและสื่อความหมาย และผู้พิการทางออทิสติก
อย่างไรนั้น สำหรับผู้พิการเช่นเขาอย่าเอ่ยถึงการใช้ชีวิตได้อย่างคนทั่วไป แค่การเดินทางคนพิการในต่างจังหวัดก็เป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยต้นทุนชีวิตแล้ว ค่าเหมารถเข้าเมืองเพียงครั้งเดียวอาจสูงถึง 1,500 บาท นั่นหมายความว่า การออกไปทำธุระ หรือแม้กระทั่งการพบแพทย์ กลายเป็นความลำบากที่ต้องวางแผนทุกครั้ง
"รถสองแถวหรือรถประจำทางส่วนใหญ่ไม่ได้รองรับผู้พิการ รถเข็นเข้าไม่ได้ ต้องเหมารถ หรือบางครั้งไม่สามารถเดินทางไปทำธุระจำเป็นได้เลย เงินผู้พิการจากรัฐ เดือนละ 800 บาทไม่เพียงพอ"
"ทางเท้าในเมืองก็ไม่ต่างจากกับดัก" ควง กล่าวอธิบาย โดยหากเขาจะเข็นรถขับเคลื่อนผ่าน ก็ต้องเจอทางเท้าที่เต็มไปด้วยร้านค้ายกสูง กระถางต้นไม้ รถจักรยานยนต์จอดขวาง และที่สำคัญ "ถนนหนทางที่ไม่เอื้อ" ไม่ได้เป็นแค่ข้อจำกัดเรื่องการเดินทางหากยังเป็นการสกัดกั้น "โอกาส" ในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา การทำงาน และการมีส่วนร่วมทางสังคม ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง
ควง กล่าวเพิ่มเติม คนพิการในโคราชส่วนใหญ่ แทบไม่ต้องคิดถึงเรื่องไปโรงเรียน เพราะนครราชสีมาไม่มีโรงเรียนสำหรับผู้พิการทางการเคลื่อนไหวที่สอนถึงระดับมัธยมศึกษา ทำให้ผู้พิการที่ต้องการเรียนต่อมัธยมต้องเดินทางไปขอนแก่น ซึ่งเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่สูง
ส่วนโรงเรียนทั่วไป มักมีห้องเรียนอยู่ชั้นบน ทำให้ผู้พิการทางการเคลื่อนไหวเข้าไม่ถึงการเรียนการสอน
“ในภาคอีสาน มีเพียงโรงเรียนศรีธาตุสมาน (ศรีทองวาน) ที่จังหวัดขอนแก่นเท่านั้น ที่เป็นโรงเรียนที่เอื้อต่อผู้พิการทางการเคลื่อนไหวตั้งแต่ระดับประถมถึงมัธยมศึกษา” ควง กล่าว
'โคราช' นำร่องจะเป็นเมืองที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อผู้สูงวัย-ผู้พิการ