สู้เพื่อลูก! “ป้าบุญถม” แม้เข่าเสื่อม สู้แบกลูกพิการเดินไม่ได้ หากวันหน้าร่างกายไม่ไหว ถึงขั้นต้องคลาน ก็จะสู้ดูแลลูกให้ถึงที่สุด
[/p]
[b] “พฤติกรรมไม่เหมือนเดิมคือ เขาเริ่มกินเหล้า เริ่มมีเพื่อน ถ้ากินเหล้ากลับเข้าบ้านเมื่อไหร่ หาเรื่องเมื่อนั้น หาเรื่องด่า หาเรื่องทุบข้าวของโน่นนั่นนี่ จนเริ่มมีปากเสียงกัน สุดท้ายตบตีมีเรื่องกัน เขาจะตีป้า แต่ลูกชายคนเล็กมาช่วย (ถาม-เลยทำร้ายน้องแทน?) น้องก็เส้นตาแตก ก็ขึ้นโรงขึ้นศาล ขึ้นโรงพัก เขาก็โดนจับตัวไปแล้ว เขาทำลูกเราขนาดนี้ เราก็คิดว่ามันหมดแล้วนะ เขาก็ไปติดคุก”[/b]
เมื่อสามีคนที่สองติดคุก ป้าคิดว่า ปัญหาทุกอย่างคงจบ แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะหลังออกจากคุก เขาก็กลับมาอยู่ด้วยอีก แม้ป้าจะขอให้ผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยจัดการ เพราะเธอไม่ต้องการให้มาอยู่ร่วมชายคาเดียวกันแล้ว แม้จะต่างคนต่างอยู่ก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครช่วยเธอได้
[b] “แม้กระทั่งเอาตำรวจมาคุย เขาก็บอกว่า ผมไม่ยุ่งไม่เกี่ยว ผมจะไม่ก้าวก่าย (ถาม-คนอื่นมาเจรจาแล้ว ก็ไม่ไป?) เอาจริงๆ คือ ดีลกับผู้ใหญ่ เขาสนิทกัน ตอนนี้เขาก็ไปทำงานอยู่กับผู้ใหญ่บ้านนี่แหละ ผู้ใหญ่บอก ผัวเมียมาตั้งหลายปี เจ๊จะไปอะไรเยอะแยะ อยู่ไปสิ เราบอกว่า เรารับไม่ได้แล้วกับตรงนี้ ผู้ใหญ่ เออ ถ้ามีปัญหาอะไร หาผม เดี๋ยวผมเคลียร์เอง”[/b]
สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เพียงทำให้ป้าลำบากใจและเครียด แต่ยังทำให้ลูกคนเล็กขอแม่ไปพักอยู่บ้านเพื่อนชั่วคราว ซึ่งแม่ของเพื่อนก็ยินดี ส่วนป้าก็ยินยอม เพื่อความสบายใจของลูก โดยป้ายังดูแลเรื่องอาหารการกินและค่าใช้จ่ายให้ลูกอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทุกวันหลังเลิกเรียน น้องบิ๊กซีจะแวะมาหาแม่เพื่อคุยกับแม่เสมอ พร้อมบอกแม่ ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะอยู่บ้านเพื่อน น้องก็ช่วยเขาทำงานบ้านและดูน้องให้เขาด้วย ขณะที่หัวอกแม่คิดว่า จะยอมทนอยู่ในสถานการณ์นี้อีก 1 ปี เพื่อให้ลูกเรียนจบ ม.3 ก่อน หลังจากนั้นอาจจะพาลูกๆ กลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด จ.ชัยภูมิ
สู้เพื่อลูก! “ป้าบุญถม” แม้เข่าเสื่อม สู้แบกลูกพิการเดินไม่ได้ หากวันหน้าร่างกายไม่ไหว ถึงขั้นต้องคลาน ก็จะสู้ดูแลลูกให้ถึงที่สุด