‘คนพิการ’ ตัดพ้อยอดขายสลากฯลดวูบ 50% ลูกค้าแห่ซื้อแบบ N3 วอนช่วยเหลือ
[/p]
[b]“…เฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออก ยอดขายลอตเตอรี่คนพิการเริ่มลดลงเรื่อยๆ ตามภาวะเศรษฐกิจเฉลี่ยประมาณ 10-20% แต่นับจากวันที่รัฐบาลออกหวยดิจิทัล ยอดขายลอตเตอรี่คนพิการก็ลดลงมากถึง 50% ในวันนี้แค่หวย N3 ออกมางวดเดียว ก็ทำให้ลอตเตอรี่ของกลุ่มคนพิการแทบขายไม่ได้แล้ว บางคนนั่งขายตั้งแต่เช้าถึงบ่ายได้แค่ 3 ใบ และเชื่อว่าในงวดต่อๆ ไป ยอดขายลอตเตอรี่ของคนพิการก็น่าจะลดลง 50-70% อย่างแน่นอน…” ดร.ณรงค์ กล่าวและเผยต่อด้วยว่า[/b]
ทางสมาคมฯ เคยสะท้อนปัญหาไปยังรัฐบาล และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลตั้งแต่เริ่มมีการออกนโยบายเรื่อง “หวยดิจิทัล” รวมทั้งการรวมตัวของคนพิการ เพื่อเรียกร้องและยื่นหนังสือถึงผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข เนื่องจากเขาเหล่านั้นมองว่าหน้าที่หลักของรัฐบาล คือ การทำให้ราคาลอตเตอรี่ถูกลง และรัฐมีหน้าที่ดูแลประชาชน ไม่ได้มีหน้าที่ดูแลคนขาย ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว สำนักงานสลากฯ มีหน้าที่ทำให้คนในทุกกลุ่มสามารถอยู่ร่วมกันได้ เคยถามว่าหากคนพิการไม่ขายลอตเตอรี่ แล้วจะมีทางเลือกให้คนพิการ คนแก่ คนชรา หรือไม่ เพราะวันนี้เราคิดไม่ออก แต่หากจะให้คนพิการไปนั่งขอทานก็ทำไม่ได้ เพราะมี พ.ร.บ.คนพิการแล้ว หากจะไปค้าขาย จะไปทำงาน สภาพร่างกายก็ไม่เอื้อ เราจึงต้องเรียกร้องไปยังรัฐบาล ให้ช่วยหาทางออกให้กับคนพิการ ผู้ค้าหวยใบ ชาวไร่ ชาวนา ที่ยังเข้าไม่ถึงเทคโนโลยี เพื่อให้พวกเราสามารถอยู่ในสังคมได้โดยไม่เป็นภาระใคร
ดร.ณรงค์ ยังเผยถึงโอกาสที่จะได้เห็นม็อบคนพิการในกรณีดังกล่าวว่า ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะในช่วงหลายรัฐบาลที่ผ่านมา เมื่อมีม็อบคนพิการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งเข้ามารับฟังและแก้ไขปัญหา แต่การทำม็อบในรัฐบาลลุงตู่ กลับถูกมองว่าคนพิการเป็นศัตรู เป็นผู้ทำผิดกฎหมาย ต่อให้ประท้วงเท่าใดก็ไม่มีใครฟัง และคนพิการรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ รู้สึกว่ารัฐบาลมองคนพิการว่าเป็นแค่คนกลุ่มแรกที่จะคิดถึงเวลาหาเสียง และคิดถึงเป็นคนสุดท้ายเมื่อจะกำหนดนโยบายต่าง ๆ วันนี้คนพิการจึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลมองว่า คนพิการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม และขอให้ดูแลคนพิการให้เท่าเทียมกับคนทั่วไป
‘คนพิการ’ ตัดพ้อยอดขายสลากฯลดวูบ 50% ลูกค้าแห่ซื้อแบบ N3 วอนช่วยเหลือ