แม่เฒ่าสุดห่วง 2 ลูกชายพิการ หวั่นสิ้นลมไร้คนดูแล ใจสลายบ้านกำลังจะถูกยึด
[/p]
[b]3 ชีวิตสุดแร้นแค้น "ยายจำปี" แม่เฒ่าวัย 82 ปี หวั่นสิ้นลมไร้คนดูแลลูกพิการติดเตียง ใจสลายบ้านกำลังจะถูกยึด เพราะลูกชายคนโตเอาโฉนดบ้านที่ดินไปกู้เงินแล้วไม่ใช้หนี้ มองไปทางไหนก็อับจนหนทาง วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ[/b]
ชีวิตสุดรันทดของ “ยายจำปี” หญิงชราวัย 82 ปี ที่เปรียบเสมือนไม้ใกล้ฝั่ง ร่างกายที่อ่อนล้าและอ่อนแรงกลับยังต้องเลี้ยงดูลูกชายที่ป่วยพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เฝ้ารอคอยความหวังสักวันจะมีผู้ใจบุญยื่นมือช่วยเหลือครอบครัว ด้วยเหตุจากบ้านที่อยู่อาศัยมาทั้งชีวิตกำลังจะถูกเจ้าหนี้ยึดขีดเส้นแค่ภายในปีนี้เท่านั้น
“ยายจำปี” หรือ นางจำปี ภาณุทัต อายุ 82 ปี อาศัยอยู่กับลูกชาย 2 คน คือ นายบัณฑิต ภาณุทัต อายุ 54 ปี ลูกชายคนกลางที่พิการแต่ยังช่วยเหลือตัวเองได้ และนายศุภชัย ภาณุทัต อายุ 53 ปี ลูกชายพิการที่นอนติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ในบ้านเลขที่ 243/1 หมู่ 10 ต.กันจุ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านปูนลักษณะก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ สภาพครอบครัวฐานะยากจน ภายในบ้านไม่ได้มีเครื่องอำนวยความสะดวกสบายแต่อย่างใด
ความแร้นแค้นแต่ละวันเป็นไปอย่างยากลำบาก “ยายจำปี” เล่าว่า จริงๆ แล้วยายมีลูกชาย 3 คน แต่ที่อยู่ด้วยกันคือ นายบัณฑิต ลูกชายคนกลาง เมื่อตอนเป็นเด็กเขาป่วยเป็นโรคสมองอักเสบจึงทำให้การควบคุมร่างกายไม่ดี แขนขาใบหน้าเกร็งตลอดเวลา หนำซ้ำยังมาถูกรถชนจนขาหักทั้งสองข้างแต่ก็ยังโชคดีที่กลับมาเดินได้ และเป็นเสาหลักของครอบครัว
แม่เฒ่าสุดห่วง 2 ลูกชายพิการ หวั่นสิ้นลมไร้คนดูแล ใจสลายบ้านกำลังจะถูกยึด
แม่เฒ่าสุดห่วง 2 ลูกชายพิการ หวั่นสิ้นลมไร้คนดูแล ใจสลายบ้านกำลังจะถูกยึดแม่เฒ่าสุดห่วง 2 ลูกชายพิการ หวั่นสิ้นลมไร้คนดูแล ใจสลายบ้านกำลังจะถูกยึด![[/p]
[b]3 ชีวิตสุดแร้นแค้น "ยายจำปี" แม่เฒ่าวัย 82 ปี หวั่นสิ้นลมไร้คนดูแลลูกพิการติดเตียง ใจสลายบ้านกำลังจะถูกยึด เพราะลูกชายคนโตเอาโฉนดบ้านที่ดินไปกู้เงินแล้วไม่ใช้หนี้ มองไปทางไหนก็อับจนหนทาง วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ[/b]
ชีวิตสุดรันทดของ “ยายจำปี” หญิงชราวัย 82 ปี ที่เปรียบเสมือนไม้ใกล้ฝั่ง ร่างกายที่อ่อนล้าและอ่อนแรงกลับยังต้องเลี้ยงดูลูกชายที่ป่วยพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เฝ้ารอคอยความหวังสักวันจะมีผู้ใจบุญยื่นมือช่วยเหลือครอบครัว ด้วยเหตุจากบ้านที่อยู่อาศัยมาทั้งชีวิตกำลังจะถูกเจ้าหนี้ยึดขีดเส้นแค่ภายในปีนี้เท่านั้น
“ยายจำปี” หรือ นางจำปี ภาณุทัต อายุ 82 ปี อาศัยอยู่กับลูกชาย 2 คน คือ นายบัณฑิต ภาณุทัต อายุ 54 ปี ลูกชายคนกลางที่พิการแต่ยังช่วยเหลือตัวเองได้ และนายศุภชัย ภาณุทัต อายุ 53 ปี ลูกชายพิการที่นอนติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ในบ้านเลขที่ 243/1 หมู่ 10 ต.กันจุ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านปูนลักษณะก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ สภาพครอบครัวฐานะยากจน ภายในบ้านไม่ได้มีเครื่องอำนวยความสะดวกสบายแต่อย่างใด
ความแร้นแค้นแต่ละวันเป็นไปอย่างยากลำบาก “ยายจำปี” เล่าว่า จริงๆ แล้วยายมีลูกชาย 3 คน แต่ที่อยู่ด้วยกันคือ นายบัณฑิต ลูกชายคนกลาง เมื่อตอนเป็นเด็กเขาป่วยเป็นโรคสมองอักเสบจึงทำให้การควบคุมร่างกายไม่ดี แขนขาใบหน้าเกร็งตลอดเวลา หนำซ้ำยังมาถูกรถชนจนขาหักทั้งสองข้างแต่ก็ยังโชคดีที่กลับมาเดินได้ และเป็นเสาหลักของครอบครัว
แม่เฒ่าสุดห่วง 2 ลูกชายพิการ หวั่นสิ้นลมไร้คนดูแล ใจสลายบ้านกำลังจะถูกยึด]([/p
[b
ชีวิตสุดรันทดของ “ยายจำปี” หญิงชราวัย 82 ปี ที่เปรียบเสมือนไม้ใกล้ฝั่ง ร่างกายที่อ่อนล้าและอ่อนแรงกลับยังต้องเลี้ยงดูลูกชายที่ป่วยพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เฝ้ารอคอยความหวังสักวันจะมีผู้ใจบุญยื่นมือช่วยเหลือครอบครัว ด้วยเหตุจากบ้านที่อยู่อาศัยมาทั้งชีวิตกำลังจะถูกเจ้าหนี้ยึดขีดเส้นแค่ภายในปีนี้เท่านั้น
“ยายจำปี” หรือ นางจำปี ภาณุทัต อายุ 82 ปี อาศัยอยู่กับลูกชาย 2 คน คือ นายบัณฑิต ภาณุทัต อายุ 54 ปี ลูกชายคนกลางที่พิการแต่ยังช่วยเหลือตัวเองได้ และนายศุภชัย ภาณุทัต อายุ 53 ปี ลูกชายพิการที่นอนติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ในบ้านเลขที่ 243/1 หมู่ 10 ต.กันจุ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านปูนลักษณะก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ สภาพครอบครัวฐานะยากจน ภายในบ้านไม่ได้มีเครื่องอำนวยความสะดวกสบายแต่อย่างใด
ความแร้นแค้นแต่ละวันเป็นไปอย่างยากลำบาก “ยายจำปี” เล่าว่า จริงๆ แล้วยายมีลูกชาย 3 คน แต่ที่อยู่ด้วยกันคือ นายบัณฑิต ลูกชายคนกลาง เมื่อตอนเป็นเด็กเขาป่วยเป็นโรคสมองอักเสบจึงทำให้การควบคุมร่างกายไม่ดี แขนขาใบหน้าเกร็งตลอดเวลา หนำซ้ำยังมาถูกรถชนจนขาหักทั้งสองข้างแต่ก็ยังโชคดีที่กลับมาเดินได้ และเป็นเสาหลักของครอบครัว
/images/upload/2025-03-25-139-1-04.1.jpg)
แม่เฒ่าสุดห่วง 2 ลูกชายพิการ หวั่นสิ้นลมไร้คนดูแล ใจสลายบ้านกำลังจะถูกยึด[/p] [b]3 ชีวิตสุดแร้นแค้น "ยายจำปี" แม่เฒ่าวัย 82 ปี หวั่นสิ้นลมไร้คนดูแลลูกพิการติดเตียง ใจสลายบ้านกำลังจะถูกยึด เพราะลูกชายคนโตเอาโฉนดบ้านที่ดินไปกู้เงินแล้วไม่ใช้หนี้ มองไปทางไหนก็อับจนหนทาง วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ[/b] ชีวิตสุดรันทดของ “ยายจำปี” หญิงชราวัย 82 ปี ที่เปรียบเสมือนไม้ใกล้ฝั่ง ร่างกายที่อ่อนล้าและอ่อนแรงกลับยังต้องเลี้ยงดูลูกชายที่ป่วยพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เฝ้ารอคอยความหวังสักวันจะมีผู้ใจบุญยื่นมือช่วยเหลือครอบครัว ด้วยเหตุจากบ้านที่อยู่อาศัยมาทั้งชีวิตกำลังจะถูกเจ้าหนี้ยึดขีดเส้นแค่ภายในปีนี้เท่านั้น “ยายจำปี” หรือ นางจำปี ภาณุทัต อายุ 82 ปี อาศัยอยู่กับลูกชาย 2 คน คือ นายบัณฑิต ภาณุทัต อายุ 54 ปี ลูกชายคนกลางที่พิการแต่ยังช่วยเหลือตัวเองได้ และนายศุภชัย ภาณุทัต อายุ 53 ปี ลูกชายพิการที่นอนติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ในบ้านเลขที่ 243/1 หมู่ 10 ต.กันจุ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านปูนลักษณะก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ สภาพครอบครัวฐานะยากจน ภายในบ้านไม่ได้มีเครื่องอำนวยความสะดวกสบายแต่อย่างใด ความแร้นแค้นแต่ละวันเป็นไปอย่างยากลำบาก “ยายจำปี” เล่าว่า จริงๆ แล้วยายมีลูกชาย 3 คน แต่ที่อยู่ด้วยกันคือ นายบัณฑิต ลูกชายคนกลาง เมื่อตอนเป็นเด็กเขาป่วยเป็นโรคสมองอักเสบจึงทำให้การควบคุมร่างกายไม่ดี แขนขาใบหน้าเกร็งตลอดเวลา หนำซ้ำยังมาถูกรถชนจนขาหักทั้งสองข้างแต่ก็ยังโชคดีที่กลับมาเดินได้ และเป็นเสาหลักของครอบครัว แม่เฒ่าสุดห่วง 2 ลูกชายพิการ หวั่นสิ้นลมไร้คนดูแล ใจสลายบ้านกำลังจะถูกยึด![[/p]
“บัณฑิต” หาเงินโดยการรับจ้างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ก็ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่เพราะมีความพิการ อีกทั้งชาวบ้านก็ไม่ค่อยนำของมาให้ซ่อม เพราะซ่อมช้า ไม่คล่องเหมือนช่างปกติทั่วไป แต่ก็ยังพอมีคนที่นำมาให้ซ่อมอยู่บ้างเพราะความสงสารอยากให้มีรายได้ ในทุกๆ เย็นลูกชายคนนี้ก็จะปั่นจักรยานไปขอเศษหัวปลา ไส้ปลาจากแม่ค้าปลาในตลาด เพื่อนำมาให้แม่ทำอาหารกิน บางครั้งพ่อค้าแม่ค้าที่สงสารก็ให้ผักให้ไข่มากินบ้าง
ขณะที่ “ศุภชัย” ลูกชายคนเล็ก พิการติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เพราะประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ตกหลุมขณะนำเอกสารไปส่งที่ อบต.ในพื้นที่ ยายจึงต้องคอยดูแลเช็ดตัว คอยพลิกตัว และดูแลเรื่องการป้อนข้าวป้อนน้ำ รวมทั้งการขับถ่ายด้วย ทุกวันยายจะต้องตื่นตั้งแต่ตี 3 เพื่อมาเตรียมอาหารให้ลูกชาย และเตรียมอาหารใส่บาตรพระ จากนั้นก็ไปดูแลเช็ดตัว เปลี่ยนแพมเพิสให้ลูกชาย เป็นอยู่แบบนี้มาหลายปีแล้ว
แม่เฒ่าสุดห่วง 2 ลูกชายพิการ หวั่นสิ้นลมไร้คนดูแล ใจสลายบ้านกำลังจะถูกยึด]([/p
“บัณฑิต” หาเงินโดยการรับจ้างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ก็ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่เพราะมีความพิการ อีกทั้งชาวบ้านก็ไม่ค่อยนำของมาให้ซ่อม เพราะซ่อมช้า ไม่คล่องเหมือนช่างปกติทั่วไป แต่ก็ยังพอมีคนที่นำมาให้ซ่อมอยู่บ้างเพราะความสงสารอยากให้มีรายได้ ในทุกๆ เย็นลูกชายคนนี้ก็จะปั่นจักรยานไปขอเศษหัวปลา ไส้ปลาจากแม่ค้าปลาในตลาด เพื่อนำมาให้แม่ทำอาหารกิน บางครั้งพ่อค้าแม่ค้าที่สงสารก็ให้ผักให้ไข่มากินบ้าง
ขณะที่ “ศุภชัย” ลูกชายคนเล็ก พิการติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เพราะประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ตกหลุมขณะนำเอกสารไปส่งที่ อบต.ในพื้นที่ ยายจึงต้องคอยดูแลเช็ดตัว คอยพลิกตัว และดูแลเรื่องการป้อนข้าวป้อนน้ำ รวมทั้งการขับถ่ายด้วย ทุกวันยายจะต้องตื่นตั้งแต่ตี 3 เพื่อมาเตรียมอาหารให้ลูกชาย และเตรียมอาหารใส่บาตรพระ จากนั้นก็ไปดูแลเช็ดตัว เปลี่ยนแพมเพิสให้ลูกชาย เป็นอยู่แบบนี้มาหลายปีแล้ว
/images/upload/2025-03-25-139-2-04.3.jpg)
แม่เฒ่าสุดห่วง 2 ลูกชายพิการ หวั่นสิ้นลมไร้คนดูแล ใจสลายบ้านกำลังจะถูกยึด[/p] “บัณฑิต” หาเงินโดยการรับจ้างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ก็ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่เพราะมีความพิการ อีกทั้งชาวบ้านก็ไม่ค่อยนำของมาให้ซ่อม เพราะซ่อมช้า ไม่คล่องเหมือนช่างปกติทั่วไป แต่ก็ยังพอมีคนที่นำมาให้ซ่อมอยู่บ้างเพราะความสงสารอยากให้มีรายได้ ในทุกๆ เย็นลูกชายคนนี้ก็จะปั่นจักรยานไปขอเศษหัวปลา ไส้ปลาจากแม่ค้าปลาในตลาด เพื่อนำมาให้แม่ทำอาหารกิน บางครั้งพ่อค้าแม่ค้าที่สงสารก็ให้ผักให้ไข่มากินบ้าง ขณะที่ “ศุภชัย” ลูกชายคนเล็ก พิการติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เพราะประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ตกหลุมขณะนำเอกสารไปส่งที่ อบต.ในพื้นที่ ยายจึงต้องคอยดูแลเช็ดตัว คอยพลิกตัว และดูแลเรื่องการป้อนข้าวป้อนน้ำ รวมทั้งการขับถ่ายด้วย ทุกวันยายจะต้องตื่นตั้งแต่ตี 3 เพื่อมาเตรียมอาหารให้ลูกชาย และเตรียมอาหารใส่บาตรพระ จากนั้นก็ไปดูแลเช็ดตัว เปลี่ยนแพมเพิสให้ลูกชาย เป็นอยู่แบบนี้มาหลายปีแล้ว แม่เฒ่าสุดห่วง 2 ลูกชายพิการ หวั่นสิ้นลมไร้คนดูแล ใจสลายบ้านกำลังจะถูกยึด