เปิดโครงการ “นักปฐมพยาบาลจิตใจฯ” โดยผู้พิการ
[/p]
ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าวต่อว่า สสส. จึงร่วมกับ สถาบันวิชาการเพื่อความยั่งยืนทางสุขภาพจิต (TIMS) คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บริษัท ยัง กู๊ด กัฟเวอร์แนนซ์ สถาบันราชสุดา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และ Sati App ริเริ่มโครงการพัฒนานักปฐมพยาบาลจิตใจเบื้องต้นโดยคนพิการ เพื่อผลิตอาสาสมัครนักปฐมพยาบาลทางใจเบื้องต้น และพัฒนาหลักสูตร Mind First Aid ที่ออกแบบให้ทุกคนสามารถปฐมพยาบาลทางจิตใจเบื้องต้น ตามโมเดล 4S คือ 1.Support การเข้าใจระบบนิเวศของการสนับสนุนเรื่องสุขภาพจิต 2.Sense การรับรู้และการเข้าใจผู้อื่น 3.Summarize การสิ้นสุดการช่วยเหลือและส่งต่อตามแนวทางที่เหมาะสม 4.Self-care การดูแลใจตนเองและทัศนคติที่เหมาะสมในการรับฟัง หลักสูตรนี้ ถือเป็นกลไกทางสังคมหนึ่งในการช่วยลดความเครียด ลดปัญหาสุขภาพจิตเบื้องต้น และลดความเสี่ยงมีปัญหาสุขภาพจิตรุนแรง
“สสส. และภาคีเครือข่ายได้นำมาพัฒนาต่อยอดหลักสูตรเอื้อให้คนพิการทางการมองเห็นและคนพิการทางการเคลื่อนไหวสามารถเข้าอบรมเพื่อทำหน้าที่เป็นนักปฐมพยาบาลทางใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างทางเลือกอาชีพใหม่ให้กับคนพิการผ่านกลไกกฎหมายส่งเสริมการจ้างงาน ตั้งเป้าภายในปี พ.ศ. 2570 สามารถพัฒนาคนพิการเป็นอาสาสมัครปฐมพยาบาลทางใจได้ 500 คน ถือเป็นการลงทุนต่ำ แต่สร้างผลกระทบทางสังคมสูง ทั้งในแง่การเพิ่มจำนวนบุคลากรดูแลสุขภาพจิต และการสร้างอาชีพที่มีคุณค่าแก่คนพิการเอง” รองผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าว
น.ส.เมธาวี ทัศนาเสถียรกิจ บริษัท ยัง กู๊ด กัฟเวอร์แนนซ์ จำกัด หัวหน้าโครงการพัฒนานักปฐมพยาบาลจิตใจเบื้องต้นโดยคนพิการ กล่าวว่า หลักสูตร Mind First Aid พัฒนามาจากหลักสูตร Psychological First Aid ของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปคินส์ และองค์การอนามัยโลก และประสบการณ์ของการอบรมนักรับฟังของ Sati App และภาคีเครือข่ายภายในประเทศ ซึ่งหลักสูตรที่ผ่านมายังไม่ครอบคลุมถึงความหลากหลายของผู้เรียน โดยเฉพาะในเนื้อหาที่ต้องพึ่งพาประสาทสัมผัสในการมองเห็น จึงได้ออกแบบหลักสูตร Mind First Aid ในรูปแบบ Universal Design ที่ทุกคน รวมถึงคนพิการสามารถเรียนรู้พัฒนาทักษะการรับฟังและการเข้าใจผู้อื่นแบบไม่ตัดสินได้
เปิดโครงการ “นักปฐมพยาบาลจิตใจฯ” โดยผู้พิการ