เพราะเมาแล้วขับ EP.1 เปิดชีวิตเหยื่อ ต้องกำพร้าแถมพิการตั้งแต่ 3 ขวบ
[/p]
[b]จุดเริ่มต้นการสูญเสียจากคน 'เมาแล้วขับ' :[/b]
ทีมข่าวฯ และปลายสายขอพาผู้อ่านทุกท่าน นั่งไทม์แมชชีนที่เรียกว่า ความทรงจำ ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อน เมื่อครั้งที่ นายอดิศักดิ์ ยังเป็น ด.ช.อดิศักดิ์ วัย 3 ขวบ อย่างไรก็ตาม แอ๊ดเอ่ยก่อนจะเล่าเรื่องราวให้เราฟังว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนั้นผมจำไม่ได้ทั้งหมด มีคนมาเล่าให้ฟังอีกที
คุณพ่อ คุณแม่ และแอ๊ด จอดรถซาเล้งติดไฟแดงอยู่บริเวณที่แยกท่ามะกา จ.กาญจนบุรี หมุดหมายของ 3 ชีวิต คือ การเดินทางไปหาคุณปู่ที่อยู่ตลาดท่าเรือ ระหว่างนั้น คุณแม่ได้สังเกตเห็นว่า รถเมล์ประจำทางของ อ.บ้านโป่ง สภาพเก่า ทรุดโทรม กำลังขับมาจากด้านหลังด้วยความเร็ว ไม่มีทีท่าว่าจะเบรกรถ สัญชาตญาณความเป็นแม่จึงรีบปกป้องลูกน้อยสุดชีวิต
"ตอนนั้นผมยังเด็กมาก พอแม่เห็นว่ารถกำลังพุ่งเข้ามา จึงตัดสินใจโยนผมออกจากรถ หลังกระแทกเข้ากับฟุตปาท ทำให้อวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บ กระดูกหัก ทำให้ผมเดินไม่ได้ตั้งแต่ตอนนั้น"
หลังจากโยนน้องแอ๊ดออกจากรถซาเล้ง รถเมล์ได้พุ่งเข้าปะทะ 2 ชีวิตเต็มแรง ทำให้คุณพ่อเสียชีวิต ณ ที่เกิดเหตุ ส่วนคุณแม่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากแพทย์พยายามยื้อชีวิตอยู่ 2 วันก็ไม่เป็นผล พิษบาดแผลที่เกิดขึ้นทำให้คุณแม่ถึงแก่กรรมแบบไม่มีวันหวนกลับ
คุณอดิศักดิ์ เล่าความทรงจำอันเลือนรางให้เราฟังว่า เท่าที่ผมจำได้เอง ตอนนั้นลืมตาขึ้นมาด้วยความสะลึมสะลือ ภาพตัดไปตัดมาคล้ายกับในหนัง ผมนอนอยู่บนรถกระบะ ซึ่งมีแม่นอนอยู่ข้างๆ แต่ไม่รู้ว่าพ่ออยู่ไหน ไม่ทราบว่าสภาพร่างของพ่อเป็นยังไงบ้าง แล้วผมก็สลบ ฟื้นอีกทีก็ผ่านไปหลายวันแล้ว
ส่วนคู่กรณี ผมทราบมาว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบรถพบขวดเหล้าขาว ส่วนคนขับอยู่ในอาการไม่ค่อยมีสติ เรียกง่ายๆ ว่า 'เมา' ผมไม่ทราบว่าบนรถมีผู้โดยสารคนอื่นหรือไม่ แต่มีคำถามคาใจว่า ทางเจ้าของรถปล่อยให้เขาออกมาขับได้ยังไง?
แต่การสูญเสียของ ด.ช.อดิศักดิ์ ไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น เขาเปิดใจกับทีมข่าวฯ ว่า "ตอนที่ผมยังไม่ฟื้น ยายกินยาฆ่าตัวตาย เพราะตรอมใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" ชีวิตของเขาจึงเหลือเพียงคุณตา และพี่ชาย ส่วนญาติทางฝั่งคุณพ่อ ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก
เพราะเมาแล้วขับ EP.1 เปิดชีวิตเหยื่อ ต้องกำพร้าแถมพิการตั้งแต่ 3 ขวบ